"ดร.เจษฎา" ย้ำ "ฟาวิพิราเวียร์" รักษาโควิดไม่ได้ ขอรัฐเปิดกว้างให้ ปชช.เข้าถึงยาที่มีประสิทธิภาพ

"ดร.เจษฎา" ย้ำ "ฟาวิพิราเวียร์" รักษาโควิดไม่ได้ ขอรัฐเปิดกว้างให้ ปชช.เข้าถึงยาที่มีประสิทธิภาพ

"ดร.เจษฎา" ย้ำ "ฟาวิพิราเวียร์" รักษาโควิดไม่ได้  ขอรัฐเปิดกว้างให้ ปชช.เข้าถึงยาที่มีประสิทธิภาพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

10 กันยายน 2565 รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับคุณภาพของยาฟาวิพิราเวียร์  พร้อมโพสต์ข้อความระบุว่า

"ถ้าใครติดตามกันมา คงจะเห็นว่าผมเคยเล่าให้ฟังแล้ว ว่า ยาต้านไวรัสที่ชื่อ ฟาวิพิราเวียร์ นั้น "ไม่ได้" รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกว่าเป็นยารักษาโควิด แต่ที่ไทยเรา (และอีกแค่ไม่กี่ประเทศ) เอามาใช้เป็นยาหลักตัวหนึ่งในการรักษาโรคโควิด เพราะมีรายงานเบื้องต้นในประเทศญี่ปุ่น เมื่อ 2 ปีก่อนว่ามัน "น่าจะใช้ได้"เมื่อทดสอบกับคนไข้จำนวนไม่มาก และก็อยู่ในระหว่างการศึกษาแบบจริงจังในประเทศอื่นๆ อย่างอังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ว่ามันใช้ได้ผลจริงหรือไม่ เมื่อนำไปทำการทดสอบในระดับคลินิค ที่มีอาสาสมัครจำนวนมาก และเทียบผลกับยาหลอก

แม้จะน่าเสียดาย แต่ก็เลยไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ กับผลการศึกษาที่สุดท้าย ยาฟาวิ ก็ไม่ค่อยจะมีประสิทธิภาพดีนักในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสโควิด เมื่อเทียบกับการใช้ยาหลอก (ยานี้เป็นยาต้านไวรัสแบบกว้างขวาง และเป็นหนึ่งในหลายร้อย หลายพันสูตรยา ที่เคยมีการนำมาสกรีนว่าจะใช้กับโควิดได้หรือไม่)

ดังนั้น การเรียกร้องให้มีการเปิดกว้างให้ประชาชนเข้าถึงยาต้านไวรัสโควิด ที่องค์การอนามัยโลกรับรองแล้ว อย่างยาโมลนูพิราเวียร์ (รวมไปถึงยาแพ็กซ์โลวิด) ผ่านทางร้านขายยา เพื่อเป็นอีกเครื่องมือหลัก ในการรับมือกับการระบาดของโควิดทั้งระลอกนี้ และระลอกหน้าๆ ต่อไป จึงน่าจะเป็นแนวทางที่ควรทำ (มากกว่ายาฟาวิ)

ส่วน ฟ้าทะลายโจรนั้น ก็เคยบอกแล้วเหมือนกัน ว่าเป็นแค่สมุนไพรลดไข้แก้เจ็บคอ ไม่ได้มีงานวิจัยในระดับสากลรองรับว่าใช้รักษาโควิดได้จริง ซึ่งก็มีแต่ไทยเรานี่แหละ ที่โปรโมตกันจนกลายเป็นยารักษาโควิดไปอีกตัว
หวังว่า คนไทยจะเข้าถึงยาต้านไวรัสโควิดตัวที่ดีๆ ได้เร็วขึ้น และไม่ขาดแคลนอีกนะครับ"

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook