แก๊งโจ๋ควงสปาร์ตาบุกฟันเด็ก ม.3 ลูกชายปลัดอำเภอกลางตลาด อ้างแก้แค้นแทนเพื่อน

แก๊งโจ๋ห้าว ควงสปาร์ตาบุกฟันเด็ก ม.3 ลูกชายปลัดอำเภอ ขณะซื้อกับข้าวในตลาด อ้างไม่เคยมีเรื่องกันแต่แค้นแทนเพื่อน

(2 ก.ย.65) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าทำการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นชายอายุ 15-17 ปี จำนวน 3 คน ขณะหลบซ่อนอยู่ภายในบ้านพักแห่งหนึ่งใน ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ หลังได้ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธมีดสปาร์ตาไล่ฟัน ด.ช.ทัน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ซึ่งเป็นลูกของปลัดอำเภอบ้านกรวด ขณะมาเดินซื้อของที่ตลาดนัดเทศบาลพนมรุ้ง ใกล้กับวัดอัมภาราม ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (1 ก.ย.65) มีแผลฉกรรจ์ที่บริเวณช่วงเอวด้านหลัง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่มาเดินจับจ่ายซื้อของในตลาด ก่อนจะแจ้งหน่วยกู้ภัยฯ ช่วยปฐมพยาบาลและนำตัวนักเรียนชายที่ถูกฟันบาดเจ็บส่ง รพ.เฉลิมพระเกียรติ ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมกันก่อเหตุได้พากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี

ซึ่งหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.มานิตย์ สร้อยจิตร ผู้กำกับการ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ก็ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ร่วมกับฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุ และเร่งติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ กระทั่งสามารถจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมกันก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว จากการสอบถามนายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 15 ปี วัยรุ่นที่เป็นคนใช้มีดฟัน ด.ช.ทัน สารภาพว่าได้ใช้มีดฟันผู้บาดเจ็บจริง ยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทย์กับคนเจ็บเลย แต่ที่ก่อเหตุเนื่องจากแค้นแทนเพื่อน เพราะก่อนหน้านี้เพื่อนของตนเองเคยมีเรื่องทะเลาะกับคนเจ็บมาก่อน พอวันเกิดเหตุบังเอิญมาเจอกันที่ตลาดและจำได้ว่าเป็นคนที่เคยมีเรื่องกับเพื่อนของตนเอง จึงได้ใช้มีดที่พกติดตัวมาด้วยไล่ฟัน ยอมรับว่าก่อนจะลงมือคนเจ็บได้ยกมือไหว้ขอโทษ แต่ด้วยอารมณ์ชั่ววูบจึงก่อเหตุ หลังจากก่อเหตุก็รู้สึกผิดและอยากจะขอโทษคนเจ็บและครอบครัว

ขณะที่ นางวันนา อายุ 44 ปี แม่ของ ด.ช.ทัน ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สำรวย อบกลาง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ พร้อมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากลูกชายยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.เฉลิมพระเกียรติ โดยนางวันนา ให้ข้อมูลว่า ตนทำงานอยู่กรุงเทพ สามีเป็นปลัดอำเภออยู่ที่ อ.บ้านกรวด ส่วนลูกชายอาศัยอยู่กับยาย หลังจากทราบข่าวว่าลูกถูกฟันบาดเจ็บตนก็รีบเดินทางกลับมาทันที พอมาถึงก็ไปดูอาการลูกที่ รพ. หมอบอกว่าอาการพ้นขีดอันตรายแล้วแต่ยังต้องนอนรักษาที่ รพ.ก่อน

จากการสอบถามลูกชาย ก็เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุยายได้ให้หลานไปซื้อกับข้าวที่ตลาดนัด ซึ่งหลานก็ขี่รถจักรยานยนต์ไปกับเพื่อน 2 คน พอไปถึงก็เดินเข้าไปซื้อกับข้าวในตลาดนัดตามปกติ แล้วเอามาใส่ไว้ตะแกรงหน้ารถ จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปหาซื้อของอีกรอบ จู่ๆ ก็มีกลุ่มวัยรุ่นหลายคนซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ได้วิ่งกรูจะเข้ามาทำร้ายตน จึงวิ่งหนีแต่ไปเจอวัยรุ่นอีกกลุ่มซึ่งมีด้วยกัน 3 คนดักอยู่ข้างหน้า ลูกชายก็ยกมือไหว้แต่เขาก็ยังถือมีดเข้ามาฟันจนล้มลง ต่อหน้าพ่อแม่ค้า ก่อนจะพากันหลบหนีไป ลูกชายยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่นที่มาไล่ทำร้ายเลย จึงไม่รู้สาเหตุว่าทำไมถึงได้มาไล่ฟัน หากมีเรื่องทะเลาะกันตามประสาวัยรุ่น ตนก็มองว่าถึงขนาดมาไล่ฟันกันบาดเจ็บขนาดนี้ก็รุนแรงเกินไป ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย และอยากฝากถึงวัยรุ่นว่าจะทำอะไรให้คิดให้ดีและนึกถึงผลกระทบที่จะตามมาและนึกถึงอนาคตของตัวเองด้วย