นอนผวาทุกวัน กระสุนปริศนา 9 มม. พุ่งทะลุหลังคาบ้าน คาดมาจากค่ายทหารฝั่งตรงข้าม
กระสุนปริศนา 9 มม. พุ่งทะลุหลังคาบ้าน คาดมาจากค่ายทหารคลังแสงฝั่งตรงข้าม คนในบ้านนอนผวาทุกวัน
(5 ก.ย.65) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าของบ้านหลังหนึ่ง อาศัยอยู่บริเวณด้านหลังค่ายทหารคลังแสง 6 ที่ราชบุรี เป็นเหตุการณ์ที่ทำเอาเจ้าของบ้านและคนในบ้านต้องผวา เมื่อมีกระสุนปริศนาตกลงมากลางบ้านขณะนั่งดูทีวีอยู่ เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ บริเวณด้านหลังกองคลังแสงที่ 6 ราชบุรี กรมสรรพาวุธทหารบก หม.3 ต.อ่างทอง อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว โดยที่ด้านหลังค่ายมีรั้วและถนนคั่นกลาง พบกับ นายวิชิต อายุ 48 ปี เจ้าของบ้าน พร้อมทั้งนำภาพถ่ายของกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 1 หัว พร้อมทั้งคลิปวีดีโอที่ถ่ายไว้เพื่อเป็นหลักฐานและยืนยันว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง โดยที่หัวกระสุนของจริง ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดและวิถีกระสุนที่ยิงเข้ามา ทะลุจากหลังคาบ้านในมุมเฉียงทะลุฝ้าก่อนจะไปชนกำแพงปู และกระเด็นลงมาสู่พื้นบ้าน โชคดีที่ไม่กระเด็นไปโดนผู้ที่อยู่ภายในบ้านทั้ง 3 ชีวิต จึงไม่มีใครได้รับความบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต แต่ต้องอยู่ด้วยความหวาดระแวงว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกหรือไม่
นายวิชิต เล่าว่า เมื่อวันอังคารที่ 30 ส.ค.65ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 20.30-21.00 น. ขณะที่ตนเองและแฟนนั่งที่เก้าอี้โซฟาภายในบ้าน เนื่องจากพักผ่อนดูทีวีก่อนเข้านอน ได้ยินเสียงดังคล้ายกับวัตถุบางอย่างใส่หลังคา ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งออกไปดูหน้าบ้านแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีแต่เสียงสุนัขเห่าหอน แต่ก็พยายามดูก็ไม่พบ จนกระทั่งวันศุกร์ที่ 2 ก.ย.65 ที่ผ่านมา เวลา 17.00 น. ได้ทำความสะอาดเก็บกวดเช็ดถูบริเวณโต๊ะด้านหน้าโซฟา จนไปพบหัวกระสุนปืนสีทองแดง 1 หัว จึงได้นำกล้องจากมือถือขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานก่อนจะแจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ จังหวะนั้นตนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ซึ่งหากดูจากวิถีของกระสุนแล้ว น่าจะทะลุลงกระทบถึงพื้น โชคดีที่มีเก้าอี้และโต๊ะขวางไว้ ระหว่างที่ตนเองกับแฟนกำลังนั่งดูทีวีอยู่ หากตกมาที่คนใดคนหนึ่งอาจบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้
นายวิชิต กล่าวต่อว่า หลังจากที่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ได้เข้ามาตรวจสอบหัวกระสุนดังกล่าว และแจ้งให้ตนเองทราบว่า เป็นหัวกระสุนชนิด 9 มม. โดยวิถีกระสุนทำมุมประมาณ 45 องศา พุ่งมาจากนอกบ้านเจาะหลังคาบ้านซึ่งเป็นเมทัลชีท พุ่งทะลุฝ้า และไปกระทบกำแพงผนังห้องก่อนจะตกลงมากระทบกับพื้น ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้เก็บหัวกระสุนปืนดังกล่าวไปตรวจสอบ พร้อมทั้งจะส่งให้กับกองพิสูจน์หลักฐาน และ ตำรวจชุดสืบสวนสวบสวนของ สภ.เมืองราชบุรี เพื่อทำการตรวจสอบและนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลที่มีอยู่ในระบบ เพื่อตรวจสอบที่มาของวิถีกระสุนพร้อมสืบสวนหาตัวเจ้าของกระสุนปริศนานี้ต่อไป แต่เรื่องก็ยังเงียบอยู่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาสอบปากคำเพิ่มแต่อย่างใด
นายวิชิต กล่าวต่อว่า ตนไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกลับใคร บ้านก็มาปลูกอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีชุมชน แต่บ้านอยู่ตรงข้ามกับทางค่ายทหาร ซึ่งเป็นของกองคลังแสงที่ 6 ราชบุรี กรมสรรพาวุธทหารบก โดยบ้านจะมีรั้วและถนนแบ่งเส้นเขตเท่านั้น อีกทั้งเมื่อดูจากวิถีกระสุนแล้ว ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาตรวจสอบ ก็ถูกยิงเข้ามาจากทางหน้าบ้าน ซึ่งบ้านตนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับทางค่ายทหาร ไม่มีบ้านคน อีกทั้งกระสุนปริศนานี้พุ่งมาในมุมแทยง 45 องศา จึงเชื่อได้ว่าออกมาจากทางค่ายทหารอย่างแน่นอน เพราะฝั่งบ้านเรือนประชาชน อีกฝากฝั่งของค่ายทหารจะอยู่ห่างไกลไปประมาณ 5-6 กม. เป็นไปไม่ได้ที่กระสุนจะตกมาไกลขนาดนั้น คาดว่าน่าจะเป็นการยิงขึ้นฟ้าในลักษณะท่าเอียง ก่อนวิถีกระสุนจะไปสุดและพุ่งเข้ามาในบ้านของตนดังกล่าว
“ทุกวันนี้นอนไม่ค่อยหลับทั้ง 3 ชีวิตต่างต้องอยู่ในความหวาดระแวง ว่าจะมีกระสุนพุ่งเข้ามาในบ้านอีกหรือไม่ จึงอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือ ทาง ค่ายทหาร ช่วยตรวจสอบข้อเท็จและหาตัวเจ้าของกระสุนปริศนามาดำเนินคดีต่อไป วันนี้ถือว่าโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต หากครั้งหน้าตกลงมาอีก จะมีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตกับเรื่องแบบนี้ ตนเกรงที่จะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงอยากวอนให้เจ้าหน้าตำรวจช่วยปราบปรามพวกที่ชอบยิงปืนขึ้นฟ้ามาดำเนินคดี” นายวิชิตกล่า