"บีม-ออย" เปิดหน้าลูกแล้วปัง ยอมรับตรงๆ ไม่เคยคิดเรื่องการปิดหน้าลูกมาก่อน

เอาอะไรมาฉุดก็ไม่อยู่แล้ว สำหรับ น้องธีร์-น้องพีร์ ลูกชายฝาแฝดของ บีม กวี กับภรรยาสาว ออย อฏิพร ที่นับวันความฮอตก็พุ่งขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นขวัญใจของพี่ป้าน้าอาหลายๆ คนไปเป็นที่เรียบร้อย

ล่าสุด บีม-ออย ก็ได้พา น้องธีร์-น้องพีร์ มาร่วมงาน SENIA JELLY HEALTHY WONDERLAND จึงได้ออกมาสัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยอัปเดตถึงท้องแฝดที่มีกำหนดคลอดในเดือนหน้านี้ พร้อมเผยถึงประเด็นเรื่องการเปิด/ปิดหน้าลูกให้ฟังอีกด้วย

อัปเดตอายุครรภ์หน่อย ?
ออย : "ยังพอเดินไหวอยู่ค่ะ ซึ่งก็เริ่มเคลียร์คิวงานบ้างแล้ว แต่เวลาช่วงก่อนคลอดและหลังคลอดมันจะต้องใช้เวลาเยอะ ซึ่งคุณหมอก็จะเริ่มดูให้แล้วว่าประมาณไหนที่ทำได้ทำไม่ได้ ซึ่งตอนนี้งานก็เริ่มซาลงอายุครรภ์ตอนนี้แปด 8 เดือนแล้ว ท้องโตมาก ดิ้นแรงกว่าท้องแรก ซึ่งพยายามให้เขาได้คุยกับแฝดพี่ พีร์-ธีร์ บ่อยๆ ส่วนชื่อลูกตอนนี้ก็ยังไม่ได้เคาะ แต่ถ้าใครส่งมาเราก็จะจดไว้ ซึ่งกำหนดคลอดก็จะเป็นปลายเดือนหน้า ก็แอบตกใจว่ามันเร็วมาก แป๊บเดียวเหลืออีกหนึ่งเดือน"

บีม : "ก็ตื่นเต้นเหมือนกันแป๊บเดียวมาอีกแล้ว อย่างตอนกลางคืนก็พยายามจะถามออยว่าเป็นยังไงบ้าง เพราะว่าท้องนี้ดิ้นแรงมากแล้วก็ชัดมาก ซึ่งเจ้าตัวก็มีการเคลื่อนไหวแบบเป็นคลื่นเลย"

ถามถึงเรื่องดาราเจอดราม่าปิดหน้าลูก ?
ออย : "เราก็เพิ่งรู้ว่าเป็นความรู้ใหม่เป็นแบบสิ่งใหม่ เพราะตอนแรกเราไม่ได้คิดอะไร เหมือนเราเก็บแบบเป็นโฟโต้อัลบั้ม พอตอนหลังเริ่มมีเรื่องนี้เข้ามา เราก็มาคุยกันว่าเราทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า เราก็แอบคิดเหมือนกันว่าที่ผ่านมาที่เราเปิดไปแล้วมันเป็นยังไง แต่สุดท้ายมันเปิดไปแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ ก็คิดว่าจริงๆ มันก็ยาก ถ้าสมมติเราใช้ประจำวันและมีการทำงานมีการไลฟ์สดมันจะติดอีกสองคนก็ลำบาก ซึ่งเปิดแล้วก็คือเปิดไป แล้วก็ใช้ชีวิตที่เราแบบสบายใจที่สุด"

เปิดแล้วปัง แฟนคลับลูกเยอะมาก ?
บีม : "ก็ต้องถือว่ามีคนเข้ามาดูลูกเยอะ แต่จริงๆ ก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะออกมาเป็นแบบนี้ คือเราอยู่กับลูกทุกวันก็รู้สึกว่าน่ารักจังเล ยเราก็อยากแชร์โมเมนต์น่ารักตรงนี้ให้เห็น พอแชร์ไปแล้วรู้สึกว่ามีคนชอบ บางคนเขาก็เขียนมาว่าทำให้ความเครียดประจำวันของเขาหายไป ก็รู้สึกว่าถ้าเกิดเรามีโมเมนต์อะไรน่ารักแบบนี้เราก็อยากจะแชร์"

ออย : "ก็ยังไม่ถูกรุกล้ำความเป็นส่วนตัว แต่ว่าโอเคแรกๆ อาจจะมีในเรื่องของคอมเมนต์ต่างๆ คืออาจจะยังไม่รู้จักบ้านเรา แต่พอไปๆ มาๆ พักหลังไม่มี คือถ้ามีก็น้อยมากอ่านแทบไม่เจอ ก็รู้สึกว่าเหมือนเราคือถ้าจะให้พูดก็เหมือนทำให้เขารู้จักบ้านเราว่ามีวิถีชีวิตเป็นประมาณนี้ ทุกครั้งก็จะเห็นว่าเราไม่แต่งหน้าเลย ซึ่งเขาอาจจะชอบในความเรียลของเรา"