บุรุษไปรษณีย์ เกือบขิต! เสียงแม่เฒ่าปริศนากระซิบเตือน ก่อนฟ้าผ่ากิ่งตะเคียนยักษ์ร่วง

หนุ่มไปรษณีย์ได้ยินเสียงแม่เฒ่ากระซิบข้างหูว่า "มึงออกมา" ก่อนที่ฟ้าจะผ่าเปรี้ยงลงต้นตะเคียน กิ่งหักร่วงลงมาทับหลังคาเมรุที่ยืนหลบฝนอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (14 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดปทุมมาวาส หรือ วัดหัวชวด ม.6 ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พร้อมกับ นายกฤษฎิ์ติเดช อายุ 31 ปี อาชีพพนักงานบุรุษไปรษณีย์ ที่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่ได้ยินเสียงปริศนามากระซิบเตือน ก่อนที่ต้นตะเคียนยักษ์จะถูกฟ้าผ่า กิ่งหักร่วงลงมาทะลุหลังคาศาลาเมรุ ที่เจ้าตัวกำลังยืนหลบฝนอยู่ก่อนหน้านี้

ที่เกิดเหตุพบว่าต้นตะเคียนขึ้นอยู่ขอบถนน ซึ่งเป็นทางเข้าวัดพอดี ใกล้กันเป็นศาลาปฏิบัตินั่งกรรมฐานและมีเมรุอยู่ติดกัน อยู่ห่างกับต้นตะเคียนแค่ 20 เมตร ซึ่งศาลาดังกล่าวเป็นจุดที่หนุ่มไปรษณีย์ไปยืนหลบฝน

โดยรอบๆ ต้นตะเคียนพบกับกิ่งของต้นตะเคียนยักษ์ ที่ถูกฟ้าผ่าขาดกระจุยกระจายกองเต็มพื้นถนน บางส่วนนั้นถูกพระลูกวัดและชาวบ้านช่วยกันตัดให้เป็นท่อน และเก็บกวาดไปบ้างแล้ว และยังพบกำแพงของโรงเรียนวัดปทุมมาวาส ที่ถูกกิ่งต้นตะเคียนตกลงมาฟาดจนกำแพงแตกจนเสียหายอีกด้วย

ซึ่งช่วงระหว่างที่ทีมข่าวได้เดินเก็บภาพต้นตะเคียนอยู่ ท้องฟ้ามืดครึ้มฝนกำลังจะตก ทันใดนั้น ฟ้าได้ผ่าลงมา แต่โชคดีที่ผ่าไปที่อุโบสถหลังเก่า ทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

จากการสอบถาม นายกฤษฎิ์ติเดช หนุ่มบุรุษไปรษณีย์ เล่านาทีหลอนและผวาให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 12.00 น. ช่วงนั้นตนกำลังขี่จยย. ไปส่งของอีกที่หนึ่ง ระหว่างทางฝนตกหนักมากจนท้องฟ้ามืดครึ้ม ฟ้าร้องคำราม จึงแวะหลบฝนที่ศาลาเมรุที่วัดปทุมมาวาสอยู่คนเดียว

ซึ่งด้านหน้าเมรุ จะมีต้นตะเคียนเก่าแก่ สูงกว่าป่องเมรุ อยู่ห่างจากตนประมาณแค่ 20 เมตร ระหว่างที่กำลังจัดของอยู่ ได้ยินเสียงแม่เฒ่าปริศนา มากระซิบข้างกกหูว่า "มึงออกมา" ตนมองซ้าย-มองขวาก็ไม่มีใครอยู่ ตนรู้สึกขนลุกและกลัวมาก จึงทำตามเสียงกระซิบนั้น ได้เข็น จยย. หลบไปอีกที่หนึ่ง

ระหว่างเข็นรถไม่ถึง 1 นาที ฟ้าก็ได้ผ่าเปรี้ยงดังสนั่น ผ่าลงมากลางต้นตะเคียน จนกิ่งต้นตะเคียนขนาดใหญ่ หักร่วงลงมาทะลุหลังคาศาลาเมรุ ที่ตนยืนตรงจุดแรกนั้น จนพังเสียหายยับเยิน ตนกลัวมาก จึงรีบคร่อม จยย. ขับฝ่าสายฝนไปหลบฝนที่ศาลาอีกที่หนึ่ง ตนกลัวจนตัวสั่นและนั่งร้องไห้ และคิดว่าถ้ายังยืนตรงนั้นคงไม่รอดแล้ว

หลังจากนี้คาดว่าจะไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ และซื้อลอตเตอรี่เสี่ยงโชคจากหมายเลขทะเบียนรถ จยย. 7481

จากการสอบถาม พระครูวิลาศสีลากร เจ้าอาวาส วัดปทุมมาวาส (วัดหัวชวด) ได้ให้ข้อมูลว่า ตอนท่านยังเด็กได้เห็นต้นตะเคียนต้นนี้มาก่อนแล้ว อายุก็ประมาณ 100 ปี ต้นตะเคียนต้นนี้เคยโดนฟ้าผ่ามาแล้ว 4 ครั้ง ก็กลัวว่าจะเป็นอันตรายกับเด็กๆ เพราะตรงข้างต้นตะเคียนก็เป็นโรงเรียน จึงไม่อยากให้ฟ้าผ่าอีก

จึงเอาสายล่อฟ้าไปติดไว้บนต้นตะเคียน เพื่อที่เวลาฟ้าผ่ากระแสที่ลงมาจะได้ไหลสู่ดินเลย จนมาครั้งนี้ไม่รอด ฟ้าได้ผ่าลงมาที่ต้นตะเคียน จนกิ่งหักลงมาทะลุหลังคาเกือบโดนหนุ่มไปรษณีย์ที่ยืนหลบฝนอยู่ หนุ่มไปรษณีย์ได้เล่าให้อาตมาฟังว่า ก่อนฟ้าผ่าได้ยินเสียงหญิงแก่มาบอกข้างหูว่า ให้ออกมาจากบริเวณนั้น อาตมาก็ถือว่าเคราะห์ดีที่หนุ่มไปรษณีย์ไม่เป็นอะไร

ส่วนต้นตะเคียนที่หักประชาชนจะมาเอาไปใช้ หรือจะมาเอาไปทำวัตถุมงคล อาตมาก็ไม่ได้หวงเอาไปใช้ได้เลย ส่วนต้นตะเคียนจะไม่มีการโค่นทิ้ง อาตมาก็จะปล่อยไว้อย่างนั้น เขาจะรอดหรือจะตายก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของธรรมชาติ

ทั้งนี้ นายบุญมา อายุ 54 ปี ชาวบ้านละแวกวัด เล่าว่า เมื่อสมัยก่อนต้นตะเคียนต้นนี้มีพวงมาลัยล้อมเต็มต้น ก็ไม่ค่อยมีคนขับรถผ่าน เพราะว่ากลัวกันซึ่งตรงนั้นอยู่ใกล้กับป่าช้าเก่า