อุกอาจ บุกปล้นพ่อค้ากัญชา เลือดคั่งในสมอง เย็บ 60 เข็ม ญาติผวาคนร้ายตามถึง รพ.

อุกอาจ บุกปล้นพ่อค้ากัญชา เลือดคั่งในสมอง เย็บ 60 เข็ม ญาติผวาคนร้ายตามถึง รพ.

อุกอาจ บุกปล้นพ่อค้ากัญชา เลือดคั่งในสมอง เย็บ 60 เข็ม ญาติผวาคนร้ายตามถึง รพ.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อุกอาจ บุกปล้นพ่อค้ากัญชา เลือดคั่งในสมอง เย็บ 60 เข็ม ญาติผวาคนร้ายตามถึง รพ. ตำรวจเชื่อมีความขัดแย้งเรื่องสิ่งผิดกฏหมายอย่างอื่น

พลตำรวจตรีนิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าคดีกลุ่มผู้ก่อเหตุ ร่วมกันใช้อาวุธปืนยาว บุกเข้าไปในแฟลตเคหะธนบุรี ถนนพระราม 2 ซอย 60 เขตบางขุนเทียน ทำร้ายร่างกาย และทำลายทรัพย์สิน ภายในห้องพักของผู้เสียหายคนหนึ่ง เหตุเกิดช่วงกลางดึก วันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา

รอง ผบช.น. ยืนยัน ศูนย์รับแจ้งเหตุวิทยุผ่านฟ้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายในที่เกิดเหตุหลังมีการวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ว่า ตำรวจไม่รับแจ้งเหตุกรณีดังกล่าว ซึ่งต่อมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกาย และถูกนำส่งโรงพยาบาล

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ยังไม่ได้ให้การกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม จึงยังไม่สามารถสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ เพราะผู้เสียหายแจ้งความเพียงแค่ถูกทำร้ายร่างกาย และอ้างว่าถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้ามาปล้นทรัพย์

แต่ตำรวจเชื่อว่า มีความขัดแย้งเรื่องสิ่งผิดกฏหมายอย่างอื่นอีก เพราะตำรวจ มีข้อมูลเกี่ยวกับการตกลงที่จะซื้อขายกัญชาประมาณ 100 กิโลกรัม แต่เกิดปัญหาขัดแย้งกันตกลงกันไม่ได้ ส่วนการตรวจค้นห้องพักของผู้เสียหาย พบเพียงกัญชา ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอื่น

“ก็ขอนำเรียนว่าวันนั้นในวันที่มีการทำร้ายร่างกายกัน มีเสียงปืนเกิดขึ้นจริงคนเจ็บคือผู้เสียหายถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนของสน. ท่าข้ามไปสอบปากคำ ในเบื้องต้น ก็ให้ปากคำว่าถูกทำร้ายร่างกายก็กลายเป็นว่าเดี๋ยวผมจะไปดูว่าเขาปิดเหตุด้วยเหตุที่ว่าเป็นเรื่องของการทำร้ายร่างกายแล้วก็ฝ่ายตรงข้ามหลบหนีไป แต่พอหลังจากนั้น สื่อบางช่องหรืออะไรก็คงไปสอบถามและเป็นที่มาของภาพต่างๆ”

สำหรับตัวผู้ก่อเหตุ ตำรวจทราบชื่อชัดเจนแล้ว จำนวน 2 คน อยู่ในกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับ ขณะที่ ผู้ก่อเหตุคนอื่นอีก 4 คน ที่ปรากฏในภาพวงจรปิด อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม

พล.ต.ต.นิธิธร ยังกล่าวถึงกรณีอาวุธปืนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นอาวุธปืนจริงหรือไม่ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบแนววิธีกระสุน หรือ ความเสียหายที่เกิดจากการยิงในที่เกิดเหตุที่เกิดจากปืน พบเพียงเศษสะเก็ดตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงเก็บไว้ตรวจสอบ แม้ว่ากลุ่มผู้เสียหายจะให้การกับตำรวจว่ามีการยิงปืนก็ตาม

รอง ผบช.น. ยังบอกอีกว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บ และภรรยา มีประวัติถูกดำเนินคดีในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลแสมดำ ในความผิดฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดพ.ศ. 2534

“ฝั่งผู้เสียหายเอง เคยถูกต้องโทษคดีอาญาในเรื่องของการครอบครองยาเสพติดโดยข้อหาสมคบติดคุก 10 กว่าปีแต่พอเป็นกฎหมายใหม่ก็เลยหลุด”

อย่างไรก็ตาม ญาติผู้เสียหายเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 65 พยาบาลได้แจ้งกับญาติผู้เสียหายว่า มีชายฉกรรจ์ประมาณ 10 คน แต่งตัวคล้ายผู้ก่อเหตุในวันเกิดเหตุ เดินทางไปที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นทางโรงพยาบาลได้กำหนด ให้เข้าเยี่ยมเพียงครั้งละ 1 คน เพราะกลัวจะเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยซ้ำ ทางญาติของ พ่อค้ากัญชาที่โดนทำร้าย ยังเปิดเผยอีกว่ารู้สึกไม่ปลอดภัย จึงขอออกจากโรงพยาบาล เพื่อพาพ่อค้ากัญชา ไปรักษาตัวที่อื่น

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook