ค้านกองทัพ ใช้สนามบินเสรีไทย ปลูกอ้อย ชี้ ย่ำยีประวัติศาสตร์-หวั่นสารเคมีกระทบ
ชาวบ้าน อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ค้านกองทัพ ใช้สนามบินเสรีไทย ปลูกอ้อย ชี้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์-หวั่นสารเคมีกระทบแหล่งน้ำ
(18 ก.ย.65) ที่ทำการกองทุนหมู่บ้านนาคู หมู่ 1 ต.นาคู อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ตัวแทนของชาวบ้านจากชุมชนต่างๆ ในตำบลนาคู และใกล้เคียง ซึ่งเป็นชาติพันธุ์ชาวผู้ไทย นำโดยนายบำรุง คะโยธา อดีตแกนนำสมัชชาคนจน นางทักษิณ แจ่มพงศ์ นายก ทต.นาคู นายสังคม จิตจง กำนันตำบลนาคู พร้อมด้วยคณะกรรมการหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน ชาวบ้านตั้งแต่อายุ 70 ปีลงมา รวมตัวกันเพื่อคัดค้านโครงการของกองทัพอากาศ โดยกองบิน 23 อุดรธานี ที่จะใช้สนามบินเสรีไทยเป็นแปลงปลูกไร่อ้อย
หลังชาวบ้านได้พบนายทุนนำพบรถแบ็คโฮเข้ามาจอดภายในบริเวณสนามบินเสรีไทย และเตรียมลงมือปรับพื้นที่ของสนามบินเสรีไทยแห่งนี้เป็นแปลงปลูกอ้อยจำนวน 100 ไร่ จากนั้นได้รวมตัวกันคัดค้าน แสดงจุดยืนในการปกป้องสนามบินเสรีไทย โดยร่วมกันชูป้าย เพื่อแสดงสัญลักษณ์คัดค้าน และขอให้กองทัพอากาศ ยกเลิกโครงการแปลงสนามบินเสรีไทยเป็นแปลงปลูกอ้อยดังกล่าว ทั้งนี้ ชาวบ้านที่พบเห็นรถแบ็คโฮดังกล่าวได้เข้าไปขัดขวาง ก่อนที่จะทราบข้อมูลว่าเจ้าของพื้นที่แห่งนี้ คือ กองทัพอากาศ (ทอ.) โดยมีหนังสือกล่าวอ้างอนุญาตให้ทำการปลูกอ้อย
ชาวบ้านต่างไม่พอใจและรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม และวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะถ้าเป็นไปได้จะเป็นการลบรอยประวัติศาสตร์ชาติไทย อีกทั้งยังเป็นการลบรอยที่ถูกจารึกไว้ตั้งแต่ยุคผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ซึ่งจะกระทบต่อความรู้สึกและสภาพจิตใจ รวมทั้งสิ่งแวดล้อม เนื่องจากหากมีการปลูกอ้อยในสนามบินจริงๆ จะมีสารเคมีและสารพิษจากไร่อ้อยตกค้างและไหลไปยังห้วยมะโน ที่เป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคในเขตอำเภอนาคู
ด้าน นายบำรุง คะโยธา อดีตแกนนำสมัชชาคนจน กล่าวว่า ตามที่ได้รับแจ้งจากเครือข่ายชาวผู้ไทยในเขต อ.นาคู และ อ.เขาวง ซึ่งเป็นชาติพันธุ์ผู้ไทย ว่ามีหนังสือจากทหารอากาศ อนุญาตให้นายทุนเข้ามาทำการปลูกอ้อยจำนวน 100 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมดของสนามบินเสรีไทยประมาณ 500 ไร่ ทำให้ตนและผู้ที่ทราบข่าวประหลาดใจมาก จึงได้ร่วมกับเครือข่ายชาติพันธุ์ผู้ไทย และผู้นำชุมชน มาพูดคุย ร่วมกันหาแนวทางคัดค้าน เพราะต่างก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะพื้นที่เป็นสนามบินเสรีไทยตรงนี้ เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์
ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ทราบจากหนังสืออนุญาตดังกล่าวระบุว่าจะใช้เป็นที่ปลูกอ้อย เอาค่าเช่ามาเป็นเงินสวัสดิการช่วยเหลือสวัสดิการกองบิน ซึ่งไม่น่าจะหาวิธีการโดยให้เอกชนมาเช่าปลูกอ้อยเลย หากต้องการเงินสวัสดิการจริงๆ มีหลายวิธีที่จะหา หรือจะให้ชาวอำเภอนาคูทุกคนออกเงินช่วย ก็จะง่ายกว่า ทั้งนี้ จะคัดค้านไปให้ถึงที่สุด ด้านนางทักษิณ แจ่มพงศ์ นายก ทต.นาคูกล่าวว่า เรื่องนี้ตนและท้องถิ่น ท้องที่ รวมทั้งชาวบ้านไม่ทราบเรื่องมาก่อน ก็เพิ่งจะได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีการขนย้ายเครื่องจักรเข้ามาในสนามบิน และเตรียมจะลงมือปรับสนามบินเสรีไทยให้เป็นไร่อ้อย
ทั้งนี้ จากข้อความในหนังสืออนุญาตดังกล่าว ระบุว่า ขออนุมัติใช้ประโยชน์พื้นที่ดำเนินโครงการปลูกพืช เพื่อรักษาหน้าดินและพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนและเข้าใจว่าชาวบ้านทุกคน ไม่เห็นด้วยแน่นอน เนื่องจากชาวนาคูผูกพันกับสนามบินเสรีไทยมาหลายชั่วอายุตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และต่อมาก็เป็นแหล่งอาหารชุมชน ชาวบ้านได้ไปหาอาหารตามฤดู เป็นแหล่งเลี้ยงสัตว์ หากมีการแปลงสภาพเป็นไร่อ้อย ก็จะเกิดสารเคมีตกค้าง และถูกกระแสน้ำพัดพาลงสู่ห้วยมะโน เป็นอันตรายต่อสุขภาพชาวบ้านได้ นางทักษิณกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาส่วนราชการเคยขอใช้ประโยชน์จากสนามบินเสรีไทย ประมาณ 27 ไร่ เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของโรงพยาบาลนาคู ต่อมาพยายามขอใช้พื้นที่เพิ่มเติม แต่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่อนุญาต รวมถึงจะใช้ประโยชน์เพื่อส่วนรวมต่างๆ เช่น พิพิธภัณฑ์เสรีไทย ปรับปรุงเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็ยังไม่อนุญาต แต่พอมาถึงวันนี้ กลับมีหนังสืออนุญาตให้เอกชนเข้ามาปลูกอ้อย เพื่อเอาเงินค่าเช่าเป็นเงินสวัสดิการดังกล่าว จึงเป็นเรื่องที่ชาวบ้านยอมไม่ได้ จึงได้มารวมตัวกันคัดค้านในครั้งนี้