บุกช่วยเซียนพระชื่อดัง ถูก 2 โจรสาวลวงตบพระเครื่องมูลค่า 100 ล้าน
เมื่อวันที่ 11 ก.ย. พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.กก.ดส. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รอง ผกก.กก.ดส พ.ต.ต.จักรี นารีผล สว.กก.ดส.บช.น พร้อมเจ้าหน้าที่กก.ดส.บช.น เข้าทำการเชิญตัว น.ส.เอ และ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุประมาณ 45 ปี มาทำการสอบสวน หลังล่อลวงนายชวลิต อายุ 81 ปี เซียนพระเครื่องชื่อดังของเมืองไทย อ้างว่าจะพาตัวไปทำการรักษาโรคพาร์กินสัน ก่อนยึดทรัพย์สินเป็นรถยนต์หรู และพระเครื่องรวมมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท
คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ก.ย. ได้มีครอบครัวของนายชวลิต ได้เข้ามาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ว่านายชวลิต ถูกล่อลวงให้ไปรักษาโรคพาร์กินสัน โดยพบว่าน.ส.เอ และ น.ส.บี ได้พานายชวลิต ออกไปจากบ้าน โดยใช้รถยนต์ โตโยต้า อัลพาร์ด ของนายชวลิต ไปพักในโรงแรมแห่งหนึ่งแถวชานเมืองกรุงเทพมหานคร หลังจากนั้นได้ฉีดยาชนิดหนึ่งเข้าสู่ร่างกายของนายชวลิต เป็น จำนวน 1 เข็ม พร้อมเรียกเก็บเงินครั้งแรกจำนวน 50,000 บาท
แต่เนื่องจากนายชวลิต ไม่ได้นำเงินติดตัวมา น.ส.เอ และน.ส.บี จึงได้ล่อลวงให้ นายชวลิต นำพระเครื่องที่พกติดตัวมาด้วยไปจำหน่าย และได้มีการเรียกเงินกับครอบครัวของนายชวลิต เป็นเงินค่ารักษาจำนวน 300,000 บาท ทั้งนี้ น.ส.เอ และน.ส.บี ได้ยึดรถยนต์ โตโยต้า อัลพาร์ด และพระเครื่องทั้งหมด อาทิ สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ เหรียญหลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง พระกริ่งปวเรศ เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติฯ และพระเครื่องอื่นๆ มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาทไว้เป็นหลักประกัน ก่อนที่ทางญาติจะมาร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยเหลือ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ได้ทำการสืบสวนก่อนเข้าช่วยเหลือนายชวลิต พร้อมติดตามทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้ายคืนได้ทั้งหมด สำหรับพฤติการณ์ของ น.ส.เอ และ น.ส.บี นั้นพบว่าจะแฝงตัวไปตามคาเฟ่ที่มีผู้สูงอายุ โดยกล่าวอ้างว่ารักษาโรคต่างๆได้
จากการตรวจสอบพบว่า นส.เอ และ นส.บี ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ และไม่ได้เป็นแพทย์หรือพยาบาลตามที่กล่าวอ้าง นอกจากนี้ยังพบว่า น.ส.บี นั้นได้มีหมายจับของศาลอาญามีนบุรี ยักยอกทรัพย์ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ได้พาผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดีกับ น.ส.เอ และ น.ส.บี ต่อไป