อัยการดาว ผวาอีกแล้ว ตะปูตำล้อรถเป็นครั้งที่ 3 ตำรวจเตือนอาจไม่ใช่เหตุบังเอิญ
อัยการดาว ผวาอีกแล้ว ตะปูตำล้อรถเป็นครั้งที่ 3 ตำรวจเตือนอาจไม่ใช่เหตุบังเอิญ เพราะจะเกิดเหตุในวันพุธ ห่างกัน 21 วันทุกรอบ
(7 ต.ค.65) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือจาก น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการจังหวัดนนทบุรี ผู้ดูแลสำนวนคดีการเสียชีวิต "แตงโม นิดา" แจ้งว่า ยางล้อรถยนต์ได้ถูกตะปูปริศนาแทงล้อจนยางแบน ไม่สามารถขับรถไปทำงานได้ โดยเหตุการณ์ยางถูกตะปูแทงล้อรถในครั้งนี้ถือเป็นรอบที่ 3 แล้ว จนรู้สึกว่าไม่ใช่เหตุการณ์โดยบังเอิญทั่วไป จึงได้ขอให้ทางพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายตรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าทำการตรวจสอบรถยนต์ส่วนตัวที่บ้านพักย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ภายหลังจากรับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ซึ่งเป็นรถยนต์ส่วนตัวที่ น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการจังหวัดนนทบุรี ใช้เป็นพาหนะในการเดินทางไปทำงานประจำทุกวัน โดยพบว่าที่ล้อหลังด้านซ้ายมีวัตถุปลายแหลมคล้ายกับตะปูคอนกรีตปักอยู่ในร่องยางของวงล้อด้านในจนจมมิดหัว สภาพยางแบนจนไม่มีลม ทำให้ไม่สามารถขับขี่ได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการถอดล้อรถออกเพื่อนำส่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง
โดย น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ยางล้อรถแบนเพราะถูกวัตถุคล้ายตะปูทิ่มแทงที่เกิดขึ้นล่าสุดในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่สามแล้วสำหรับตน ทำให้ตนชักไม่แน่ใจว่ามันจะเกิดมาจากอุบัติเหตุจริงๆหรือไม่ เพราะตามหลักสถิติแล้วคนเราจะสามารถขับรถไปทับตะปูหรือวัตถุแหลมคมจนยางแบนได้ติดๆกันแบบนี้ได้ยังไง และเส้นทางที่ตนใช้ถนนไปทำงานและกลับบ้านนั้น เป็นเส้นถนนสายหลัก ไม่ได้ขับขี่ไปในพื้นที่ก่อสร้างเลย ทำให้ตนอดสงสัยและประหลาดใจมากที่มาเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นติดๆ กัน
เหตุการณ์ครั้งแรกที่ยางล้อรถตนถูกตะปูตำ ตนก็ยังมองว่าเป็นเรื่องของอุบัติเหตุอยู่ ซึ่งมันสามารถเกิดขึ้นกันได้ แต่พอในครั้งที่ 2 นั้น ตนก็ชักเริ่มสงสัยแล้วว่าทำไมยางล้อรถตนถึงถูกตำอีกในระยะเวลาไม่ห่างกันมาก จนกระทั่งมาในครั้งที่ 3 ครั้งนี้ทำให้ตนชักรู้สึกว่าไม่ใช่อุบัติเหตุหรือความบังเอิญแล้ว ซึ่งเมื่อได้สอบถามกับนายตำรวจคนหนึ่งที่เชี่ยวชาญเรื่องการสืบสวนก็พบข้อสงสัยต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องช่วงระยะเวลาที่วนมาเกิดเหตุจะเกิดขึ้นในทุกวันพุธ และห่างกัน 21 วันเท่ากัน พอดีทั้ง 3 ครั้ง แบบนี้จะให้มองว่าเป็นเรื่องบังเอิญอีก ตนก็คิดว่ามันจะบังเอิญเกินไปแล้ว
อัยการดาวเปิดเผยอีกว่า เหตุการณ์ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 24 ส.ค.65 เวลา 20.00 น. ระหว่างที่ตนกำลังขับรถกลับจากสำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี โดยยางหน้าฝั่งซ้ายถูกวัตถุคล้ายตะปูทิ่มตำจนยางแบน จากนั้นในครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 14 ก.ย.65 เวลา 22.30 น. ขณะขับรถลงทางด่วนเมืองทองธานี เพื่อจะกลับบ้านพักพบว่าสัญญาณไฟเตือนในรถยนต์ทำงาน ก่อนจะพบว่ายางด้านหน้าขวาฝั่งคนขับแบนจากวัตถุคล้ายตะปูเช่นกัน จนตนต้องขับรถบดยางกลับเข้าบ้านพักมาแล้ว
ส่วนในครั้งที่ 3 ล่าสุดคืนวันพุธที่ 5 ต.ค.65 ก่อนยางจะมาแบนในเช้าวันที่ 6 ต.ค. และตนจะตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 7 ต.ค. หลังคิดทบทวนดูแล้วว่า เหตุการณ์ยางล้อรถของตนถูกเจาะนั้น ไม่น่าจะใช้อุบัติเหตุหรือความบังเอิญแล้ว เนื่องจากทุกครั้งที่เกิดเหตุตลอด 3 ครั้งที่ผ่านมา ระยะเวลาจะห่างกัน 21 วันพอดี และจะเกิดเหตุทุกวันพุธทั้ง 3 ครั้ง จนมีนายตำรวจทักเตือนให้ระมัดระวังตัวบ้าง และลักษณะการโดนตำล้อรถก็แตกต่างกันไปทั้ง 3 ล้อไม่ซ้ำกันสักล้อ ทำให้ในตอนนี้ตนชักวิตกกังวลแล้วว่าเรื่องยางแบนที่เกิดขึ้นจะเป็นฝีมือของมนุษย์มากกว่า จนอดคิดไม่ได้ว่าจะเกิดเหตุในครั้งที่ 4 อีกหรือไม่กับล้อข้างที่เหลือ จากนี้ไปตนคงต้องเพิ่มความระมัดระวังตัวให้มากขึ้น และอาจจะเปลี่ยนจุดจอดรถประจำตำแหน่งที่สำนักงานที่อยู่ด้านหลังมาจอดไว้ที่ข้างหน้าสำนักงานแทนเพื่อความสบายใจในเบื้องต้น