"อูน ชนิสรา" ปล่อยโฮ! ชีวิตเกือบพังเพราะคำคอมเมนต์ในโซเชียล

"อูน ชนิสรา" ปล่อยโฮ! ชีวิตเกือบพังเพราะคำคอมเมนต์ในโซเชียล

"อูน ชนิสรา" ปล่อยโฮ! ชีวิตเกือบพังเพราะคำคอมเมนต์ในโซเชียล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดทุก Chaper ของชีวิต ซีอีโอสาว อูน ชนิสรา หรือ ชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์ เจ้าของเพลงฮิต เฮอร์ไมโอน้อง ผู้สร้างไวรัลเพลงดังไปทั่ว TikTok ด้วยความเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองด้านธุรกิจ แต่ด้วยความที่ไม่เข้าใจในวงการบันเทิง ทำให้ต้องเจอกับความเจ็บปวดเพราะคำคอมเมนต์ต่างๆ ในโซเชียลที่ทำเอาชีวิตเกือบพัง ในรายการ WOODY FM 

เวลาคนถามว่า อูน เป็นอะไรคำตอบที่เราตอบเขาคือ ?

อูน : อูนเป็นอูนที่ยังเรียนรู้ได้ทุกวัน เพิ่งค้นพบว่าตัวเองเป็นนักเรียนรู้ 

เรียนรู้อะไรบ้างช่วงนี้ ?

อูน : เรียนรู้มากที่สุดก็คือ อูนเข้าใจโลกนี้น้อยไป พี่วู้ดดี้ลองนึกดูนะว่าอูนทำธุรกิจมาเป็น 10 ปี ขึ้นไปบรรยาย มี Tiktok แล้วก็มีโซเชียลมีเดีย คนก็จะเข้ามาถามเพราะว่าภาพชีวิตเรา สามีดี งานโอเค รายได้แฮปปี้ ทุกอย่างดูกลมกล่อมไปหมด เพราะฉะนั้นเรามักจะเป็นผู้ที่ถูกถามเสมอว่าทำยังไงให้ชีวิตกลมกล่อมขนาดนี้ แล้วอูนก็เลยเข้าใจว่าความทุกข์แบบนี้ต้องจัดการแบบนี้ แล้วยิ่งเรามีความชื่นชอบทางด้านพระพุทธศาสนาด้วยเราก็จะปล่อยวางวิธีนี้นะ คือเราเข้าใจว่าเราเข้าใจ แต่อูนเพิ่งมารู้ว่าเราไม่เข้าใจอะไรเลย ตอนที่อูนก้าวขาเข้ามาทำเพลงเฮอร์ไมโอน้อง 

เกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ออกซิงเกิ้ลเฮอร์ไมโอน้อง ?

อูน : คืออูนเพิ่งรู้ว่าเราน่ะเปลือกมากเลย ด้วยความที่อูนทำธุรกิจ เราทำด้วยความจริงใจและมั่นใจ เพราะอูนเป็นคนที่เรื่องเงินมาทีหลังจากความสุขในการทำงาน เลยมั่นใจนี่คือตัวตนว่าเราจัดการความทุกข์และความสุขได้ แต่ทั้งหมดนั้นคือเปลือกที่อูนเอาไว้หุ้มตัวเองหมดเลย ความสำเร็จในการทำงาน ความเข้าใจในโลกธุรกิจ ความชื่นชมที่ได้มาในฐานะนักธุรกิจ เพราะอูนเข้าใจว่าความทุกข์จากการที่คนมาบอกว่าเธอเป็นแบบนี้ๆ ในโลกธุรกิจ อูนแทบไม่รู้สึกเลยเพราะอูนรู้ว่า VALUE ในการทำธุรกิจคืออะไร แต่พอเรามาเป็นเฮอร์ไมโอน้อง อูนไม่มีเปลือกแล้ว คนเข้าใจว่าการเข้าไปอยู่ในวงการบันเทิงมันคือการเอาเปลือกมาหุ้มเราแล้วก็แสดง มันกลับกันเลยเพิ่งรู้ว่าการอยู่ในสื่อที่ไม่ใช่นักธุรกิจเป็นยังไงครั้งแรกในชีวิต สิ่งที่เจอก็คือคอมเมนต์ที่ไม่ใช่การติเพื่อก่อ แล้วเราไม่เข้าใจว่าการคอมเมนต์คืออะไร จนได้ไปเจอพี่ลูกกลอฟ์เลยถามว่า ยูทำไมคอมเมนต์มันเปลี่ยนไป ทำธุรกิจมา 10 ปี ก็อยู่ในสื่อมาตั้งนานไม่เคยเจอคอมเมนต์แบบนี้เลย พี่เขาก็เลยให้คำตอบที่เป็นเหมือนการปลดล็อค อย่างแรกก็คือเมื่อไหร่ที่คุณตกลงเข้ามาไม่ได้มีตำแหน่งที่เขาอยากจะเคารพ เขาคัดค้านคุณทันที คนที่มีธุรกิจมีสิ่งที่จะพูดแล้วมีความสำเร็จอยู่ในมือคนจะฟังคุณทันทีเพราะคุณเป็นผู้ให้น่านับถือ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีหน้าที่มอบความบันเทิงคุณไม่ใช่คนเหล่านั้นอีกต่อไปแล้วนะ เขาจะมองว่าทุกอย่างเป็นวัตถุดิบของความบันเทิง ซึ่งต้องรับผิดชอบความสุขของคนดู อูนโชคดีอย่างหนึ่งคือในตอนที่มันเกิดขึ้นแล้วอูนยังงงๆ ไม่รู้สึกทุกข์กับมัน อูนรับทุกอย่างเลยไปทุกรายการ สนุกกับการเรียนรู้ เลยทำให้เข้าใจหัวอกของคนในวงการ ต้องใช้ร่างกายเป็นวัตถุดิบและยังต้องเจอกับคำคอมเมนต์เหล่านี้ 

เห็นอะไรอีกไหมที่คุณบอกว่าเปลือกในตัวเอง ?

อูน : อูนพยายามปกป้องตัวเอง ด้วยผลงานตัวเองมาตลอดเลยค่ะ ทุกมุมทุกมิติที่ทำออกมามันสุดเท่าที่ความสามารถของเราในวัยนี้และในประสบการณ์แบบนี้จะทำออกมา เพราะฉะนั้นมันเป็นเหมือนเกราะป้องกันตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันพอเราเริ่มอนุญาติให้เราทำในสิ่งที่ตัวเองชอบได้บ้างเช่นเพลง อูนไม่เคยเอาพาร์ทนี้ออกมาให้ทุกคนเห็น เป็นตัวเองที่สุด แล้วพอทำออกมาเลยรู้สึกว่าฉันเปราะบางขนาดนี้เลยเหรอ อ่อนแอมากเลย จากที่เคยคิดว่าเข้าใจร่าเริงตลอดเวลา โอ้โห! ดิฉันก็คือเด็กน้อยตัวแดงท่านหนึ่งเลย เวลามีคนมาคอมเมนต์ทำให้เรารู้สึกนึกถึงเรื่องเดิมๆ มันย้อนกลับมา ตกลงเราเป็นใครจะทำอะไรกันแน่ คำคอมเมนต์กลายเป็นเสียงในอดีตที่ได้ยิน นึกถึงเรื่องราวกับเพื่อนๆ แล้วก็รู้สึกว่าเราเยอะเกินไป เยอะเกินไปมาโดยตลอด เราจึงกลบมันด้วยความเก่งกาจในการทำงาน รู้ตัวอีกทีก็เป็นคนที่ไม่มีเพื่อนแล้ว 

มีหลายคนที่เข้ามาในชีวิตแล้วก็ห่างกันไป แล้วไม่กลับมามีไหม ?

อูน : พี่วู้ดดี้รู้ไหมว่าการที่เราได้เจอกัน แล้วพี่พูดว่าอูนให้คำตอบพี่ได้ทุกอย่างเลย เพราะว่านั่นคือวิธีเดียวที่อูนรู้สึกว่าจะมีประโยชน์กับยู (ร้องไห้) มันคือการที่เราไม่มีคำตอบ ว่าทำไมความเป็นเราถึงไม่พอ ก็เลยพยายามจะเพิ่มตัวเลือกอื่นๆ ให้กับคนที่เข้ามาหาเรา จริงๆ อูนเป็นคนมีเพื่อนน้อยมาก เพราะมีความกังวลว่าการที่เราจะไปอยู่กับใคร จะไปทำอะไรเขาอีกไหม รู้สึกว่าความเป็นเรามันทำให้คนอื่นเหนื่อย แล้วรู้สึกว่าความมั่นใจของเรามันไปทำให้เขามั่นใจน้อยลง 

คุณเป็นคนที่สามารถแก้ไขทุกอย่างได้โดยเฉพาะธุรกิจหรือว่าที่ผ่านมาคุณจะควบคุมได้ แล้วกับเรื่องนี้จะเดินยังไงต่อ ?

อูน : พอเรามาทำเพลงเหมือนเราเอาเด็กมัธยมคนนั้นออกมาทำสิ่งนี้ เพราะเราเข้าใจว่าเราพร้อมแล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องเพื่อน ถ้าย้อนกลับไปคืออูนเป็นคนที่โตมาด้วยตัวเอง พอเรามาทำธุรกิจ แต่งงานมีสามี มีเด็กๆในทีม อูนรู้สึกว่าไม่เคยได้รับความรักแบบนี้ มันคือความมหัศจรรย์ของความรักที่ไม่มีเงื่อนไข พอทำเพลงออกมาก็เจอกับช่วงนี้ของชีวิตที่รู้แล้วว่ามีความเปราะบางอะไรบางอย่างอยู่ข้างใน แล้วต้องมาถามผู้รู้อย่างพี่ลูกกลอฟ์ว่าต้องทำยังไงดี ยูเผชิญกับอะไรมาบ้าง ก็เลยค้นพบว่ามันมีแค่ 2 วิธี อ่านกับไม่อ่าน ถ้าอ่านแล้วรับไม่ไหวก็ต้องไม่อ่าน ตอนแรกก็ยังอ่าน เพื่อที่จะปรับปรุงแก้ไข แต่ในขณะเดี๋ยวกันพอเราอ่านเพื่อจะปรับปรุงมันพัง แก้ไม่ได้ แก้ยังไงในเมื่อตัวตนเราเป็นแบบนี้ ก็เลยรู้สึกว่าถ้าอ่านแล้วมันปรับปรุงตัวเองเพิ่มไม่ได้ ไม่อ่านดีกว่า แต่เราเป็นคนดื้อต้องอ่านแบบจุดที่ว่าอีกนิดนึง รู้เลยว่าต้องไปหาหมอถึงจะหยุด แต่พอได้คุยกับพี่ลูกกลอฟ์เขาพูดว่า คุณไม่สมควรได้รับสิ่งนี้ คนที่รักคุณก็ไม่สมควรจะได้รับสิ่งนี้เหมือนกัน อย่าลืมว่าคนที่รักเราในตอนนี้ไม่สมควรที่จะต้องมารองรับความทุกข์แบบนี้ของเรา เพราะว่าเขารักคุณมาอย่างดี ก็เลยหยุดได้ค่ะ 

สมมุติว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเรามีอะไรที่ อูน ชนิสรา อยากจะบอกอะไรกับตัวเอง ?

อูน : อยากจะบอกว่า Your Welcome ถึงแม้จะต้องทุกข์แต่ไม่เคยถอยเลย ถึงแม้จะต้องไปเผชิญกับความเจ็บปวด มองชีวิตตัวเองเป็น Chaper หนังสือตลอดเลย เป็นหนังสือที่สมมุติว่าวันหนึ่งอูนตายแล้ว ทิ้งหนังสือเล่มนี้เอาไว้วิญญาณอูนจะต้องมีความสุขมาก เพราะอูนจะมองกลับมาแล้วเห็นวิถีของความจริงที่เราไม่หนีเลย เชื่อว่าความเจ็บปวดบางอย่างที่เกิดขึ้น มันมีเหตุและผลของมัน ต่อให้มันจะเป็นความเจ็บปวด แต่เป็นการเติบโตที่ทำให้ในทุกๆ วันในการใช้ชีวิตของอูนมีความสุขขึ้นเรื่อยๆ เพราะถ้าอูนไม่ยอมไปแตะมัน ไม่ยอมไปเข้าใจมัน เราก็จะอยู่แบบนั้นแบบเปลือกๆ ที่อูนอยู่ ต้องขอบคุณเฮอร์ไมโอน้องจริงๆ เลยนะ 

ขอบคุณที่มาร่วมทำรายการ The Chaper เพราะเป็นอีกหนึ่งคอนเทนส์ที่ให้ประโยชน์กับผู้คนมาก

อูน : The Chaper ก็สอนอูนเยอะ 

เล่าให้ฟังหน่อยว่าเราได้เรียนรู้อะไรในรายการ The Chaper บ้าง ?

อูน : The Chaper มาพร้อมกับ เฮอร์ไมโอน้อง วิชา The Chaper เป็นอีกหนึ่งรสชาติที่เต็มไปด้วยคอมเมนต์ติเพื่อก่อ ซึ่งอูนดีใจมากๆ ที่คนมองอูนในฐานะพิธีกร ซึ่งหลายๆ คนวางภาพธุรกิจอูนลงไปเลยแล้วคอมเมนต์ในฐานะพิธีกร ซึ่งมันไม่ใช่คอมเมนต์ที่ดีทั้งหมด มันเป็นกึ่งกลางระหว่างเฮอร์ไมโอน้องและธุรกิจ สนุกค่ะแล้วก็รู้สึกดีที่ได้พัฒนาตัวเอง แล้วมันเป็นการติเพื่อก่อ รู้สึกว่ามันดีจังเลย ซึ่ง The Chaper มีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะส่งมอบเรื่องราวของคนๆ หนึ่งอย่างตรงไปตรงมาที่สุด เพื่อไปเปลี่ยนความคิดอะไรบางอย่างให้สบายมากขึ้นสำหรับอีกคนหนึ่ง ทำให้เขารีแลกซ์ขึ้นกับชีวิตของตัวเองเมื่อฟัง ซึ่งแต่ละ EP. น่าสนใจมาก และมีแขกรับเชิญที่หลากหลายมิติด้วย 

สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ "อูน ชนิสรา" ปล่อยโฮ! ชีวิตเกือบพังเพราะคำคอมเมนต์ในโซเชียล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook