"พี่ฉอด สายทิพย์" เปิดใจจัดเต็ม! ดงดอกไม้ ละครที่ยังถ่ายไม่จบของ "พิ้งกี้ สาวิกา"
นับเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนที่หลายคนจับตามอง สำหรับโปรเจกต์ละคร ดงดอกไม้ ที่น่าจะได้รับผลกระทบจากกรณีที่นางเอกสาว พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช ตกเป็นจำเลยที่สอง คดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอกับ พี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ผู้บริหาร เช้นจ์2561 ผู้ผลิตละครเรื่อง ดงดอกไม้ จึงได้เข้าไปสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าว ซึ่งก็ได้คำตอบว่า...
ฉอด - อย่างที่ทราบกันนะคะว่าดงดอกไม้มีน้องพิ้งกี้เป็นหนึ่งดารานำแสดงด้วย และพอมาถึงตอนนี้ ก็คือ...ดงดอกไม้เป็นละครที่เราถ่ายกันมาเป็นปีแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็น่าจะประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ เหลือแต่ช่วงตอนท้ายๆ ถือวาโชคดีค่ะที่เราถ่ายไล่ๆ มา ส่วนตอนนี้ก็รอดูสถานการณ์อยู่เหมือนกัน ถ้าหากจำเป็นจะต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจริงๆ เราก็จะดูเรื่องของบท การปรับบท หรือว่าปรับในเรื่องของโปรดักชั่น แต่สิ่งสำคัญคือต้องไม่ให้คนดูเสียอรรถรส และก็ต้องสนุกเข้มข้นเหมือนเดิม
ในส่วนของการถ่ายทำยังมีคิวของพิ้งกี้ไหม ?
พี่ฉอด - ยังมีค่ะ ยังมี
เอส - คือจริงๆ แล้วในแง่ของการถ่ายทำเราก็ถ่ายกันมาตามลำดับขั้นตอนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นในพาร์ตที่เป็นบทของพิ้งกี้ก็ถือว่าเราถ่ายไปได้เยอะแล้วเหมือนกัน คืออาจจะมีบ้างที่หลงอยู่ แต่ทางพี่ฉอดได้มีการไล่ดูบททั้งหมดแล้ว และเราก็ได้เตรียมแพลนบีไว้สำหรับแก้ไขปัญหาแล้วเช่นกัน
ได้มีการติดต่อคนรอบข้างพิ้งกี้ไปบ้างไหม ?
เอส - ก็จะมีผู้จัดการครับที่ต้องประสานงานกับทางทีมงานและทางกองถ่ายในแง่ของการอัปเดต เพราะว่าเรายังมีคิวที่ต้องถ่ายทำกันอยู่
ก่อนหน้านี้เคยมีสัญญานให้เราทราบบ้างไหมว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ?
พี่ฉอด - ไม่มีเลยค่ะ ไม่มีเลย ตัวพี่เองก็ทราบจากข่าว และก็เข้าใจว่าน้องพิ้งกี้เองก็คงไม่ได้ทราบด้วยเหมือนกัน เพราะว่าก่อนวันนั้นประมาณวันพุธเราก็ยังถ่ายละครกันปกติ
มีความเป็นไปได้ไหมที่จะตัดทิ้งไปเลย ?
พี่ฉอด - ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะว่าละครถ่ายจะจบอยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าเป็นเรื่องของการเปลี่ยนตัวหรือการเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดเลย มันคงเป็นไปไม่ได้เพราะว่าเราถ่ายใกล้จะจบแล้ว ที่สำคัญอีก 2 เดือนเราต้องออกอากาศแล้วด้วย ดังนั้นพี่คงใช้วิธีในเรื่องของการปรับบทค่ะ
ตอนนี้ก็รอดูสถานการณ์ ?
พี่ฉอด - รอดูสถานการณ์ก่อนค่ะ เพราะตัวพี่เองก็ไม่ได้มีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมถึงเรื่องของคดีเองก็ตาม ฉะนั้นตอนนี้พี่จึงไม่แน่ใจว่าน้องจะมีโอกาสได้ประกันตัวออกมาทำงานต่อไหม เราก็เลยต้องมีแผนเอแผนบีไว้สำรอง
สามารถรอได้นานแค่ไหน ?
พี่ฉอด - จริงๆ ก็คงไม่กี่วันนี้ค่ะ เพราะละครต้องออนแอร์ในอีก 2 เดือน
ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้ ในแง่ของการทำงานได้รับผลกระทบอะไรบ้าง ?
เอส - ในแง่ของการถ่ายทำยังไม่ถือว่ากระทบนะครับ แต่ในแง่ของการทำบทเราก็ได้ทำการบ้านหลังบ้านแล้วเหมือนกัน คือดูว่าอะไรที่จะกระทบหรืออะไรที่จะปรับเปลี่ยนได้ปรับแก้ได้ ซึ่งตอนนี้เราไม่ห่วงแล้วในแง่ของการแก้ไขปัญหาเพราะเรามีแผนสำรองแล้ว
พี่ฉอด - อย่างที่บอกค่ะ สิ่งสำคัญก็คือเราต้องทำให้ดีที่สุด และไม่ทำให้คนดูเสียอรรถรส
กังวลเรื่องฟีดแบคจากคนดูที่ติดตามข่าวจะมีผลต่อละครไหม ?
พี่ฉอด - อันนั้นต้องแล้วแต่แล้วค่ะ แต่ถ้าโดยส่วนตัวพี่คิดว่าคนดูเขาแยกแยะได้ว่าอะไรตรงไหนยังไง ละครก็คือละครและนักแสดงทุกคนก็ทำเต็มที่สุดความสามารถแล้วจริงๆ
ตั้งแต่ทำละครมาครั้งนี้ถือเป็นปัญหาที่ไม่คาดคิดที่สุดเลยไหม ?
พี่ฉอด - โควิดเราก็เจอค่ะ พี่ทำคอนเสิร์ตแล้วต้องข้ามมาทำอีกปีหนึ่งก็เคยมีมาแล้ว (หัวเราะ)
เอส - ในแง่ของการทำงานเราต้องเจอปัญหาเรื่อยๆ อยู่แล้วครับ ก็แก้ปัญหากันไป