หนุ่มลื่นตกฝายน้ำล้น คนโยนเชือกช่วย แต่ห่วงมือถือไม่ยอมปล่อย ถูกกระแสน้ำพัดจมหาย

หนุ่มวัย 31 ชาวบุรีรัมย์  จอด จยย.โทรศัพท์ใกล้ฝายน้ำล้นที่ไหลเชี่ยวลื่นตกพร้อมรถ  ผู้ช่วย  ผญบ.ตกปลาริมฝายเห็นรีบโยนเชือกให้หวังช่วย แต่ผู้ประสบเหตุกลับห่วงมือถือตะโกนให้ทิ้งแต่ไม่ยอมปล่อย  ถูกกระแสน้ำพัดจมหาย  กู้ภัยฯ ระดมงมหานาน 3 ชม.แต่ไม่พบ

(4 ต.ค.65)  ร.ต.ท.หญิงมะลิสา  ศรีสุยงค์  รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์   ได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกกระแสน้ำพัดจมหายพร้อมกับรถจักรยานยนต์ ที่บริเวณฝายน้ำล้นบ้านกลันทา ต.กลันทา จ.บุรีรัมย์ จึงได้ประสานชุดประดาน้ำมูลนิธิกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์ ร่วมค้นหาผู้ประสบเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากยืนมุงดูรอบฝายน้ำล้นที่เกิดเหตุ สอบถามทราบว่าผู้ที่ถูกกระแสน้ำพัดจมหาย คือนายจเรย์ศักดิ์ ทรงสดี อายุ 31 ปี ชาวบ้าน ม.2 ต.กลันทา อ.เมืองบุรีรัมย์ ได้จมหายไปพร้อมกับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สกุ๊ปปี้ไอ  

จากนั้นชุดประดาน้ำเกือบ 10 คน จึงได้นำอุปกรณ์ลงงมค้นหานายจเรศักดิ์ ท่ามกลางความมืดและกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวแรง  โดยหน่วยกู้ภัยได้ใช้เวลางมค้นหานานกว่า 3 ชั่วโมง  แต่ก็ไม่พบทั้งรถจักรยานยนต์และคนที่สูญหาย หน่วยกู้ภัยฯ จึงจำเป็นต้องยุติการค้นหาชั่วคราว พรุ่งนี้จึงจะวางแผนค้นหาอีกครั้ง

จากการสอบถามนายสำรวย ดาทอง อายุ 52 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่ หมู่ 13 ต.กลันทา ซึ่งเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่นั่งตกเบ็ดอยู่ริมฝาย เห็นนายจเรย์ศักดิ์ ขับรถคุยโทรศัพท์อยู่ใกล้กับฝายน้ำล้น ผ่านไปไม่นานก็ได้ยินเสียงคล้ายเหล็กครูดกับปูน ก่อนจะเห็นนายจเรย์ศักดิ์ ถูกกระแสน้ำพัดไปที่บริเวณกลางฝายน้ำล้นแล้วเห็นนายจเรย์ศักดิ์ ผุดๆ โผล่ๆ อยู่กลางฝายตนจึงวิ่งหาอุปกรณ์เพื่อจะช่วย ก็เห็นเชือกอยู่ในกระท่อมจึงรีบคว้าไปโยนให้นายจเรย์ศักดิ์ เพื่อหวังจะช่วยชีวิต

แต่ตอนนั้นนายจเรย์ศักดิ์ ยังกำมือถือแน่นเหมือนกับยังห่วงมือถือ ตนก็ตะโกนให้ทิ้งมือถือไป เพื่อจะได้ใช้มือเกาะเชือกแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือถือจากนั้นนายจเรย์ศักดิ์ ก็จมหายไปต่อหน้าตนเอง และเด็กวัยรุ่นที่มานั่งเล่นอยู่ริมฝายอีกหลายคน จากนั้นตนจึงรีบแจ้งหน่วยกู้ชีพ อบต. และชุดประดาน้ำหน่วยกู้ภัยฯ มาช่วยค้นหานายจเรศักดิ์ 

ด้าน นางแพน กระแสโสม  อายุ 55 ปี น้าของนายจเรย์ศักดิ์ บอกว่า ปกติหลานเป็นคนกลัวน้ำเพราะว่ายน้ำไม่เป็น ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นหลานมาที่ฝายน้ำล้นแห่งนี้ วันนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่หลานมาที่ฝาย แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงได้ลื่นตกฝายน้ำล้นได้  ก็ภาวนาขอให้เจ้าหน้าที่ค้นหาร่างหลานชายให้เจอโดยเร็ว ส่วนแม่ของหลานไม่สามารถมาดูที่เกิดเหตุได้ เพราะหลังทราบว่าลูกชายสูญหายที่ฝายก็เป็นลมล้มพับ ญาติๆ ต้องช่วยกันปฐมพยาบาลและไม่ให้ออกมาที่ฝาย เพราะกลัวจะช็อก