ช่างคอนโดอ้างมีสัมพันธ์ทั้งพี่น้อง พี่สาวโต้งัดหลักฐานโต้ ลั่นไม่เคยคบ-ไม่สมยอม
มหากาพย์ช่างคอนโดฉุดลูกบ้านสาว พี่สาวผู้เสียหายยันไม่เคยกิ๊กกับช่าง และน้องสาวก็เลิกยุ่งไปนานแล้ว ลั่นถ้าน้องสมยอมคงไม่เรียกคนช่วย
กรณีช่างประจำคอนโดชื่อ นายเฟียส อายุประมาณ 30-35 ปี พยายามฉุดกระชากนักศึกษาสาวรายหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของห้องและพยายามจะข่มขืน แต่โชคดีเพื่อนชายมาช่วยไว้ได้ทัน จึงไม่เกิดเหตุร้ายแต่อย่างใด โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 19 ส.ค. เวลาประมาณ 21.00 น. ภายในตึก B ชั้นที่ 8 ห้องเลขที่ 207 หลังเกิดเหตุได้เข้าเเจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
น.ส.หญิง อายุ 18 ปี ศึกษาอยู่ชั้น ปวส.ปี 1 ผู้เสียหาย กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนออกไปกินข้าวกับเพื่อน กลับมาถึงคอนโดประมาณ 20.00 น. วันนั้นตนลืมคีย์การ์ดไว้ที่ห้อง จึงให้ช่างของคนโดซึ่งนั่งอยู่ด้านล่างเปิดประตูให้ หลังจากนั้นเขาก็เดินตามตนเข้ามาในลิฟท์ ซึ่งภาพวงจรปิดในลิฟท์บันทึกภาพขณะที่ตนยืนคุยกับเขาเรื่องไปทำงานและคุยเรื่องทั่วไป ตนรู้สึกเห็นท่าไม่ค่อยดีจึงพยายามโทรหาเพื่อนอยู่ตลอด เพราะตนไม่ไว้ใจ หลังจากที่วางสายจากเพื่อนเขาก็เดินตามมาที่ห้องและดันตนเข้าห้อง จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อผ้าและพยายามจะข่มขืน โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที ซึ่งตนก็พยายามขัดขืนตลอด ขณะเดียวกันเพื่อนตนเห็นว่าตนเงียบไปจึงขึ้นมาดูและช่วยไว้ได้ทัน
ตนกับช่างรู้จักกันเพียงไม่กี่วัน ยอมรับว่าเคยพูดคุยและทักทายกัน เพราะเขาเป็นคนอัธยาศัยดี ไม่คิดว่าจะเป็นคนแบบนี้ ก่อนเกิดเรื่องเขาขอเข้ามาคุยธุระในห้องของตน ซึ่งตอนนั้นพี่สาวของตนก็อยู่ด้วย แต่อยู่กันคนละห้อง คิดว่าเขาคงไม่กล้าทำอะไร พอเข้าไปในห้องเขาก็ปลุกปล้ำประมาณ 5 นาที จนกระทั่งเขาสำเร็จความใคร่ไป 1 ครั้ง ตอนนั้นตนไม่ได้สมยอม คิดว่ากำลังคุยกันอยู่จึงไม่ได้ติดใจอะไร หลังจากนั้นแฟนเขาก็ทักมาหา พอรู้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว ตนจึงเลิกยุ่ง จนกระทั่งเขามาทำลุ่มล่าม เเละพยายามจะข่มขืนอีกครั้ง จึงเข้าแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อยากฝากถึงผู้หญิงที่อยู่ห้องคนเดียวว่าให้หาคนมาอยู่เป็นเพื่อนอย่าอยู่คนเดียว
ช่างคอนโดยอมรับมีสัมพันธ์กับน้องสาวและกิ๊กกับพี่สาว คลิปวงจรปิดแค่เล่นกันปกติ
เวลา 11.30 น.วันที่ 31 สิงหาคม 2565 ที่ สภ.บางบัวทอง นายเฟียส ผู้ก่อเหตุ พร้อมด้วยภรรยาและแม่ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา
นายเฟียส กล่าวว่า ตนกับน้องมีอะไรกันจริงๆ ห้องของน้องตนเข้าไปปกติอยู่แล้วเข้าไปนั่งเล่น วันที่เกิดเหตุตนหยอกเล่นกันปกติ เขาให้ตนเปิดประตูให้ เล่นกันปกติก็ดันเขาเข้าห้องตนยังไม่ได้ถอดเสื้อผ้า ก่อนหน้านี้เคยมีอะไรกันแค่ 1 ครั้ง ส่วนที่หาว่าใช้กำลังถ้าฉุดกระชากจริงๆ ถ้าไม่ยอมก็ไม่สามารถเข้าไปในห้องได้ เขาน่าจะทราบว่าตนมีกิ๊กกั๊กกับพี่สาวเขา ตอนนี้ตนยังงงอยู่ว่าทำไมถึงมาแจ้งความ พอเกิดเหตุตนเลยไปสารภาพกับแฟนว่ามีอะไรกับผู้หญิงคนนี้มาแล้ว ตอนนี้ต้องโดนออกจากงานพ้นสภาพ จากการทำงาน ตอนแรกนึกว่าพักงานตอนนี้ให้ผมออกจากงานก่อนเดือดร้อนมาก
น.ส.จรรยาพร แฟนนายเฟียส กล่าวว่า ตนเคยเจอหน้าน้องหลายครั้งเคยไปที่นิติ เคยจ่ายพัสดุให้กับน้อง ตนทำตัวตามปกติ เคยเตือนน้องไป 1 ครั้ง คิดว่าน่าจะเลิกคุยแล้ว เวลาเขาไปต่างจังหวัดจะให้แฟนของตนไปให้อาหารปลา ทำโน่นทำนี่ให้ ตอนนี้ตนโกรธมากและเสียใจมาก แต่ต้องดึงความยุติธรรมให้แฟนก่อน ถ้าจบคดีสำหรับตนกับแฟน ค่อยว่ากันทีหลัง ขอให้ปรับปรุงตัวอย่าทำแบบนี้อีก เขาให้ข่าวว่าเคยได้เสียกันมาก่อนมันมีผลกระทบกับครอบครัวของตนมาก ตอนนี้แฟนพ้นสภาพจากพนักงาน ตนไม่ได้ทำงานเลี้ยงลูกอย่างเดียวเงินเดือนก็ถูกแล้วครับ ตอนนี้ต้องหยุดชะงักหมดทุกอย่าง
พี่สาวผู้เสียหายงัดหลักฐานโต้ ยันไม่เคยกิ๊กกับช่างคอนโด ฝ่ายชายเคยจีบน้องแต่เลิกคุยหลังรู้ว่ามีเมียแล้ว
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 31 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังคอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านอำเภอบางบัวทอง พบ น.ส.สุนันทา (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี พี่สาว และ น.ส.หญิง (สงวนชื่อนามสกุลจริง) อายุ 18 ปีศึกษาอยู่ชั้นปวส.ปี1 ถูกโซเชียลถล่มหลังจากนายเฟียสพูดออกสื่อไม่เป็นความจริงและทำให้ตนได้รับความเสียหาย จึงนำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและแชตของฝ่ายบริหารคอนโดที่นายเฟียสใช้ทักมายอมรับผิดและขอโทษกับ น.ส.สุนันทา และ น.ส.หญิง เวลา 21.32 น. หลังเกิดเหตุ ก่อนจะอ้างว่าทำเรื่องขอย้ายออกจากงาน ภาพวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์วันที่ 19 ส.ค.65 เวลา 20.43 น. พบ น.ส.หญิง ได้กลับมาจากกินข้าวกับเพื่อนแล้วกำลังจะเข้าคอนโด ซึ่งคีย์การ์ดของ น.ส.หญิงได้หายไปประมาณ 3 วันก่อนจึงเปิดประตูที่คอนโดไม่ได้ จึงต้องเคาะประตูห้องนิติฯ เพื่อที่จะให้พนักงานฝ่ายนิติฯ ใช้คีย์การ์ดมาเปิดประตูให้ตน
จากนั้นนายเฟียสก็เดินมาเปิดประตูแล้วเดินตามหลังตนขึ้นลิฟต์แล้วเข้าห้องไปก่อเหตุตามกล้องวงจรปิด ซึ่งขณะที่ น.ส.หญิงเดินเข้าคอนโดจนกระทั่งถึงห้องได้คุยโทรศัพท์กับเพื่อนอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้เพื่อนชายของตนเข้ามาช่วยเหลือได้ทันเวลาเนื่องจากได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือผ่านโทรศัพท์มือถือ
จากการสอบถาม น.ส.หญิง กล่าวว่า จากข่าวที่เขาออกมาให้สัมภาษณ์ตนขอยืนยันว่าไม่เคยคิดที่จะคบกับนายเฟียส ตนไม่เคยเป็นแฟนเก่ากับเขา ตนไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเขามานานกว่า 6 เดือน จู่ๆ มาทำแบบนี้มันก็ไม่ถูกต้อง ซึ่งมันไม่น่ามาเกิดเรื่องแบบนี้กับตน ตนไว้ใจและคิดว่าเขาทำงานตรงนี้น่าจะดูแลเราได้แต่ทำไมมาทำแบบนี้ ไม่โอเคมากๆ ช่วงที่ตนมาอยู่นี่แรกๆ เขามาจีบตน แต่ตนไม่รู้ว่าเขามีครอบครัวแล้ว ตนเลยคุยกับเขา และแฟนเขาทักมาหาตน ตนเลยเลิกยุ่งตั้งแต่วันนั้น หลังจากที่ข่าวออกไปก็รู้สึกแย่ มันมีคอมเมนต์ที่โจมตีตน หลังจากนี้ก็ให้เป็นเรื่องของกฎหมายต่อไป
ตนเจอกับแฟนเขาบ่อยเพราะแฟนเขาชอบมานั่งเฝ้าที่นี่ แต่ตนก็ไม่สนใจเพราะตนไม่ได้ยุ่งแล้ว ยังทักทายกันปกติ ตนก็บริสุทธิ์ใจเพราะตนไม่ได้ยุ่งแล้ว และทำไมเขาถึงออกมาให้ข่าวแบบนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนัดตนสอบปากคำอีกครั้งในอาทิตย์นี้ ตอนนี้ทั้งความรู้สึกและจิตใจย่ำแย่มากเครียดจนไม่อยากออกไปพบเจอใคร
น.ส.สุนันทา กล่าวว่า ตนไม่ได้เสพข่าวที่ออกมาเลย หลังจากที่เขาออกมาให้สัมภาษณ์น้องสาวตนรู้สึกแย่มาก ไม่โอเค ในส่วนของตนขอพูดเลยว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยมีสัมพันธ์กับผู้ชาย ส่วนน้องสาวเขาเข้ามาทำแบบนี้ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน เข้ามาในห้อง ด้วยความที่สนิทกันเลยดูว่าไม่ขัดขืน ตอนนั้นน้องสาวตนเล่นมือถือเพราะกำลังพิมพ์บอกเพื่อนว่าผู้ชายขึ้นมาด้วยทำยังไงดี และร้องขอให้ช่วย ถ้าน้องสาวตนไม่ได้ร้องขอให้ช่วยคงไม่มีลูกบ้านคนอื่นเปิดประตูให้เพื่อนเข้ามาช่วย
ผู้ชายคู่กรณีจริงๆ แล้วเขาเป็นคนอัธยาศัยดี พูดจาดี มีน้ำใจ ทำงานดี เราไม่คิดว่าเขาจะเป็นแบบนี้ รู้จักกันเป็นเพื่อน เป็นพี่ ตั้งแต่มาอยู่ก็สนิทกันถึงขั้นมึงกูได้ แต่ไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับตน ตนเคยให้เขาขึ้นมาซ่อมฝักบัวในห้องครั้งนึง ตนไม่โอเค แต่คนที่เครียดคือน้องสาวของตนและอยากเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ตนยืนยัน และให้ข้อมูลกับตำรวจพร้อมกล้องวงจรปิดว่าจุดไหนบ้าง น้องสาวตนทำคีย์การ์ดหายมันพวงเดียวกันกับกุญแจเลยให้เขามาเปิดประตูทางเข้าคอนโดไม่ใช่ประตูห้อง แต่พอเปิดเสร็จก็เดินตามมา โดยน้องตนก็ถามทำไมพี่ไม่ทำงาน เขาตอบกลับว่างานไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ และเดินตามมา
ตนไม่ใช้คำว่าโกรธ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงพูดแบบนี้ทั้งที่รู้ว่าความจริงเป็นยังไง ตอนแรกตนคิดว่าจะไกล่เกลี่ยเพราะหัวหน้าเขาบอกสงสารครอบครัวเขา แต่พอเขาออกมาให้ข่าวตนเลยไม่ไกล่เกลี่ยแล้ว และไม่ยอม เขาบอกว่ามีหลักฐาน ว่าน้องตนเป็นชู้สาว แต่หลังเกิดเหตุที่เขาทักมาขอโทษตนก็มี ว่ากันไปตามกฎหมายและรอให้ตำรวจนัด ตนไม่ได้นิ่งนอนใจ อยากให้ผู้ชายพูดถึงวันที่เกิดเหตุ มากกว่ามาพูดว่ามีอะไรกับพี่สาว เราไว้ใจเขาถึงได้ให้ขึ้นมาในห้องเพื่อให้อาหารปลา เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงหยุดยาวแค่ช่วงนั้น ตอนนี้กลายเป็นกระแสโจมตีฝั่งตนว่าให้การเท็จ ใครที่ไม่รู้ข้อมูลจริงก็อยากให้อยู่เฉยๆ อย่าออกความคิดเห็น เพราะคนที่รู้จริงๆ มีแต่ตัวเขาและตนกับน้องสาวของตน เค้าเป็นคนบอกน้องสาวของตนเองว่าไม่มีลูกมีเมียถึงได้มีการพูดคุยและจีบกัน หลังจากที่เมียเขาจับได้ก็เลิกติดต่อกันไป ส่วนเรื่องการตรวจร่างกายของน้องจะต้องรอไปสอบปากคำอีกครั้ง ขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะส่งตัวน้องสาวไปหรือไม่