นาจิบ ราซัก อดีตนายกฯ มาเลเซีย เจอคุก 12 ปี ปมทุจริตกองทุน 1MDB
ศาลส่วนกลางของมาเลเซีย อ่านคำพิพากษาจำคุกนายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย วัย 69 ปี เป็นระยะเวลา 12 ปี เมื่อวันอังคาร (23 ส.ค.) จากการทุจริตเงินของบริษัท เอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นบริษัทลูกของกองทุน 1MDB (วันเอ็มดีบี)
คำพิพากษานี้เป็นการยืนตามคำพิพากษาชั้นต้นเมื่อเดือน ก.ค. 2563 และศาลอุทธรณ์เมื่อเดือน ธ.ค. 2564 ที่ให้จำคุกนายนาจิบ 12 ปี และปรับเงิน 210 ล้านริงกิต (1,690 ล้านบาท) หลังจากพบว่านายนาจิบรับเงิน 42 ล้านริงกิต (338 ล้านบาท) มาจากบริษัทเอสอาร์ซีเข้าบัญชีส่วนตัว ในช่วงระหว่างเดือน ธ.ค. 2557 จนถึง ก.พ. 2558
เมื่อไม่นานมานี้ ทีมทนายความของนายนาจิบพยายามถอนตัว แต่ไม่เป็นผล จึงปฏิเสธในการซักถามหรือให้การต่อศาลเพื่อต่อสู้คดีให้กับนายนาจิบ ซึ่งนายนาจิบมองว่าเป็นทนายความทีมนี้ทอดทิ้งตน
เหตุนี้ทำให้ก่อนการอ่านคำพิพากษา นายนาจิบจึงขอให้ศาลยืดเวลาออกไปอีก 2 เดือน เพื่อให้ทีมทนายความชุดใหม่เตรียมต่อสู้คดี แต่ศาลไม่อนุญาต ก่อนอ่านคำพิพากษาดังกล่าว
คดีนี้เป็นเพียงหนึ่งในหลายคดีที่นายนาจิบยังต้องต่อสู้ต่อไป ซึ่งคดีเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการทุจริตกองทุนวันเอ็มดีบีและหน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงาน ซึ่งนายนาจิบปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
วันเอ็มดีบี จากมาเลเซียสู่ไทย
ประเด็นเกี่ยวกับกองทุนวันเอ็มดีบีนั้น กลายเป็นข่าวดังในประเทศไทยหลังจากอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคอนาคตใหม่ นางสาวพรรณิการ์ วานิช นำเรื่องนี้มาอภิปรายนอกสภาฯ เมื่อเดือน ก.พ. 2563 โดยตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือให้ผู้ทีมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้เดินทางหลบหนีเข้าประเทศไทยหรือไม่
Lillian SUWANRUMPHA / AFP
เหตุนี้ทำให้โฆษกรัฐบาลแถลงข่าวปฏิเสธทันทีต่อสื่อมวลชน และกล่าวว่าจะดำเนินคดีนางสาวพรรณิการ์ด้วย
ด้านนายทอม ไรท์ ผู้เขียนหนังสือ Billion Dollar Whale (บิลเลียน ดอลลาร์ เวล) ที่มีเนื้อหาเปิดโปงขบวนการยักยอกเงินจากกองทุนวันเอ็มดีบี โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ถึงการเคลื่อนไหวนี้ของโฆษกรัฐบาลไทยว่า ตนไม่แปลกใจเลยสักนิดที่รัฐบาลไทยไม่จับกุมนายโจ โลว์ ทั้งที่มีหมายจับจากตำรวจสากล