ศาลอาญาสั่งประหารชีวิต “แม่ปุ๊ก” วางยาลูก 2 คน โพสต์เฟซบุ๊กขอรับบริจาคเงิน

ศาลอาญาสั่งประหารชีวิต “แม่ปุ๊ก” วางยาลูก 2 คน โพสต์เฟซบุ๊กขอรับบริจาคเงิน

ศาลอาญาสั่งประหารชีวิต “แม่ปุ๊ก” วางยาลูก 2 คน โพสต์เฟซบุ๊กขอรับบริจาคเงิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลอาญาสั่งประหารชีวิต “แม่ปุ๊ก” วางยาลูก 2 คน โพสต์เฟซบุ๊กขอรับบริจาคเงิน ชี้สารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐาน

วานนี้ (15 ก.ย.65) ศาลอาญา มีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ คม.38/2563 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ 3 โจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ณัฐติวรรณ หรือ ปุ๊ก จำเลยในข้อหาค้ามนุษย์ฯ เพื่อแสวงหาประโยชน์ฯจากการนำคนมาขอทานฯ เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสและถึงแก่ความตาย, พยายามฆ่าผู้อื่นฯ, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นฯ ทำการขอทานฯ, ฉ้อโกงฯ, ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นฯ, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ ชักจูงฯ ใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการขอทาน

กรณีกล่าวหาว่า ระหว่างวันที่ 22 เม.ย.58 – 12 ส.ค.62 จำเลยซึ่งรับเด็กหญิง อายุ 4 ปีเศษ (ผู้ตาย) จากมารดามาเลี้ยงอุปการะอยู่ในบ้านจำเลย โดยขณะรับเลี้ยงนั้นให้เด็กกลืนอาหารที่มีการผสมสารมีฤทธิ์กัดกร่อน

ต่อเนื่องกันหลายครั้งเป็นเหตุให้เด็กมีอาการบาดเจ็บทางเดินอาหาร ความดันโลหิตสูงรุนแรง อาเจียนเป็นเลือด จนต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลหลายครั้ง แล้วจำเลยนำภาพของเด็กขณะที่เจ็บป่วย ไปโพสต์บน Facebook ส่วนตัว เชิญชวนประชาชนเกิดความสงสาร มาร่วมช่วยเหลือซื้อสินค้าต่างๆ และขอรับบริจาคค่ารักษาพยาบาล

นอกจากนี้ระหว่างวันที่ 10 ก.ย.60 – 18 พ.ค.63 จำเลยได้ทำให้บุตรของจำเลยซึ่งเป็นเด็กชาย อายุ 2 ปีเศษ (ผู้เสียหายที่ 1) บาดเจ็บสาหัส จากการกลืนกินอาหารที่มีสารฤทธิ์กัดกร่อนผสมอยู่ต่อเนื่องหลายครั้ง

โดยจำเลยโพสต์ภาพเด็กขณะเจ็บป่วยเชิญชวนให้มีการบริจาคเช่นเดียวกัน ซึ่งมีผู้เสียหายที่ 2-6 เกิดความสงสารและได้ร่วมบริจาคผ่านบัญชีของจำเลย ระหว่างการพิจารณาจำเลยให้การรับสารภาพ (ระหว่างพิจารณาจำเลยถูกคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง)

โดยศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ส่วนที่จำเลยให้การรับสารภาพนั้นเพราะจำนนต่อหลักฐาน จึงไม่ลดโทษให้ โดยเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงให้ประหารชีวิตสถานเดียว

ทั้งนี้ เมื่อจำเลยต้องโทษประหารชีวิตแล้ว จึงไม่อาจนำโทษที่โจทก์ขอบวกโทษมารวมเข้ากับคดีนี้ได้อีก และไม่นับโทษจำเลยต่อจากคดีที่โจทก์ขอ โดยศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยคืนเงิน จำนวน 31,600 บาท จำนวน 2,000 บาท จำนวน 3,800 บาท จำนวน 3,140 บาท จำนวน 2,400 บาท แก่ผู้เสียหายที่ 2-6 ตามลำดับด้วย และให้รับโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook