พ่อหนุ่มไรเดอร์ เหยื่อแฟนสาวแทงดับ ยังทำใจไม่ได้ ถามกลับ ทำไมผู้ต้องหาได้ประกันตัว
วันที่ 17 กันยายน 2565 ที่ภาควิชานิติเวช โรงพยาบาลศิริราช ครอบครัวของสหวัฒน์ หนุ่มไรเดอร์ที่ถูกแฟนสาวแทงเสียชีวิตในคอนโดย่านพระราม 2 เมื่อวานนี้ก่อนจะนำศพไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณและนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบางบอน บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
คุณพ่อของผู้เสียชีวิตระบุว่า เมื่อคืนตนรอที่ สน.ถึง 5 ทุ่ม หวังจะได้พูดคุยกับแฟนสาวว่าเหตุใดถึงก่อเหตุเช่นนี้ ส่วนตัวตนเคยเจอกับแฟนสาวครั้งเดียวตอนงานศพแม่ของผู้ตาย โดยตนสังเกตเห็นว่าฝ่ายหญิงค่อนข้างจะอารมณ์ร้อนและฉุนเฉียวง่าย ซึ่งตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไร ทั้งนี้คุณพ่อเปิดใจด้วยเสียงสั่นเครือว่า การสูญเสียครั้งนี้ถือว่าร้ายแรงและทำให้ที่บ้านสูญเสียกำลังสำคัญ ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งสูญเสียภรรยาที่เป็นมารดาผู้ตายไป หลังจากนี้ก็คงต้องตั้งหลักกันใหม่เพื่อเลี้ยงดูลูกคนเล็กที่ยังอยู่
นอกจากนี้ยังตั้งคำถามถึงกระบวนการสอบสวนของทางตำรวจว่า ตนขอรอดูสำนวนและการตั้งข้อหาของพนักงานสอบสวนเสียก่อน มั่นใจว่าโดยพฤติการณ์ และสภาพบาดแผลต้องตั้งข้อหาหนัก แต่ถ้าหากข้อหาเบากว่าความเป็นจริง ตนก็พร้อมร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรม
ทั้งนี้ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่าผู้ต้องหาประกันตัวได้อย่างไร ทั้งที่ตนก็บอกกับตำรวจว่าจะคัดค้านการประกันตัว แต่ทางพนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งขั้นตอนใด ๆ จนทราบข่าวว่าประกันตัวออกไปแล้ว
หากผู้ต้องหาจะมาที่งานศพหรือมาขอขมาตน ก็ยินดีและอยากจะถามว่าทำไปทำไม เหตุใดถึงกับต้องทำลูกชายของตนเช่นนี้ ที่ผ่านมาลูกชายตนก็ประพฤติตัวดีมาโดยตลอด เลยสงสัยว่าเพราะอะไรถึงกับต้องพรากชีวิตลูกชายตน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่นำร่างผู้เสียชีวิตลงโลงศพและขึ้นรถ ญาติของผู้เสียชีวิตต่างร่ำไห้เศร้าโศกเสียใจ พร้อมสั่งเสียว่า จะสู้คดีและทวงคืนความเป็นธรรมให้แก่ผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ บรรยากาศเต็มไปด้วยความหดหู่และเศร้าเสียใจ ก่อนจะนำศพไปยังที่เกิดเหตุเพื่อทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณและนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบางบอนต่อไป อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังผู้ต้องหา เพื่อให้ชี้แจงต่อกรณีที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถติดต่อได้
ด้านพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เปิดเผยว่าเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนากับผู้ต้องหา ส่วนผลการสอบปากคำ ผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ การสอบปากคำมีทนายความ และบิดามารดาของผู้ต้องหาร่วมฟังอยู่ ส่วนสภาพจิตใจของผู้ต้องหาขณะสอบปากคำนั้น ไม่มีความเครียดหรือวิตกกังวล แต่มีความมั่นใจในตัวเองสูง และอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของบิดามารดาโดยใกล้ชิด
ภายหลังบิดาผู้ต้องหาได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว ซึ่งพนักงานสอบสวนพิจารณาเห็นแล้วว่า การขอประกันตัวมีหลักทรัพย์ อีกทั้งผู้ต้องหาได้เดินทางมามอบตัวเอง พิจารณาเห็นแล้วว่าไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวนจึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยนัดหมายให้ผู้ต้องหามารายงานตัวที่ สน.ท่าข้าม ภายในวันที่ 24 กันยายน แล้วจะรวบรวมพยานหลักฐาน และสรุปสำนวนเพื่อนำส่งให้อัยการสั่งฟ้องต่อศาลต่อไป