“แพรรี่ ไพรวัลย์” แต่งหญิงฟาดสนั่น เปิดหมดเปลือก! ดราม่า ความรัก และชีวิตในอดีต
เป็นอีก EP ที่มีแต่คอมเมนต์ในแง่ดีงาม สำหรับรายการ ห้าวเก้ง ของสองเพื่อนซี้ พิชญ์ กาไชย และ โยชิ-นิมิต มนัสพล ซึ่งออนแอร์ทางช่องยูทูบ SIXTWELVE STUDIO โดยในเทปนี้ทั้งคู่ได้แขกรับเชิญคนพิเศษ อย่าง แพรรี่ หรือ ไพรวัลย์ วรรณบุตร อดีตพระนักเทศน์ชื่อดังมาชำแหละวงการสงฆ์แบบละเอียดหมดจดทุกแง่มุม พร้อมเผยจุดเปลี่ยนสุดจึ้ง! ถอดสบงแล้วทรงพลัง
บวชตั้งแต่อายุเท่าไหร่ ?
“12-13 เป็นคนท่าใหม่ จันทบุรี ตอนไปบวช เพราะญาติพี่น้องมีคนบวชอยู่ก่อนแล้ว ความคิดคนชนบทการส่งลูกไปบวชเป็นการขยายโอกาสทางการศึกษา เด็กช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ถ้าคุมไม่ดีจะเตลิดเปิดเปิงไปเลย”
ครั้งแรกถูกบังครับ ?
“ไม่เชิงบังคับ พ่อแม่ให้เลือกว่าจะเรียนต่อหรือบวช ถ้าเรียนต่อแม่อาจส่งได้ถึงมัธยมนะ บ้านมีฐานะคะ (หัวเราะ) ฐานะยากจนมาก ไปบวชเราก็ไปเรียนทางพระ สมัยก่อนบ้านนอกลูกหลานไปบวชแล้วเป็นมหาเปรียญจะเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล การเรียนเป็นวิธีทางธรรม เรียนคัมภีร์พระพุทธศาสนาโดยตรง แล้วเรียนที่เป็นภาษาบาลีโดยตรง”
มีความรู้สึกอยากสึกไหม ?
“ถ้าบอกว่าไม่มีก็โกหก อยากสึกเป็นช่วงๆ เจอเหตุการณ์อะไร เช่นเราถูกส่งไปเรียนต่างจังหวัด เราถูกเพื่อนเกลี้ยง ถูกบูลลี่ เราไม่มีเพื่อนเลย เขาเหมือนส่งเราไปให้อยู่ไกลที่สุด ให้อยู่ได้ ถ้างอแงจะได้กลับบ้านไม่ได้เพราะไม่มีเงินค่ารถ ถูกส่งไปอยู่โน่นเลย”
ในสังคมพระเณรก็มีการบูลลี่ ?
“โหย...เยอะ แล้วดิฉันเป็นเด็กที่ดำเมี่ยงเลย คนอื่นอยู่ภาคเหนือหมด ตี๋ๆ ขาวๆ เราก็ดำเมี่ยงเลย ไม่เข้าพวกเข้าฝูง แต่เราไม่เล่นเพื่อนนะคะ ข้างในก็มีเล่นกันบ้าง”
รับมือยังไง ?
“เราก็ทนอยู่ เพราะตอนเด็กเราไม่ได้มาคิดเรื่องบูลลี่เรื่องสิทธิเราไม่มี เราก็หาจุดแข็งให้อยู่รอด ถ้ารูปลักษณ์ภายนอกหน้าตาเราสู้เขาไม่ได้ แต่อะไรที่เราไม่ได้ด้อยไปกว่าคนเหล่านั้น คือสติปัญญาและความสามารถของเรา เราชูเรื่องนี้เต็มที่ เราขยันเรียนให้เห็นว่าเราเรียนแล้วได้รางวัล เราขยัน ไม่เคยเรียนตก ซึ่งมันเรียนยากค่ะ รุ่นเดียวกันไม่มีใครรอดสักคน”
เปรียญเก้าจบได้ต้องนับถือ ?
“ยากค่ะ สอบ 500-600 ปีหนึ่ง แต่ได้แค่ 20-30 เพราะมันใช้ความจำ”
ได้อะไรในการเรียนจบเปรียญเก้า ?
“ตอนแรกก็ไม่เข้าใจ เป็นเด็กบ้านนอก คิดว่าไปเรียนจะได้มีความรู้มีการศึกษา แต่ประโยคเก้าเรียนเพื่อไต่เต้าอะไรหลายอย่าง มันเหมือนใบเบิกทาง พระผู้ใหญ่ก็เอ็นดูคุณ ยิ่งต่างจังหวัดหายากมาก บางจังหวัดไม่มีเปรียญเก้าแม้แต่รูปเดียว บางจังหวัดมีแค่สองรูป ฉะนั้นเวลาเป็นตัวเลือกคุณจะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่ได้รับ เป็นเจ้าคณะอำเภอ จังหวัด โน่นนี่นั่น บางรูปไม่จบก็มี แล้วแต่คำว่าดวง”
เส้นสาย ?
“แน่นอน วงพระกับวงไพ่ก็ไม่ต่างกัน (หัวเราะ) ทุกวงการมันจะมี แต่ไม่ได้เหมารวมทั้งหมด พระที่ท่านไม่แยแสเรื่องนี้ ดีๆ มีเยอะ”
รู้ว่าเป็น LGBT นานหรือยัง ?
“ความเป็น LGBT มันมีอยู่ในตัวเรา แต่พอเราไปบวช ด้วยความเป็นเด็ก แล้วเราอยู่ในผ้าเหลืองการที่จะมาสนใจเรื่องนี้เลย มันไม่มี เพราะเพศนักบวชทำให้เราต้องไปทางอื่น ไปเรื่องเรียน บริบทมันบังคับ”
เป็นพระการช่วยตัวเองทำไม่ได้ ?
“ทำไม่ได้ มันอาบัติหนักนะคะ แต่พระหลายรูปก็ยังสังคาฯ กันอยู่ ธรรมชาติการที่ผู้ชายจะไม่หลั่งอสุจิ เป็นไปไม่ได้นะคะ ไม่งั้นจะมีฝันเปียกเหรอ แต่ว่าคุณห้ามทำโดยตั้งใจ การที่คุณฝัน มันเคลื่อนเองตามธรรมชาติ ไม่ปรับอาบัติ แต่ถ้าคุณจงใจ ตำแตงกัน (หัวเราะ) ซึ่งมันก็มี ไม่งั้นจะมีแชตหลุดสันเขื่อนเหรอคะ”
มีเพื่อนตำแตง ?
“เรื่องนี้เป็นเรื่องร้ายแรง ของพระจับได้หรือไม่ได้ ถ้าคุณละเมิดคุณผิดเลย พระส่วนใหญ่จะไม่แคร์ ไม่ออก เชิดๆ อยู่อย่างนี้”
ถ้าใครรู้ว่าอาบัติก็ไปปลงอาบัติได้ ?
"บางอย่างก็ได้ บางอย่างก็ไม่ได้ เช่น วันนี้ฉันหิวขอโซ้ยมาม่าหน่อย อันนี้ก็ปลงได้ แต่ไม่ใช่ว่าพรุ่งนี้ก็เอาอีก ปลงอาบัติเหมือนสารภาพบาป ก็บอกกับพระด้วยกัน สมมติเรานั่งกินอาหารด้วยกันกลางคืน พรุ่งนี้เข้าโบสถ์อาบัติไม่หาย เพราะคุณทำผิดร่วมกัน คนเลวกับคนเลว ไม่ได้ ต้องไปกับพระรูปอื่น ที่จริงการปลงอาบัติเป็นธรรมเนียมที่ต้องปลงทุกครั้งเวลาทำสังฆกรรม แต่ถามว่าบริสุทธิ์ไหม มันก็ไม่หรอก”
การจบเปรียญเก้าเป็นอะไรที่ยากและหนักมาก แต่ทำไมเราถึงอยากสึก ?
“ตอนเราจบเราเริ่มหันเหความคิดเรา ตอนอยู่ต่างจังหวัดเป็นลูกรักหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอ ไปไหนนั่งรถเบนซ์ ดิฉันเป็นเณรแต่พระในจังหวัดให้เกียรติดิฉันมาก เพราะเป็นสามเณรที่เปรียญสูง เราก็จะติดความเป็นพระแบบไฮคลาส ฉันมีระดับ ไม่ใช่เณรธรรมดา ก็มีกิเลสกันทั้งนั้น อยากเติบโต อยากไต่เต้า แต่พอเรียนจบวิธีคิดเริ่มเปลี่ยน เราเริ่มอ่านหนังสือสังคม การเมือง หนังสือปัญญาชน เขาเขียนด่าคณะสงฆ์ เราก็เริ่ม เอ๊ะ! เช่นเขาบอกว่าพระหลายรูปเป็นลูกชาวบ้านชาวนา แต่พอบวชมาอยากทำตัวแบบเจ้า เราก็เออ จริงนี่หว่า เราลืมตัวเองนี่หว่า เริ่มไม่ใช่แล้ว ก็หันหลังให้พวกเหล่านี้เลย แล้วก็เริ่มวิจารณ์คณะสงฆ์ด้วยกันเอง มีความขบถเล็กๆ แล้ว”
ทำให้ดึงปัญหาเข้าหาตัว ?
“เยอะเลย ทำให้เราอยู่ยาก สังคมพระเริ่มแคบ พระผู้ใหญ่จะไม่ค่อยชอบเรา เหมือนเราไปเปิดโปง ทำไมมึงจบประโยคเก้าแล้วไม่เป็นพวกเดียวกับกู มึงไม่อ่อนน้อมถ่อมตน คลานเข่า”
อยากรู้เรื่อง LGBT ในสังคมพระ มีที่รู้ไหมคนนี้ไปทำอะไรมา?
“รู้ นางไปเที่ยวต่างประเทศ แล้วไปควงหนุ่ม เป็นพระแต่ชอบโชว์รูปเด็กบ่อยๆ ในเฟซ ถามว่าถึงขั้นใส่วิกไหม มี แต่ที่ดิฉันอยู่ไม่ถึงขนาดนี้ เพราะหูตามันเยอะ แต่ถ้าต่างจังหวัดเหมือนที่เราเห็นข่าวกัน มันก็มี กลางวันสวมสบง กลางคืนใส่วิก เป็นพระตุ๊ด พระกะเทยไปเลยก็มี แล้วก็มีที่ออกตัวแรงโนสนโนแคร์ เดินบิดเลย ส่วนใหญ่พระที่เคร่งคือพระบวชไม่นาน 15 วันหรือพรรษานึง จะปฏิบัติตัวดีมากแต่อยู่นานๆ เริ่มออกลาย 15 วันบวชถามหานิพพาน แต่บวชนานๆ ถามหานรกค่ะ (หัวเราะ)”
ทำไมต้องกราบไหว้ตอนบวช การกราบไหว้ต้องเคารพ?
“การกราบไหว้อยู่ที่ความสมัครใจ ถ้ามองด้วยความเชื่อทางศาสนาก็ไม่ค่อยติด เพราะอย่างพี่พิชญ์ไปบวช คุณก็ต้องรักษาศีลให้มากกว่าดิฉัน ดิฉันไม่ได้กราบตัวคุณ แต่กราบคุณธรรมที่คุณสัญญาว่าจะรักษาและดำรงไว้ ฉันก็ยอมกราบ แต่ถ้าเห็นว่ายังเหมือนเดิม ก็ไม่จำเป็นต้องกราบแค่นั้นเอง”
ตอนยังเป็นพระ คนรู้ไหมว่าเป็นเก้ง ?
“ก็ต้องมีคนเห็นปฏิกิริยา เห็นปาก เห็นคำพูดเราเยอะค่ะ ไม่ใช่แค่ดิฉัน พระบางรูปที่ดังกว่าดิฉันก็ยังโดนบูลลี่ โดยบุคลิกภาพของท่าน ถามว่ารู้สึกอะไรไหม ไม่รู้สึกค่ะ แต่ความโกรธต้องมีนะ ถ้าบอกว่าไม่มีคือโกหก พระคือปุถุชน ก็ต้องมีความโกรธ แต่วิธีจัดการความโกรธก็ต้องเอื้อให้ทำ เช่นพระฟาดมาฟาดกลับก็ไม่ได้ อีด-กก็ไม่ได้ (หัวเราะ) ว่าไงมึงอีโยม อีด-ก ไม่ได้ แต่สึกมาแล้วก็มาดิ แฟร์ๆ กัน”
ทำไมเป็นพระ เป็นตุ๊ดไม่ได้ ?
“เป็นพระต้องเลือกอย่างเดียว เลือกหลายอย่างไม่ได้ เป็นพระเป็นเพศบรรพชิต คุณจะไปให้ความสำคัญเพศสภาพอื่นที่ไม่ใช่เพศบรรพชิตไม่ได้ เพราะเป็นพระต้องอยู่ในกรอบของความเป็นพระ คุณต้องเลือก ถ้าบางอย่างความเป็นพระให้กับ LGBTQ ไม่ได้ คุณต้องไม่เลือกมันตั้งแต่แรก เหมือนบางอย่างความเป็นพระให้ไม่ได้ เหมือนคุณอยากเสพเมถุน อยากมีเพศสัมพันธ์ คุณก็ต้องเลือกความเป็นฆราวาสแล้วคุณก็มีเพศสัมพันธ์ไป แต่คุณจะเลือกเป็นเพศบรรพชิต เพราะคุณต้องรู้ก่อนก้าวเข้าไปก่อนว่าเพศบรรพชิตมันมีกรอบ และให้เป็นตัวคุณได้มากแค่ไหน”
เหมือนหน้าที่การงาน ที่บอกว่ารับแต่ชายหญิง ไม่รับกะเทย ไม่รับเก้ง ถ้าเป็นอาชีพอื่น อาชีพนี้โดนทัวร์ลงแล้วนะ ?
“ความเป็นนักบวช เปิดรับ LGBTQ นะคะ ดิฉันไฟต์ติ้งกับใครหลายคนแล้วว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามให้ LGBTQ บวช ตราบใดที่มีองคชาด อ้างโดยสมันตปาสาทิกา อรรถกถาอธิบายพระวินัยว่าด้วยการบวช อย่าให้ต้องสาธยายว่าอยู่หน้าที่เท่าไหร่ เพราะบอกไม่ได้ค่ะ (หัวเราะ) ไม่ได้บวชเข้าไปเพื่อเป็น LGBT แต่บวชเข้าไปเพื่อไปเป็นพระ เป็นนักบวช”
ถ้าวันที่เป็นพระบอกว่าเป็น LGBT เราเปิดตัวได้ไหม ?
“ได้ หลายคนก็เคยเป็น อย่างหลวงพี่แจ๊ส เขายังบวชอยู่จนถึงทุกวันนี้ เขาเป็นอดีตมิสทิฟฟานี่นะคะ เขาอยู่ได้เพราะทำตามกรอบพระธรรมวินัย”
สึกออกมาแล้วเป็นยังไงบ้าง ?
“รู้สึกโอเพ่น เหมือนเราอยู่ในคอก ต่อให้เป็นคอกที่ดี อยู่ในกรอบบางอย่างก็ได้กระโดดออกมา สู่ทุ่งกว้าง แม้ออกมาแล้วเจออะไรที่เราไม่พึงปรารถนา แต่มันโอเพ่นสำหรับดิฉัน เป็นสนามที่ทำให้ดิฉันเป็นตัวเองเต็มที่ ดิฉันอยากเรียนรู้ตัวเองในมิติอื่นๆ แบบที่ตัวเองอาจเคยเป็นก่อนบวช หรือคิดจะเป็น แต่เป็นพระแล้วมันเป็นไม่ได้”
อึดอัดไหม เหมือนเราเป็นตัวเองไม่ได้ ?
“มีคำถามแบบนี้เยอะ ว่าเป็นพระมึงเก็บกดอ่ะดิ การที่ดิฉันแต่งตัวแบบนี้ไม่ได้หมายถึงดิฉันเก็บกด ทำไมไม่มองว่าดิฉันรู้บริบทและกาลเทศะของดิฉัน ทำไมไม่มองมุมนี้ พอมุมหนึ่งดิฉันมูฟแล้ว แต่ปัญหาหลายคนคือตัวมูฟแต่ใจไม่มูฟ แล้วคุณจะใช้ชีวิตต่อยังไง ใจคุณออกมาเป็นฆราวาสแล้ว แต่ใจคุณยังติดผ้าเหลือง คนต้องมาเคารพกราบกรานคุณ คุณใช้ชีวิตทุกวันก็ทุกข์ทุกวัน ดิฉันไม่อยากมีชีวิตแบบนั้น”
บางกฎเกณฑ์ควรมีการอัปเดต ?
“เรามีความรู้สึกอยู่แล้ว บางข้อมันใช้ได้ไม่จริงหรอก เห็นชัดๆ เรื่องรับเงินรับทอง ในชีวิตพระมากกว่า 80 ล้วนละเมิดอาบัติทั้งนั้น พระห้ามเก็บอาหารไว้เกิน 7 วัน แต่พระส่วนใหญ่มีตู้เย็นทั้งนั้น (หัวเราะ) มีไวน์พอเข้าใจ แต่มีถุงยางไว้ทำไมคะ ไว้นัดผัวหรือยังไง”
มีข่าวเสียมากกับประเทศไทย เรารู้สึกยังไง ?
“ไม่รู้สึกอะไรเลย เป็นเรื่องปกติ อย่าลืมนะคะ วินัยพระมีตั้ง 227 ข้อ และ 227 ข้อพูดแต่เรื่องไม่ดีทั้งนั้น เพราะความไม่ดีมีมาตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าแล้ว มันถึงมีกฎมีข้อห้าม ดิฉันมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะดิฉันไม่ได้ศรัทธาพระทุกรูป ยิ่งพระในข่าวยิ่งไม่ได้ศรัทธา ดิฉันเลือกศรัทธาพระ”
เด็กยุคนี้ศรัทธาพระพุทธศาสนาน้อยลง มีช่องว่างแปลกๆ วัดเหมือนจะปลอดภัย ?
“แต่ตอนหลังมีคนตั้งคำถามเยอะ แล้วผู้ปกครองไม่ส่งลูกไปบวชเณรภาคฤดูร้อนเลย เพราะลูกมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับพระ เด็กไปเจออะไรที่ไม่พึงปรารถนา อย่าซีเรียสเลยค่ะ อยู่ไม่ไหวก็ออกมา”
ออกมาเซอร์ไพรส์กับเรื่องอะไร คนไทยชอบออกความเห็นไม่ดีเยอะ รับมือนักเลงคีย์บอร์ดเก่งมาก ด่าสับ ?
“ตอนหลังมีความละเมียดมากขึ้นเพราะถ้าพิมพ์ส่งเดช มั่วซั่ว เพจบิน ย้อนกลับมาไม่กลัว แต่กลัวเพจบิน ถูกบล็อก 6 วัน แสดงความคิดเห็นไม่ได้ 6 วัน คันมือมาก แล้วก็รู้สึกว่าไม่แฟร์เลย อีคนที่ด่ากูไม่โดน อีมาร์กคืออะไรของมึงก่อน แต่เป็นเรื่องขำๆ ไม่ซีเรียส ดิฉันด่าก็จริงแต่มองเป็นขำๆ”
เปิดรายการแรกที่ไหน ที่แต่งหญิง ?
“รายการแฉเลยค่ะ ที่ใส่ชุดไทยไปออก ถ้าแต่งสาวมาคุยเรื่องวัดๆ รายการนี้รายการแรก”
อยากเปลี่ยนเป็นผู้หญิงเลยไหม ?
“ตอนนี้ยัง เพราะรู้สึกว่าบางวันอยากเป็นผู้ชาย ไม่ได้พูดเล่นนะ รู้สึกตัวเองหัวเกรียนๆ แบบเด็กมัธยม ก็เท่ดี เป็นกะเทยแต่มีงู (หัวเราะ) เลี้ยงงูบน งูล่าง”
มีจุดไหนที่จะแต่งเป็นผู้หญิงออกรายการ ?
“ออกรายการแฉก็หัวเกรียนนะคะ แต่ว่าการแต่งหญิงไม่ได้มาจากคอนเซ็ปต์ว่าสิทธิ LGBT มันมาจากคอนเซ็ปต์ที่ว่า หลังเราไปอยู่บ้านแล้วเราค้าขาย เราทำน้ำพริก เรารู้สึกว่าถ้าแต่งตัวไม่มีอะไรเลย มันดูไม่น่าสนใจ ตอนนั้นคังคุไบกำลังมาแรง ดิฉันไปเดินที่พาหุรัด เห็นสาหรี่สีขาวก็อยากใส่”
มันอาจต้องใช้ความกล้าเหมือนกัน แล้วไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อะไรทำให้รู้สึกอยากแต่งหญิงไปออกรายการ ?
“ดิฉันไม่ต้องใช้ความกล้าเยอะ เพราะไม่ค่อยแคร์ปากกับสายตาคนอื่น คนด่าดิฉันตลอดว่าดิฉันเฟียสกี เป็นภาษากะเทย แต่ดิฉันสนับสนุนให้ทุกคนมีความเฟียส ความมั่น ไม่ใช่มั่นหน้ามั่นโหนก แต่มีความมั่นใจในตัวเอง ถ้าอะไรที่เราทำแล้วมีความสุขของเรา สบายใจไม่ได้เดือดร้อนใครเลย ทำไมต้องให้ปากคนอื่นมากลบความรู้สึกที่ควรทำเพื่อตัวเองของเธอ”
ตั้งแต่แต่งหญิงมีคนจีบไหม ?
“มีคนเข้ามาขายค่ะ (หัวเราะ) ไมได้ขายขนมจีบค่ะ ขายประกันกับเครื่องกรองน้ำเยอะมาก ไม่มีคนจีบค่ะ”
ตั้งแต่เกิดไม่เคยมีความรัก ?
“มีค่ะ ทุกคนต้องเคยมีความรัก ตอนหลังสึกก็มี ที่ดราม่ากับหนุ่มเกาหลี เราก็รู้แหละว่ามันคืออะไร สำหรับเราชีวิตขาดคนรักได้ แต่ชีวิตขาดความรักไม่ได้ค่ะ ทุกวันนี้รักตัวเองค่ะ”
คุณแม่ ?
“คุณแม่ภูมิใจ ดีแล้วที่มึงสึกออกมา (หัวเราะ) กูบอกมึงตั้งนานแล้ว แล้วแม่ส่งหนูไปบวชทำไม 18 ปีถ้าแม่ไม่ส่งไปบวชหนูกินยาคุมตั้งแต่ 12 หนูเป็นผู้หญิงมากกว่านี้อีก เสียเวลา”
ตอนนี้ทำอะไรบ้าง ?
“รับงานรีวิว แต่ตอนนี้เป็นแม่ค้าขายของผ่านเพจ ทำน้ำพริกกากหมู น้ำพริกหนังไก่ เราสร้างงานให้ญาติเราให้ป้าเรา คนงานคนหนึ่งอายุ 83 ไม่รู้กระทรวงแรงงานจะเข้าไหมนะคะ ป้าเขาสมัครใจมาทำเอง เขาดีใจนะ เขาได้ค่าแรง 200 300 400 ดีกว่าเขาอยู่เฉยๆ ดีกว่ารอเงินผู้สูงอายุ 600 จะพออะไร”
กระแสตอบรับการเปลี่ยนลุค ?
“ดี ดีใจที่มีกลุ่มคน พี่ๆ เอฟซีเอ็นดูเรา ยังตามกดไลก์ให้เรา ให้กำลังใจเรา ทำให้เราสามารถมูฟไปได้”
ฝากถึงคนเผือก ?
“หน้าที่เราคือทำทุกอย่างเพื่อความสุขและรักตัวเองให้มากๆ ดิฉันคิดว่าตราบใดที่เรารักตัวเองมากพอ เราจะปกป้องตัวเองจากความบอบช้ำได้ทุกอย่าง ไม่มีอะไรทำให้ดิฉันเฟล เพราะดิฉันรักตัวเองมากพอ”
จุดที่เป็นตอนนี้มีความสุขมากกว่าไหม ?
“มีความสุขทั้งคู่เลย ไม่มีอันไหนที่รู้สึกว่าน้อยกว่ากัน ทุกเรื่องราวที่เกิดกับดิฉันเป็นเรื่องราวดีๆ หมด ที่บ้านยังมีรูปตอนเป็นพระ เรามองก็รู้สึกว่าครั้งหนึ่งเราเคยผ่านอะไรมา เราเคยนั่งไลฟ์เป็นพระ แล้วสร้างเสียงหัวเราะให้กับคน ให้แง่คิดคน สึกออกมาก็เป็นอีกอย่างนึง ดิฉันจะเอารูปตอนดิฉันเป็นพระกับตอนเป็นกะเทยใส่กรอบใหญ่ๆ เป็นบีฟอร์อาฟเตอร์ แรดทั้งคู่”
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ