ยังอาถรรพ์! ทำบุญครบ 2 ปี ทัวร์กฐิน 19 ศพ ขนลุกกลางพิธีหลังหัวรถจักรมรณะวิ่งผ่าน

ยังอาถรรพ์! ทำบุญครบ 2 ปี ทัวร์กฐิน 19 ศพ ขนลุกกลางพิธีหลังหัวรถจักรมรณะวิ่งผ่าน

ยังอาถรรพ์! ทำบุญครบ 2 ปี ทัวร์กฐิน 19 ศพ ขนลุกกลางพิธีหลังหัวรถจักรมรณะวิ่งผ่าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ยังมีอาถรรพ์! ทำบุญครบ 2 ปีขนลุกกลางพิธีหลังหัวรถจักรที่ชนวิ่งผ่าน และผ่านไป 2 ปี ตรงจุดเกิดเหตุ แผงกั้นรถไฟก็ยังไม่เกิด

ที่บริเวณป้ายหยุดรถ สถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น พื้นที่ ม.7 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจากหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย นายสุวรรณ สิงห์พุทธา หัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัย ซึ่งเป็นตัวแทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ฉะเชิงเทรา ในฐานะสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จ.ฉะเชิงเทรา

นายสุนทรวุฒิ สุพรหมมา นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สนง.ขนส่งฉะเชิงเทรา นายเอก อิทธิยาภรณ์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.เมืองฉะเชิงเทรา นายชูชีพ สีลิ้นจี่ นายตรวจทางคลองบางพระ ตัวแทนในพื้นที่ จากการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เดินทางมาทำการชี้แจงถึงความคืบหน้าของการก่อสร้างแผงกั้นทางข้ามทางรถไฟในบริเวณสถานีรถไฟบ้านคลองแขวงกลั่นแห่งนี้

หลังจากเมื่อวันที่ 11 ต.ค.63 ได้เกิดเหตุโศกนาฎกรรม ขบวนรถไฟบรรทุกสินค้า ขบวนที่ 852 เลขหัวรถจักรที่ 5102 พุ่งชนรถบัสของนักแสวงบุญ ที่กำลังจะเดินทางไปร่วมกันทำบุญทอดกฐินยังที่วัดบางปลานัก ในพื้นที่ ม.10 ต.บางเตย ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ 4.5 กม. เท่านั้น จนทำให้มีผู้เสียชีวิตในทันที 17 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บถึงกว่า 40 ราย และเสียชีวิตเพิ่มเติมในเวลาต่อมาอีก 2 รายรวม 19 รายนั้น

นายสุวรรณ ได้กล่าวชี้แจงว่า ที่ผ่านมาทางศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอน และได้ทำเรื่องเสนอไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อที่จะขอใช้เงินกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) หรือกองทุนเลขทะเบียนสวย เพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้างเครื่องกั้นทางรถไฟ ที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายแห่งนี้

แต่หลังการสำรวจและออกแบบแล้วพบว่าต้องใช้เงินงบประมาณมากถึงกว่า 10 ล้านบาท โดยทางกองทุนผู้ประสบภัยฯ เห็นว่าเป็นการใช้งบประมาณที่สูงเกินไป จึงพิจารณาเงินงบประมาณให้มาได้เพียง 7 ล้านบาท ขณะที่ทาง อบจ.ฉะเชิงเทรา รับที่จะเข้ามาดำเนินการปรับระดับถนนก่อนถึงจุดตัดทางข้าม ด้านละ 20 เมตรให้ แต่ยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับข้อกำหนดและเงื่อนไขของทางการรถไฟแห่งประเทศไทยอีกว่า

ในการก่อสร้างเครื่องกั้นจุดตัดทางข้ามรางรถไฟอย่างถาวรและถูกต้องตามกฎหมายนั้น ในรัศมี 4 กม. ของพื้นที่ก่อสร้างจะต้องไม่มีทางลักผ่านข้ามรางรถไฟที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายอีก แต่ในพื้นที่จริงนั้น พบว่ายังคงมีจุดตัดทางข้ามอีกจำนวนมาก และมีการใช้เส้นทางผ่านมากในระดับที่ใกล้เคียงกันอีกหลายจุด เช่น จุดตัดทางข้าม ในพื้นที่ ต.คลองเปรง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ที่อยู่ในรัศมีไม่เกิน 4 กม. ด้วยเช่นเดียวกัน

ทางศูนย์อำนวยการความปลอดภัยฯ จึงได้พยายามที่จะเข้าไปขอผ่อนปรนข้อกำหนดหรือเงื่อนไขต่างๆ จากทาง รฟท. เช่น ค่าควบคุมงาน ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของทางการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงอยากขอให้ชาวบ้านรอเกี่ยวกับเรื่องของการปรับลดงบประมาณลงอีกเพียงส่วนหนึ่งก่อน เพื่อที่จะดำเนินการก่อสร้างแผงเครื่องกั้นทางรถไฟในบริเวณนี้ต่อไป นายสุวรรณ กล่าว

ขณะที่ นายประเทือง ชัยสายัณห์ กำนัน ต.บางเตย กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่หวั่นเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์โศกนาฎกรรมซ้ำรอยเมื่อปี 2563 อีก โดยล่าสุดเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมายังมีเหตุการณ์ที่ผู้ใช้ทางข้ามเกือบจะเกิดอุบัติเหตุหมู่บนจุดตัดทางข้ามแห่งนี้ซ้ำรอยเมื่อ 2 ปีก่อนอีกครั้ง แต่โชคดีที่เหตุการณ์นั้น สามารถผ่านไปได้อย่างเฉียดฉิว ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ

 

(11 ต.ค.65) เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางสวิง อายุ 52 ปี ชาวบ้าน ม.7 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นเจ้าของร้านค้าอาหารตามสั่งตั้งอยู่ริมทางรถไฟ ใกล้กับจุดเกิดเหตุขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าที่ 852 พุ่งชนรถบัสที่กำลังนำพาคณะทัวร์บุญกฐิน จากโรงงานในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ไปทำบุญทอดกฐินยังที่วัดบางปลานัก ที่อยู่ห่างออกไปเพียงแค่ 4.5 กม. กลายเป็นเหตุโศกนาฏกรรม 19 ศพ เมื่อวันที่ 11 ต.ค.63 ที่ผ่านมา

โดยเมื่อวันที่ 9 ต.ค.65 ที่ผ่านมาชาวบ้านได้จัดให้มีพิธีทำบุญครบรอบ 2 ขวบปี หลังจากเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญคนทั้งหมู่บ้าน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากในวันที่ 11 ต.ค. หรือวันนี้ เป็นวันที่ตรงกับการประกอบพิธีทำบุญในเทศกาลงานบุญออกพรรษา และจะมีพิธีตักบาตรเทโวรอบโบสถ์ด้วย พระสงฆ์จึงไม่สามารถออกมารับกิจนิมนต์ภายนอกได้ จึงได้มีการเลื่อนการจัดพิธีทำบุญไปก่อนล่วงหน้า เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงค่ำของวันที่ 8 ต.ค.นั้น ได้มีการจัดให้มีมโหรสพ ด้วยการฉายหนังกลางแปลงที่บริเวณจุดเกิดเหตุจำนวน 2 เรื่อง และในช่วงรุ่งเช้าของวันที่ 9 จึงได้มีพิธีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ร่วมกันของชาวบ้าน

แต่ระหว่างพิธีนั้นได้เกิดมีความผิดปกติขึ้น หลังจากที่ได้มีขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าหมายเลขหัวรถจักรที่ 5102 ขับผ่านมานั้น ได้ทำให้กระป๋องคบเพลิงน้ำมันที่ชาวบ้านจุดไว้ ที่ด้านหน้าศาลเพียงตากลางรางรถไฟดับลงในทันทีทั้ง 2 จุด และยังทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าดับจนฉายหนังกลางแปลงเรื่องที่ 2 แทบไม่ได้ ทั้งที่ก่อนหน้าที่ขบวนรถไฟจะขับผ่านมานั้น ได้มีขบวนรถไฟผ่านเข้ามาหลายขบวนเป็นระยะ แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อมีขบวนที่ลากด้วยหัวรถจักรหมายเลข 5102 ซึ่งเป็นหัวลากของขบวนรถไฟที่ 852 ที่พุ่งชนรถทัวร์บุญกฐิน ขับผ่านมากลับเกิดปรากฏการณ์ประหลาดดังกล่าวขึ้น

นางสวิง กล่าวอีกว่า สำหรับหัวรถจักรหมายเลข 5102 นี้ ได้หายหน้าไปนานมากแล้วถึงกว่า 1 ปีเต็ม โดยที่ชาวบ้านไม่ได้เห็นนำมาใช้ขับผ่านเพื่อลากจูงขบวนสินค้าในเส้นทางสายนี้ พอได้กลับมาวิ่งใหม่ก็ขับผ่านพื้นที่วันละหลายเที่ยว ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่เวลา 04.10 น. ของทุกวันเป็นเที่ยวแรก และได้กลายเป็นหัวรถจักรเจ้าถิ่นที่มีการขับลากจูงสินค้าผ่านพื้นที่ตลอดทั้งวัน โดยที่ชาวบ้านยังพบว่าได้มีการนำไปทำสีมาใหม่อีกด้วย และในวันงานทำบุญให้แก่ผู้เสียชีวิตก็ได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดขึ้น

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ ยังอาถรรพ์! ทำบุญครบ 2 ปี ทัวร์กฐิน 19 ศพ ขนลุกกลางพิธีหลังหัวรถจักรมรณะวิ่งผ่าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook