DSI จ่อเรียกสอบ 2 พยาน ลูกทีม "กระทิง ขุนณรงค์" หนึ่งในนั้นเป็นดาราดัง
DSI จ่อเรียกสอบ 2 พยาน ลูกทีม กระทิง ขุนณรงค์ มาสอบปากคำอีก 2 คน เพื่อให้เห็นความเชื่อมโยงในคดี ซึ่ง 1 ใน 2 คนที่เรียกมานั้นเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง แต่ไม่ระบุว่าเป็นใคร
จากกรณีคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ที่เพจดังได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลสำคัญของเหล่าดารา โดยพาดพิงอ้างว่าพระเอกชื่อดัง กระทิง-ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์ ถูกโยงเป็นอัพไลน์ในเครือข่าวดังกล่าวด้วย ซึ่งทางด้านของ กระทิง ได้ยืนยันว่าไม่ได้ชวนใครร่วมลงทุน และยินดีให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด หากผิดจริงพร้อมออกจากวงการบันเทิง
ล่าสุด (28 ก.ย.) ทาง ข่าวช่อง 3 ได้มีการรายงานความคืบหน้าเพิ่มเติมว่า “พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา คดี FOREX-3D กลุ่มเดียวกับดีเจแมนและใบเตย มารับทราบข้อหาเพิ่มอีก 6 คน และเตรียมเรียกผู้เสียหายที่ DownLine ของ กระทิง ขุนณรงค์ นักแสดงชื่อดัง มาสอบปากคำอีก 2 คน เพื่อให้เห็นความเชื่อมโยงในคดี
นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษและร้อยตำรวจตรี วิษณุ ฉิมตระกูล ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนคดีFOREX-3D และมีมติให้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาอีก 6 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับดีเจแมนและใบเตย ที่มีผู้กระทำผิดรวม 16 คน โดยให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 11 และ 12 ตุลาคมนี้
ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ DSI ออกหมายเรียกไปก่อนหน้านี้ กำหนดให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 4 และ 5 ตุลาคม ทำให้ตอนนี้ ผู้ต้องหาในล็อตที่ 3 ถูกออกหมายเรียกครบแล้วทั้ง 16 คน ขณะที่ดีเจแมนและใบเตย ได้ขอเลื่อนนำเอกสารแก้ข้อกล่าวหาเพิ่มเติม มามอบให้พนักงานสอบสวนไปเป็นวันที่ 17 ตุลาคม จากเดิมที่กำหนดไว้ คือวันที่ 30 กันยายน โดยอ้างว่า มีข้อมูลและเอกสารจำนวนมากที่ต้องดำเนินการ
นอกจากนี้ ดีเอสไอยังเตรียมเรียกผู้เสียหายที่เป็น Downline ของ กระทิง ขุนณรงค์ อีก 2 คน มาสอบปากคำในฐานะพยาน ซึ่ง 1 ใน 2 คนที่เรียกมานั้นเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง แต่ไม่ระบุว่าเป็นใคร
พนักงานสอบสวน ได้ออกหมายเรียกนักแสดงชาย ป. เป็นครั้งที่ 2 ให้มารับทราบข้อกล่าวหาต้นเดือนตุลาคมนี้ เป็นความผิดในคดีฟอกเงิน โดยนักแสดงชาย ป. รายนี้ เคยถูกดีเอสไอยึดรถหรู ที่บ้านพักจังหวัดราชบุรี เมื่อปี 2563 มาแล้ว นอกจากนี้นายไตรยฤทธิ์ อธิบดี DSI บอกว่าหลังจากนี้จะตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้งหมด และจะดำเนินการยึดทรัพย์ ขายทอดตลาด เพื่อนำมาเฉลี่ยทรัพย์คืนให้กับผู้เสียหาย”