รุ่นพี่ ม.6 สายโหด เตะต่อยรุ่นน้อง ม.1 สลบคาที่ เหตุแค่โยนตะกร้อโดนมอเตอร์ไซค์
รุ่นพี่ ม.6 สายโหด เตะต่อยรุ่นน้อง ม.1 สลบคาที่ เหตุแค่โยนตะกร้อโดนมอเตอร์ไซค์ แม่คนเจ็บฉุน โพสต์กร่างไม่สำนึก
(17 ก.ย.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้า มีผู้เสียหาย คือ นางลัดดา อายุ 38 ปี อยู่บ้านปากอูน ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มารดาของ ด.ช.ต๋อง (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนมัธยมชื่อดังของอำเภอศรีสงคราม ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กร้องทุกข์ผ่านสื่อโซเชียลไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.วายุพงษ์ ปาประโม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ศรีสงคราม เพื่อดำเนินคดีกับ นายเก่ง (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี นักเรียนรุ่นพี่ ชั้น ม.6 โรงเรียนเดียวกัน ทำร้ายร่างกาย ทั้งต่อยทั้งเตะจนสลบคาที่ และถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอศรีสงคราม มีแผลบาดเจ็บตรงมุมปากด้านซ้าย เย็บบาดแผลถึง 6 เข็ม และมีรอยฟกช้ำตามใบหน้า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 กันยายน 65 บริเวณสนามกีฬาของโรงเรียนดังกล่าว
เบื้องต้นทางตำรวจเตรียมเรียกผู้เสียหาย รวมถึงผู้ถูกกกล่าวหา มาสอบสวนข้อเท็จจริง ในวันที่ 19 กันยายน 2565 และรับทราบข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ นางลัดดา มารดาของ ด.ช.ต๋อง (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวตนรับไม่ได้ และถือว่าเป็นเรื่องที่กระทำเกินกว่าเหตุ อีกทั้งอยู่ภายในโรงเรียน มีทั้งครู และนักเรียน ในโรงเรียนเห็นเหตุการณ์ หลังจากลูกชายของตน ผู้เสียหาย เล่นกีฬาตะกร้อกับเพื่อน และโยนตะกร้อพลาดไปถูกรถจักรยานยนต์ของ นายเก่ง (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนเดียวกัน
ซึ่งขณะเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุเจ้าของรถเห็นเหตุการณ์พอดี จึงไม่พอใจ และโวยวายด้วยอารมณ์โกรธว่า ตะโกนถามลูกชายว่า มึงทำรถกูทำไม พร้อมใช้หมัดต่อยเข้าที่มุมปากด้านซ้ายอย่างจัง จนน้องต๋องลูกชายทรุดลงกับพื้น และได้ฮึดลุกขึ้นมายกมือไหว้ขอโทษ แต่นายเก่ง ไม่สนใจ ใช้เท้าเตะน้องต๋องจนล้มลงอีกครั้ง และเตะซ้ำสองครั้ง จนน้องต๋องสลบคาที่ จนกระทั่งครู และเพื่อนที่นักเรียนที่อยู่ใกล้ เข้ามาห้าม และนำส่งโรงพยาบาลอำเภอศรีสงคราม แพทย์เย็บบาดแผล ใต้คาง ถึง เข็ม
จากนั้นจึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสงคราม เพื่อดำเนินคดีกับ รุ่นพี่ ม. 6 สายโหด นอกจากนี้ ทางแม่ผู้เสียหาย ได้เดินทางไปสอบถามข้อเท็จจริง ทางผู้ก่อเหตุอ้างทำไปเราะความโมโห หนำซ้ำยังไม่สำนึกผิดไม่ขอโทษ และยังโพสเฟซบุ๊ก อวดศักดา ว่า “มาเฮ็ดรถไผบ่เฮ็ด มาเฮ็ดรถกูๆไว้อยู่ซื่อๆ มาโยนตะกร้อใส่ กินตีนกูส่ำนี้มันน้อยไป” จนกระทั่งรู้ภายหลัง ว่ามีการแจ้งความเอาเรื่องจึงลบโพสต์ไป อย่างไรก็ตามจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะถือว่ากระทำเกินกว่าเหตุ ทั้งที่รถจักรยานยนต์ ไม่ได้รับความเสียหาย พร้อมเรียกร้อง ทางแพ่ง และอาญา ให้ถึงที่สุด