เปิดใจ รุ่นพี่ ม.6 กระทืบรุ่นน้อง ม.1 สลบคาโรงเรียน อ้างหวงมอเตอร์ไซค์ราคา 2.8 แสน

เปิดใจ รุ่นพี่ ม.6 กระทืบรุ่นน้อง ม.1 สลบคาโรงเรียน อ้างหวงมอเตอร์ไซค์ราคา 2.8 แสน

เปิดใจ รุ่นพี่ ม.6 กระทืบรุ่นน้อง ม.1 สลบคาโรงเรียน อ้างหวงมอเตอร์ไซค์ราคา 2.8 แสน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดใจ รุ่นพี่ ม.6 กระทืบรุ่นน้อง ม.1 สลบคาโรงเรียน อ้างอารมณ์ชั่ววูบ หวงมอเตอร์ไซค์ราคา 2.8 แสน ที่เพิ่งได้มา

(20 ก.ย.65) นายฉัตรชัย ไชยมงค์ รอง ผอ.สพม.นครพนม ประสานงานร่วมกับ นายสนั่น เมตุลา ผู้อำนวยการโรงเรียนสหราษฎร์รังสฤษฏ์ อ.ศรีสงคราม พร้อมด้วย นายธีระพงษ์ บุตรดี รองผู้อำนวยการโรงเรียนฝ่ายกิจการนักเรียน ร่วมกับ เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน สพม.นครพนม ลงพื้นที่มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้น ให้กับ เด็กชายต๋อง อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กรณีถูก นายเก่งเจริญ (สงวนนามสกุล) อายุ19 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทำร้ายร่างกายชกต่อย เตะ จนสลบคาโรงเรียนได้รับบาดเจ็บ พร้อมประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทางตำรวจ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าไปดูแลช่วยเหลือในด้านต่างๆ

ส่วนการดำเนินคดี ทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ โดยทางด้าน แม่ผู้เสียหาย คือ นางลัดดา อายุ 38 ปี ยืนยันเรียกร้องค่าสินไหม จำนวน 50,000 บาท แต่ทางครอบครัวผู้ก่อเหตุ อ้างไม่มีเงินเพียงพอที่จะชดเชย จึงมอบหมายให้ทางตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย

ล่าสุด ทางด้าน นายเก่งเจริญ ผู้ก่อเหตุ ออกมาเปิดใจ ว่า หลังเกิดเหตุตนสำนึกผิด ยอมรับขาดสติ ที่ทำลงไปเพราะความหวงรถจักรยานยนต์คันใหม่ที่เพิ่งซื้อ เป็นเงินที่สะสมด้วยตนเอง และพ่อแม่ให้มา รวมเป็นเงินดาวน์ จำนวน 30,000 บาท เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า xmax 300 ราคารวมผ่อนชำระทั้งหมดประมาณ 2.8 แสนบาท ชำระงวดเดือนละประมาณ 3,000 บาท เพิ่งซื้อมายังไม่ถึงเดือน โดยก่อนเกิดเหตุ มีเพื่อนที่รู้จักตะโกนบอกว่า มีน้องโยนตะกร้อใส่รถจักรยานยนต์ ที่จอดไว้ใกล้ที่เล่นกีฬา ในช่วงระหว่างพักคาบเรียน จึงเดินเข้าไปหาคนเจ็บ และยอมรับว่าไม่ได้สอบถาม และตรวจสอบความเสียหาย ด้วยความโมโห อารมณ์ชั่ววูบ เพราะรักรถมาก จึงขาดสติตัดสินใจชกต่อยใบหน้าน้อง 2 หมัด และน้องล้มลงเตะซ้ำอีก 3 ครั้ง

ยอมรับว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป ทั้งที่เห็นน้องยกมือขอโทษก่อนที่จะชกที่ใบหน้า จนหลังเกิดเหตุมาคิดได้ แต่สายเกินไปแล้ว มาถึงวันนี้กราบขอโทษครอบครัวน้อง และพร้อมสำนึกผิด อยากให้สังคม และครอบครัวน้องให้โอกาส และขอรับผิดจากการกระทำทุกอย่าง และขอความเมตตา กรณีอยากให้ออกจากโรงเรียน ขอเรียนให้จบการศึกษา เพราะเหลืออีกไม่กี่เดือน ส่วนการชดเชยเยียวยาขึ้นอยู่กับ ตาและยาย เพราะตนไม่มีเงิน และยืนยันไม่ได้คิดร้ายต่อน้อง ยืนยันจะไม่มีพฤติกรรมแบบนี้อีก

ทางด้าน นายฉัตรชัย ไชยมงค์ รอง ผอ.สพม.นครพนม เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนม ได้สั่งการให้ทางผู้อำนวยการโรงเรียน คณะผู้บริหาร ตรวจสอบข้อเท็จจริง และทำความเข้าใจทั้ง 2 ฝ่าย แต่การเจรจาตกลงไกล่เกลี่ยขึ้นอยู่กับ สิทธิ์ของผู้เสียหาย ในการเรียกร้องด้านต่างๆ หากไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ จะมอบหมายให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง หรือตำรวจ ดำเนินคดี ตามกฎหมาย ส่วนการดูแล ด้านอื่นทาง ทาง สพม. มีเจ้าหน้าที่จาก ศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน สพม.นครพนม ประสานงานร่วมกับ ทางด้าน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าไปเยียวยา ให้คำปรึกษา ดูแลสภาพจิตใจเบื้องต้น

ทั้งนี้ยืนยันว่า ทาง สพม.นครพนม ได้มีมาตรการให้โรงเรียนในสังกัดทุกแห่ง มีมาตรการดูแลป้องกัน การกระทำผิดของนักเรียนอยู่แล้ว แต่อาจจะมีบางส่วนที่ดูแลไม่ทั่วถึง ซึ่งจะได้ สั่งการเพิ่มเติมให้เพิ่มมาตรการดูแล เพิ่มขึ้น มั่นใจจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรง เกิดขึ้นซ้ำอีก และจะให้ความเป็นธรรมดูแลทั้ง 2 ฝ่าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook