"ฟลุ๊ค ณธัช" มาไกลเกินฝัน 9 ปี เหนื่อยแต่ไม่ท้อ ควักเงิน 7 หลักสร้างธุรกิจของตัวเอง

เป็นนักแสดงที่ค่อยๆ เติบโตในวงการบันเทิงมาอย่างมั่นคง สำหรับ ฟลุ๊ค-ณธัช ศิริพงษ์ธร นักแสดงหน้าหวานขวัญใจแฟนละครและซีรีส์ สวมบทบาทต่างๆ เพื่อพิสูจน์ฝีมือในถนนวงการบันเทิงมากว่า 9 ปี จนตอนนี้ ฟลุ๊ค เติบโตเต็มตัว มีผลงานออกมารัวๆ แบบเรื่องชนเรื่อง และนอกจากผลงานในวงการแล้วตอนนี้ยังขอท้าทายตัวเองครั้งใหม่ในฐานะเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟ THE LITTLE WHITE HOUSE CAFE คาเฟ่สไตล์มินิมอล ย่านแถวพัฒนาการ โดยฟลุ๊คทุ่มเงินในกระเป๋าไปถึง 7 หลักเพื่อธุรกิจนี้ หวังเป็นแลนด์มาร์คให้แฟนๆ ได้มารวมตัวพบปะกัน

ล่าสุด เมื่อมีโอกาส ได้พูดคุยกับ ฟลุ๊ค เลยต้องให้เจ้าตัวพูดถึงชีวิตในช่วงนี้ การเริ่มต้นชีวิตเจ้าของธุรกิจ และเส้นทาง 9 ปี ในวงการบันเทิง ที่เจ้าตัวบอกว่าแฟนๆ มีส่วนสำคัญที่ทำให้เดินมาไกลเกินฝัน

9 ปี ในวงการบันเทิง ความรู้สึกยังคงสดใหม่เหมือนเป็นเด็กอยู่เสมอ

"ตอนนี้เรียกว่ามีงานที่หลากหลายขึ้นครับ แต่ละตัวละครนอกจากคาแร็กเตอร์แตกต่างกันแล้วก็จะมีวัยที่แตกต่างกันด้วย แฟนๆ ก็จะได้เห็นความแตกต่าง ความหลากหลายของแต่ละตัวละครที่ฟลุ๊คเล่นครับ 

"ฟลุ๊คอยู่วงการมา 9 ปี กำลังจะเข้าปีที่ 10 แล้วครับ พอลองมานับดูก็แอบตกใจเหมือนกันว่าเราอยู่มานานแล้วนะ ความรู้สึกคือยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กตัวเล็กๆ อยู่เลย เหมือนเพิ่งเข้าวงการมาได้ไม่นาน เวลา 9 ปี ที่ผ่านมาก็เรียกว่าคุ้นเคยและคุ้นชินกับอาชีพนี้แล้ว แต่ก็ยังมีความท้าทายในแต่ละการทำงานต่างๆ กันไป ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ดีของเรามากกว่าครับ"

"ส่วนเรื่องการรับงาน ฟลุ๊คเองไม่ได้จำกัดว่าต้องเล่นแต่บทแบบนั้น แบบนี้เท่านั้นอะไรแบบนั้นครับ การรับงานของฟลุ๊คคือเรื่องไหนที่เราอ่านบทแล้วชอบ เราอยากเล่น เราก็เล่น คือ เริ่มจากสิ่งที่เราแฮปปี้ก่อน ขออ่านก่อนว่าคาแร็กเตอร์ที่เราเล่นเป็นยังไง แล้วคนดู ดูแล้วเขาจะได้อะไร นั่นคือสิ่งที่ฟลุ๊คให้ความสำคัญครับ ที่ผ่านมาฟลุ๊คก็ได้เล่นบทที่หลากหลายขึ้น แล้วตั้งใจว่าอยากได้บทที่ยากขึ้นไปอีก ท้าทายขึ้นไปอีก ตอนนี้ถามว่ามีบทไหนอยากลองไหม ก็อยากลองบทที่จิตๆ หน่อย อยากตีความการแสดงแบบลึกๆ มันยากนะ แต่ก็น่าลองครับ"

อาชีพนักแสดงให้ทัศนคติ เข้าใจคนมากขึ้น เหนื่อยแต่ไม่เคยท้อ

" 9 ปี ที่ผ่านมา อาชีพนักแสดงให้อะไรหลายๆ อย่างกับฟลุ๊คมาก สิ่งที่เห็นชัดเลยคงเป็นเรื่องของทัศนคติ เพราะอยู่ตรงนี้ทำให้เราได้คิดอะไรมากขึ้น ทำให้เราเข้าใจคนมากขึ้น ทุกอย่างสะสมมาจนกลายเป็นเราในวันนี้ได้ ก่อนจะเข้ามาทำงานตรงนี้ ก็อาจจะมองว่างานในวงการบันเทิงมันสบาย มันง่ายนะ แป๊บเดียวก็ได้เงินแล้ว จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย การแสดงแต่ละอย่างกว่าจะแสดงออกมาต้องเตรียมตัวหนักนะ มันไม่ใช่แบบว่าจะเลือกคนนี้มาแสดงเรื่องนี้แล้วจะเล่นได้เลย ตัวนักแสดงเองต้องเรียน ต้องเวิร์คช็อป เรื่องไหนที่ต้องใช้ทักษะที่ไม่เคยทำมาก่อนเราก็ต้องไปเรียนเพิ่มเติม เตรียมตัวกันค่อนข้างหนัก การถ่ายทำก็ต้องทำงานกันอย่างหนักด้วย ทุกอย่างไม่ได้ได้มาแบบง่ายๆ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ต้องใช้ความอดทนและความขยัน"

ฟลุ๊ค ณธัช

"ถามว่าเหนื่อยไหม มันเหนื่อยแต่มันไม่เคยท้อ ที่เหนื่อยก็คือเหนื่อยเพราะเราทำงานค่อนข้างหนัก ถ้าคนทำงานตรงนี้จะรู้ว่าการออกกองแต่ละวันก็ค่อนข้างเหนื่อย ตัวนักแสดงว่าเหนื่อยแล้วคนที่เหนื่อยกว่าเราก็คือคนทำงานเบื้องหลัง เขาต้องเตรียมงาน มาก่อน กลับทีหลัง เราเหนื่อยแค่นี้เราก็รู้สึกว่าโอเค หลายคนเหนื่อยกว่าเราด้วยซ้ำ มันเลยเป็นแรงผลักดันเราด้วย"

"ส่วนอนาคตที่มองไว้สำหรับวงการบันเทิง ฟลุ๊คก็มองว่าอยากจะทำงานเบื้องหน้า ทำการแสดงไปเรื่อยๆ ในอนาคตถ้ามีโอกาสก็อยากไปทำเบื้องหลังดูบ้าง แต่ก็ต้องดูโอกาสด้วยว่าจะยังไง"

"การวางตัวหรือการแสดงออกก็ไม่ได้เกร็งหรือต้องกดดันอะไรเลยครับ เพราะฟลุ๊ครู้สึกว่าแฟนคลับทุกคนที่เขาชอบเรา เขาชอบที่ความเป็นเราอยู่แล้ว ดังนั้นการที่เราอยู่กับเขา เราก็เป็นตัวของเราอย่างเต็มที่ซึ่งเขาเองก็แฮปปี้ในตัวตนของเราอยู่แล้วครับ แฟนคลับเขามองฟลุ๊คเป็นความสดใส เป็นพลังบวกสำหรับเขา เป็นกำลังใจของเขาครับ"

ทุ่มเงิน 7 หลัก สร้างคาเฟ่ของตัวเอง เริ่มต้นชีวิตเจ้าของกิจการ

"กับแฟนคลับช่วงที่ผ่านมาแทบจะไม่ค่อยได้เจอเลย แต่พอเริ่มมีการผ่อนปรนมาตรการลงก็มีเริ่มได้เจอกันบ้างแล้ว เหมือนว่ามันทำให้เราได้กลับมารักกันมากขึ้น อย่างล่าสุดฟลุ๊คก็ทำคาเฟ่ของตัวเอง แฟนคลับก็แฮปปี้มาก

"ที่เลือกทำธุรกิจคาเฟ่ เพราะจริงๆ ช่วงที่ผ่านมาฟลุ๊คมีความสนใจอยากทำธุรกิจของตัวเองและส่วนตัวเป็นคนชอบดื่มกาแฟ ประจวบกับได้ทำเลแถวบ้านเลยตัดสินใจสร้างคาเฟ่ของตัวเอง ก็ทำเองตั้งแต่เลือกทำเล ออกแบบอาคาร ว่าเราอยากได้แบบไหน การตกแต่งไม่ว่าจะภายนอกหรือภายใน เรียกว่าดูเองทุกอย่างเพราะไม่ได้จ้างสถาปนิกมาออกแบบครับ"

"ถามว่าหนักขึ้นไหม ก็ไม่ถือว่าหนักขนาดนั้นแต่เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบที่มากขึ้นมากกว่า เราต้องบริหารและจัดการ ในเมื่อเป็นสิ่งที่เราอยากทำเราก็ต้องรับผิดชอบ ต้องดูแลให้ต่อยอดไปได้เรื่อยๆ ส่วนงานแสดงก็เป็นสิ่งที่เรารักและชอบเหมือนกัน ก็พยายามอยากทำให้มันเต็มที่ เราแฮปปี้กับสิ่งที่ทำเลยไม่ได้รู้สึกว่าหนักครับ"

ฟลุ๊ค ณธัช

"ความคาดหวังกับการเป็นเจ้าของธุรกิจนี้ จริงๆ ฟลุ๊คก็ทำเต็มที่ครับ อยากให้ธุรกิจนี้ต่อยอดไปได้เรื่อยๆ  อยากให้ที่นี่เป็นเซฟโซนของทุกคน"

"เป็นเงินก้อนที่เราตั้งใจเก็บมาเพื่อลงทุนอยู่แล้ว เป็นตัวเลข 7 หลักครับ เรียกว่าเป็นเงินที่อยากเอามาต่อยอดไม่ได้ทุบกระปุกอะไรขนาดนั้นครับ พอทำออกมาแล้วก็แฮปปี้มากๆ ครับ ตอนนี้ก็มีการต่อเติมอยากมีมุมให้ทุกคนได้ถ่ายรูป กำลังต่อเติมน่าจะได้เห็นกันเร็วๆ นี้แหละครับ"

"ทางแฟนๆ เองพอมีคาเฟ่นี้เขาก็น่าจะแฮปปี้นะครับ เพราะเหมือนมีที่รวมตัวกัน หลังๆ มีโปรเจคอะไรเขาก็นัดประชุมกันที่นี้ บางทีกลับไปบ้านแม่ก็จะเล่าให้ฟังว่ามีแฟนๆ แวะมานะ เอาขนมมาฝาก เอาของมาฝากให้นะ อะไรแบบนี้ครับ ก็อยากให้ลองมาชิมเครื่องดื่มกับขนมที่ร้านกันนะครับ เพราะเราก็ตั้งใจคัดสรรสิ่งดีๆ ให้ทุกคนจริงๆ"

ชีวิตที่มาไกลเกินฝัน แฟนๆ คือส่วนสำคัญ คือกำลังใจของกันและกัน

"แฟนๆ เป็นกำลังใจของฟลุ๊คมากๆ ในแต่ละวันที่เราทำงานหรือเราเหนื่อย เวลาเรามองคนกลุ่มนี้เราได้รับกำลังใจ พวกเขาคือพลังงานบวกของฟลุ๊ค ดังนั้นฟลุ๊ครู้สึกขอบคุณเสมอที่มีเขาในชีวิต ถึงเราจะไม่ค่อยได้เจอกันแต่ก็มีการส่งกำลังใจมาให้กันตลอด หรือบางคนยังไม่มีโอกาสได้เจอกันแบบตัวเป็นๆ อยู่ต่างจังหวัด อยู่ต่างประเทศแต่ว่าทุกคนยังรักและชื่นชอบเรา ให้กำลังใจเราผ่านช่องทางต่างๆ เสมอ ฟลุ๊คเองก็อยากเป็นกำลังใจให้พวกเขาเหมือนกัน ฟลุ๊คว่าเป็นความสัมพันธ์ที่น่ารักนะ"

ฟลุ๊ค และแฟนๆ

"ชีวิตตอนนี้ของฟลุ๊คมองว่าตัวเองมาไกลเกินฝันจริงๆ ตอนแรกที่ฟลุ๊คเข้ามาทำงานตรงนี้ฟลุ๊คไม่คิดว่าจะมีคนรักและซัพพอร์ตมากขนาดนี้ ไม่คิดไม่ฝันจริงๆ ว่าจะได้รับความรักเยอะขนาดนี้ ที่ฟลุ๊คมาถึงทุกวันนี้ได้ก็เพราะความรักจากพวกเขาทุกคน ขอบคุณจริงๆ ครับ"