หนุ่มมูลนิธิสุดงง รถกู้ชีพเคลื่อนไปข้างหน้าเอง ชนรถเก๋งที่จอดอยู่ตรงข้าม
เปิดภาพรถกู้ชีพเคลื่อนไปข้างหน้าเอง ชนรถเก๋งที่จอดอยู่ตรงข้ามจนถอยหลังเข้าพงหญ้า หนุ่มมูลนิธิมั่นใจดึงเบรกมือแล้ว เช็กกล้องวงจรปิดก็ไม่มีใครเข้าใกล้รถ
ภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงจอดรถแห่งหนึ่ง ภายในซอยมังกร-นาคดี อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 10.30 น. เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้บันทึกภาพเหตุการณ์ รถตู้ของอาสาสมัครมูลนิธิแห่งหนึ่ง ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กต 4599 พะเยา ที่จอดอยู่ในซองจอดรถตามปกติ
อยู่ๆ รถตู้ของอาสาสมัครมูลนิธิได้ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปข้างหน้า จนชนรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กจ 6687 ยะลา ที่จอดอยู่ในช่องจอด จนถอยข้ามปูนกั้นล้อ ไปในพงหญ้าที่บ้านอยู่ด้านใน
ล่าสุด วานนี้ (25 ก.ย.) เมื่อเวลา 20.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งบนถนนศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นจุดที่อาสาสมัครร่วมกตัญญูร่วมตัว พบกับ นายภาคภูมิ ปรีเลิศ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งเป็นเจ้าของรถตู้คันดังกล่าว
นายภาคภูมิ เล่าว่า เมื่อวันศุกร์ตนก็ออกเวรสแตนบายตามปกติ แล้วก็ไปกิน KFC กัน แล้วก็กลับบ้าน ตนเอาออมบุญ รถตู้คันดังกล่าว เข้าไปจอดประมาณตี 1 ซึ่งก็เข้าไปจอดที่นั่นตามปกติ แล้วก็เปลี่ยนรถกลับบ้าน
พอเช้าตนก็ออกไปทำธุระ น้องที่ออกเวรด้วยกันได้โทรมาบอกว่าลืมแก้วน้ำวางไว้หลังรถ ตนก็กลัวว่าน้ำจะหก ก็เลยจะเข้าไปทำความสะอาดรถ พอไปถึงหน้าโรงจอดรถก็ไม่เห็นรถจอดอยู่ในที่จอด ก็เลยไขประตูรั้วเข้าไป ก็เห็นคนยืนอยู่ใกล้ๆ ตรงที่ตนจอดรถไว้
พอเดินเข้าไปดูพบว่ารถของตนพุ่งไปอยู่ที่จอดของอีกคันนึง ซึ่งดันรถอีกคันลงไปข้างทางหลังโรงจอดรถ ตนก็งงว่ารถตนไปได้ยังไง ซึ่งรถตนก็ใส่เกียร์ ดึงเบรกมือไว้ และประตูทุกบานก็ล็อกหมดไม่มีใครเข้า ก็เลยลองไปไขประตูรถเปิดเครื่องดูพบว่าเครื่องยังเย็นอยู่ ก็ยังงงว่าไหลไปได้ยังไง
ทางเจ้าของโรงจอดรถก็ได้โทรตามเจ้าของรถคู่กรณีให้เข้ามาดู รถของคู่กรณีก็เป็นรถเกียร์ธรรมดา เขาก็ดึงเบรกมือไว้เหมือนกัน ทุกคนตรงนั้นก็เลยงงว่ามันดันไปได้ยังไง เพราะถ้าเกิดแค่รถไหลมันไม่น่าที่จะดันไปได้ขนาดนั้น เพราะพื้นตรงโรงจอดรถก็เป็นพื้นราบไม่มีลาดเอียงอะไรทั้งสิ้น เป็นพื้นราบปกติ ก็ยังงงอยู่ว่าดันไปได้ยังไง จนถึงตอนนี้ก็ยังหาคำตอบไม่ได้
ตนยืนยันว่าตนดึงเบรกมือ แล้วก็ใส่เกียร์ไว้ตามปกติ เพราะตนเองกลัวรถไหล เท่าที่ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงจอดรถที่ทางเจ้าของติดไว้ ก็ไม่พบใครเดินเข้าไปใกล้รถเลย เพราะโรงจอดรถนั้นถ้าใครจะเข้าไปได้ต้องมีกุญแจรั้ว ก็จะมีแค่คนที่เช่าที่จอดรถเท่านั้นที่จะมีกุญแจ
ตนซื้อรถคันนี้มาเกือบปีแล้ว รถคันนี้เดิมทีเป็นรถของโรงพยาบาล ซึ่งทะเบียนรถก็เป็นป้ายทะเบียนรถพยาบาล ตนก็ซื้อมาเพื่อที่จะทำเป็นรถอาสาสมัครวิ่งในพื้นที่ ส่วนเรื่องลี้ลับหรือเรื่องเหนือธรรมชาติ ตนก็ไม่เชื่อซะทีเดียว แล้วก็ไม่ได้ลบหลู่
แต่ก็มีหลายๆ ครั้งที่ตนออกเคสแล้วแคล้วคลาดภัยอุบัติเหตุมาได้ ก็มีหลายครั้งเหมือนกัน ตนก็คิดว่าไม่ว่าจะเป็นทางด้านปู่เปี่ยมที่ตนนับถืออยู่ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนกราบไหว้ในรถ ก็น่าจะมีอยู่ที่ปกป้องตน แต่ก็ยังงงถ้าปกป้องตน ไม่รู้ว่ามาดันรถตนไปทำไม
กับสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ตนรู้สึก ตกใจ แล้วก็ งง ว่ารถมันไปได้ยังไง ณ ปัจจุบันยังหาคำตอบอยู่ว่ารถมันไปได้ยังไง ทุกคนงงหมดเลย ส่วนรถคันดังกล่าวตนก็ยังจะใช้อยู่ จะไม่ขาย ยังจะใช้อยู่ แต่วันนี้ตนไม่ได้เอาออกมา ขับรถอีกคันมาแทน เพราะยังหวั่นๆ นิดๆ ว่าจะเป็นอะไรหรือไม่ ยังไม่กล้าขับ
อัลบั้มภาพ 18 ภาพ