อาม่าในตำนาน สาดฉี่ใส่บ้านคนอื่นอีกแล้ว เคยออกโหนกระแสถูกเพื่อนบ้านตบฟันร่วง
อาม่าในตำนาน สาดฉี่ใส่บ้านคนอื่นอีกแล้ว หลังเคยออกโหนกระแสถูกเพื่อนบ้านตบฟันร่วง สุดท้ายเพื่อนบ้านทนไม่ไหวต้องย้ายหนี
จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ เข้าตรวจสอบระงับเหตุบริเวณร้านเครื่องเสียงประดับยนต์ PC Sound System (พีซี ซาวด์ ซิสเต็ม) เลขที่ 85 ซอยติวานนท์ 33 ถนนติวานนท์ ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี นางสาวรุจรี หรือ เจ้เล็ก อายุ 53 ปี เจ้าของร้านเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ. รัตนาธิเบศร์ ให้มาตรวจสอบกรณีถูก "อาม่า" หรือ นางสาวเนาวรัตน์ อายุ 76 ปี นำถังใส่ฉี่มาราดใส่บานประตูเปิดปิดของร้านหลายครั้ง
เมื่อไปบอกกับทางนายบิ๊ก ลูกชายอาม่า ก็ไม่สนใจท้าให้ไปแจ้งความ จึงต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบและดำเนินการกับอาม่า ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับตนเอง จนไม่เป็นอันทำมาหากิน
18 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณดังกล่าวติดตามความคืบหน้าพบนางสาวรุจรี หรือ เจ๊เล็ก เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวานที่ให้ข่าวกับผู้สื่อข่าวไปเมื่อคืนที่ผ่านมาถึงตอนเช้าเงียบสงบ แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้อีกกี่วัน ตอนนี้ยังไม่ออกมาป่วน ก่อนหน้านี้ป่วนเขาไปทั่วจนข้างบ้านอยู่ไม่ได้ต้องย้ายบ้านหนี เมื่อวานมีสายตรวจเข้ามาดู ตนเป็นผู้ถูกกระทำ ตนก็ไม่รู้ว่าเขาจะจบไหม ดูแล้วสติไม่สมประกอบหรือเปล่า ตนไม่รู้สึกกลัวเพราะตนอยู่มานาน อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาไกล่เกลี่ยจะได้จบกันไป แกหาเรื่องบ้านด้านซ้ายบ้านด้านขวาจนอยู่กันไม่ได้ บ้านของตนก็อยู่ในซอย ต้องทำมาค้าขายเลยต้องมาเช่าอยู่ริมถนนใกล้บ้านของแก ตนเป็นคนไม่ชอบยุ่งกับใคร เจอแบบนี้ก็รู้สึกเบื่อ
อยากฝากบอกตำรวจให้ช่วยมาเตือนว่าไม่ให้ระรานคนอื่นและอยากให้ลูกแกพาแกไปหาหมอ แกเอาเยี่ยวมาสาดแกปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ ทั้งที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัด ยังไม่ยอมรับ ยังมาท้าทายให้ไปแจ้งความ คราบน้ำมันผสมกับฉี่ที่มาสาดยังมีรอยที่พื้นหน้าร้านของตนยังไม่ยอมรับอีก ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของอาม่าที่อาศัยอยู่กับลูกชายพบว่าบ้านปิดเงียบ
เมื่อเวลา 18.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ เจ๊อ้อย อายุ 51 ปี เจ้าของร้านซ่อมรถย่านสนามบินน้ำ ที่มีเรื่องทะเลาะกับอาม่า ยาวนานถึง 6 ปี ถูกอาม่าเอาขยะมาทิ้งหน้าบ้าน ราดปัสสาวะใส่เสื้อผ้าที่ตากไว้บนระเบียง บันดาลโทสะถึงขั้นลงไม้ลงมือ จนอาม่าได้รับบาดเจ็บ ได้มีการไกล่เกลี่ยกันที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ และอาม่าก็เคยไปออกรายการโหนกระแส แต่เรื่องไม่จบ ทางเจ๊อ้อยเจ้าของร้านซ่อมรถ พร้อมด้วยครอบครัว จึงตัดสินใจยุติปัญหาด้วยการย้ายออกมาหาที่อยู่ใหม่ ตั้งแต่เมื่อกลางปีที่แล้ว
เจ๊อ้อย กล่าวว่าตนเคยอยู่บริเวณนั้นที่อยู่ใกล้อาม่า เกิดเหตุลักษณะเดียวกัน พอเกิดเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เรียกให้ไปไกล่เกลี่ย อาม่าก่อเหตุเป็น 10 กว่าครั้ง แต่ก็เป็นเหมือนเดิม อาม่าชอบยั่วยุโดยการเอาน้ำปัสสาวะ และนำอุจจาระมาราด บริเวณที่ตนตากผ้าที่ชั้น 4 ตนจึงตัดสินใจย้ายออกมาอยู่ข้างนอก แต่อาม่าก็ทำแบบเดิมกับคนรอบข้าง เพราะอาม่าไม่ชอบให้ใครมาอยู่รอบข้าง ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาไม่เลิกทำแบบนี้สักที ตอนที่เป็นคดีความกับตนบางคนก็เข้าข้างอาม่า บางคนก็เข้าข้างตน ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นขนาดมีกล้องวงจรปิดอาม่ายังไม่ยอมรับความจริงว่าเป็นคนทำ ตนจึงอยากถามว่าเขาทำไปแบบนี้เพื่ออะไร ซึ่งไม่ใช่แค่ตนที่โดนแต่คนรอบข้างร้านข้างๆโดนแบบเดียวกันหมด
คนที่ยังอยู่ปัจจุบันก็โทรมาปรึกษาตนว่าต้องทำอย่างไรกับเรื่องนี้ ตนก็ให้คำตอบไม่ได้ เพราะทำอะไรไม่ได้เช่นเดียวกันจึงต้องตัดสินใจย้ายออกแทน อยากจะฝากสื่อและฝากให้สังคมตัดสินใจ ว่าสิ่งที่ตนพูดไปตนไม่ได้ไปใส่ร้าย เพราะตอนนี้คนรอบข้างก็โดนกันเยอะแล้ว ว่าอาม่าเป็นคนแบบไหน ตนรู้สึกพูดลำบากถ้าเจอคนแก่แบบนี้ ทำไมแก่แล้วไม่ไปสวดมนต์เข้าวัด แต่แก่แล้วมาทำเรื่องรบกวนแต่คนอื่น ตั้งแต่ตนย้ายมาอยู่ที่ใหม่รู้สึกสบายใจและมีความสุขที่หลุดพ้นมาจากอาม่า ถ้าอาม่าเลือกที่จะไม่ยุ่งกับคนอื่นจะมีความสุขมากกว่านี้ แต่เขาเลือกทำแบบนี้ตัวเขาเองที่จะไม่มีความสุข