ลุงเขยข่มขืนหลานสาววัย 12 ปี นาน 5 เดือน พอความแตก หนีหายไปพร้อมป้า

ลุงเขยข่มขืนหลานสาววัย 12 ปี นาน 5 เดือน พอความแตก หนีหายไปพร้อมป้า

ลุงเขยข่มขืนหลานสาววัย 12 ปี นาน 5 เดือน พอความแตก หนีหายไปพร้อมป้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ่อแม่ใจสลาย ฝากลูกสาว 2 คนไว้กับป้า ลูกสาว ป.6 อายุ 12 ปี ถูกลุงเขยข่มขืนนาน 5 เดือน พอความแตก ลุงและป้าหอบเสื้อผ้าเผ่นหนีไปตั้งหลัก ล่าสุด ญาติติดต่อขอพาเข้ามอบตัวกับกำนัน แต่ขอทำใจก่อน เกรงจะได้รับอันตราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สภ.ดงเย็น ร.ต.อ.ศุภชัย คำบัวโคตร รอง สว.สอบสวน สภ.ดงเย็น ได้เชิญตัว นายยาว (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ชาวบ้านโคกกลาง ม.4 ต.บ้านตาด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี และ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี ลูกสาว เข้าสอบปากคำให้การ

จากกรณี ด.ญ.เอ ถูกนายเสงี่ยม หรือ อ๊าก อายุ 54 ปี ลุงเขยล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเข้าแจ้งความไว้แล้ว เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา

โดยมี นายปูรณ์ วิเวก ปลัดอำเภอบ้านดุง, นายนิรุธ พรหมหมอก กำนัน ต.บ้านตาด, สหวิชาชีพ, เจ้าหน้าที่จาก อบต.บ้านตาด และผู้ใหญ่บ้านบ้านตาด ร่วมให้ข้อมูลและสังเกตการณ์ 

นายยาว (นามสมมุติ) พ่อของเด็ก เปิดเผยว่า มีอาชีพขับรถบรรทุกสิบล้อรับจ้างอยู่ที่ กทม. มี นางป้อม (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ภรรยาชาว สปป.ลาว เป็นแม่บ้านดูแลบ้านเช่าที่ กทม. พวกตนมีลูก 3 คน คนโตเป็นผู้ชาย อายุ 15 ปี ด.ญ.เอ อายุ 12 ปี เป็นคนกลาง และคนเล็กเป็นลูกสาว อายุ 3 ปี

แต่เนื่องจากตนต้องย้ายไซต์งานบ่อย จึงฝากลูกสาวคนเล็กไว้กับนางหยึก (นามสมุติ) อายุ 44 ปี พี่สาวตนเอง ซึ่งมีนายเสงี่ยม พี่เขยอยู่ดูแลในบ้านหลังเดียวกัน ทั้งสองเลี้ยงลูกสาวคนเล็กมาตั้งแต่แบเบาะ จนรักเหมือนลูก เมื่อช่วงเดือนเมษายนได้ส่งตัว ด.ญ.เอ มาอยู่กับป้าและลุงเขย เพื่อช่วยเลี้ยงน้องและเรียนหนังสือที่บ้าน ส่วนลูกชายคนโตอาศัยอยู่กับปู่และย่า

ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น ไม่นึกว่าคนที่เราไว้ใจมากที่สุด จะกระทำกับลูกสาวเราแบบนี้ ตอนนี้ทั้งพ่อและแม่ยังไม่กล้าถามเรื่องราวจากปากลูกโดยตรง เกรงว่าจะกระทบกับความรู้สึกของลูกสาว ได้แต่ปลอบขวัญลูก ให้กำลังใจลูก

เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นอยากให้ป้าที่เป็นพี่สาวพาลุงเขยเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ส่วนตัวยังไม่ได้กล่าวหาว่าลุงเขยว่าก่อเหตุจริง หากกระทำจริงต้องมารับผิด และมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ถ้าไม่ได้กระทำต้องออกมาชี้แจง เพื่อให้ทุกคนหายสงสัย

เมื่อเรื่องมันเลยเถิดมาถึงขนาดนี้ อยากให้ปกป้องความรู้สึกของเด็กเป็นอันดับแรก ถ้ากระทำผิดจริงก็ขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนป้าเองก็อยากให้กลับมาดูแลลูกเหมือนเดิม ญาติพี่น้องกันยังไงก็ตัดสายใยกันไม่ขาด

ด้าน นายนิรุธ พรหมหมอก กำนัน ต.บ้านตาด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ได้รับจากครูโรงเรียนที่ ด.ญ.เอ เรียนอยู่ว่า เด็กมีอาการซึมเศร้า เมื่อสอบถามแล้วทราบว่าถูกลุงเขยข่มขืนกระทำชำเรานานกว่า 5 เดือน จึงประสานให้ครูพาเด็กตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และโทรศัพท์แจ้งพ่อของเด็ก ก่อนที่จะรวบรวมพยานหลักฐานพากันเข้าแจ้งความดังกล่าว

ปกติแล้ว นายเสงี่ยม เป็นคนดี ขยันทำมาหากิน แต่ก็ไม่นึกว่าจะมีพฤติกรรมแบบนี้ ซึ่งจากคำให้การเด็กก็ชัดเจนแล้วว่าถูกกระทำจริง ตอนนี้ทางตำรวจยังไม่ได้ออกหมายเรียกหรือหมายจับ

ล่าสุด น้องสาวนายเสงี่ยมได้โทรศัพท์ติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว แต่ยังขอเวลาทำใจสักระยะ เพราะกลัวจะได้รับอันตราย หรือไม่ปลอดภัย  แต่ก็ได้บอกกลับไปแล้วว่า จะไปรับด้วยตัวเองและรับรองความปลอดภัย ขอให้ติดต่อกลับมาให้เร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในระหว่างที่ ด.ญ.เอ อยู่บ้านเลี้ยงน้องสาว ในช่วงวันหยุดไม่ได้ไปเรียนหนังสือ ลุงเขยจะอาศัยช่วงที่ป้าออกไปข้างนอก ลงมือกระทำชำเราข่มขืน ด.ญ.เอ ที่บ้าน จากข้อมูลทราบว่า ด.ญ.เอ ถูกลุงเขยข่มขืนมาแล้ว 7–8 ครั้ง ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2565

และครั้งล่าสุดเหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา ลุงเขยออกอุบายชวน ด.ญ.เอ หลานสาวออกไปทุ่งนา เพื่อไปตรวจดูเบ็ดตกปลาที่ปักไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ด.ญ.เอ หลงเชื่อจึงออกไปด้วย ก่อนถูกลุงเขยข่มขืนอีกครั้ง กระทั่งเด็กกลับไปเรียนหนังสือและมีอาการเศร้าซึม จนครูสังเกตเห็นและรับทราบเรื่องราวดังกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook