กู้ชีพ อบต. รถไถลลงน้ำ จมดับไปพร้อมกัน น่าแปลกใจ เบอร์โทรตรงทะเบียนรถ

กู้ชีพ อบต.ล้างรถที่ฝายน้ำล้น รถไถลลงน้ำ จมน้ำเสียชีวิตพร้อมกับรถ บังเอิญหรือตั้งใจ เบอร์โทรตรงทะเบียนรถ 

วานนี้ (20 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากกู้ภัยปทุมทองว่ามีเหตุคนจมน้ำล้นเสียชีวิต ที่บริเวณฝายน้ำล้นลำพลับพลา ซึ่งอยู่ทางด้านทิศเหนือบ้านตานบ ต.ทุ่งกุลา อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ พบว่ามีชาวบ้านกำลังมามุงดูเหตุการณ์กันเป็นจำนวนมาก

โดยผู้ที่จมน้ำเป็นเจ้าหน้าที่กู้ชีพประจำ อบต. ทุ่งกุลา ซึ่งได้นำรถยนต์ยี่ห้อ อีซูซุ  ดราก้อนอาย สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 1669 ร้อยเอ็ด มาล้างในบริเวณฝายน้ำล้น แล้วเกิดรถไถลลงน้ำเนื่องจากในบริเวณนั้นเป็นทางลาดชัน

ซึ่งเจ้าตัวว่ายน้ำไม่เป็นแต่ได้เกาะรถไปด้วยเพราะตกใจ แต่พอลงไปเจอร่องน้ำลึกรถกำลังจะจมน้ำ ก็เลยกระโดดลงจากรถ แต่ด้วยความที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็เลยจมน้ำเสียชีวิต ซึ่งทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายทองเสา อายุ 60 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในบ้านตานบ ต.ทุ่งกุลา อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์

ซึ่งฝายน้ำล้นแห่งนี้เมื่อถึงฤดูน้ำหลากจะมีน้ำไหลแรงและเชี่ยวมาก เคยมีคนจมน้ำบ่อยมาก และนายทองเสา ก็มาเป็นศพที่ 5 แล้ว

โดยผู้เห็นเหตุการณ์คือ นางพิกุล อายุ 64 ปี เล่าว่า ตนมาพบเหตุก็ตอนรถลงไปในน้ำแล้ว โดยเห็นรถกำลังลอยอยู่ ส่วนคนเห็นอยู่บนหัวรถ พอสักพักรถก็จมน้ำ ส่วนคนก็เห็นกระโดดลงน้ำแล้วก็จมหายไป จึงได้รีบไปเรียกคนที่เลี้ยงวัวด้วยกันให้รีบโทรศัพท์เรียกผู้ใหญ่บ้านมาช่วย แต่ตอนนั้นรถก็จมน้ำไปแล้วพร้อมกับคน ซึ่งเห็นว่ามาคนเดียว

ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยซึ่งมีมาจาก หน่วยกู้ภัยปทุมทอง, หน่วยกู้ภัยฮุก 31 จุด อ.รัตนบุรี ,หน่วยกู้ภัยจิ๊บเต็กเซียงตึ้ง สุรินทร์ และพลเมืองดี ได้ช่วยกันลงงมหาร่างไม่นานก็พบ จึงได้นำร่างขึ้นมาบนฝั่ง

โดยมี ร.ต.อ. ธวัชชัย  แก่นแก้ว ร้อยเวร สภ.ท่าตูม และ น.พ.ศุภนัฐ บัวรักษา แพทย์จาก รพ.ท่าตูม ทำการชันสูตรเบื้องต้น ซึ่งญาติไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต จึงได้มอบร่างให้กับญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี

ซึ่งในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ได้ช่วยกันกู้รถที่จมอยู่ในน้ำขึ้นมาได้ในเวลา 19.40 น. ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่นำรถจากจอดล้างแล้วไถลไปไม่ไกล

และที่สร้างความแปลกใจและฮือฮากับผู้ที่อยู่เหตุการณ์ครั้งนี้ก็คือ พบว่าหมายเลขโทรศัพท์ 4 ตัวสุดท้ายของผู้เสียชีวิต กับหมายเลขทะเบียนรถคือ 1669 กับตรงกันอย่างน่าแปลกใจ และยังเป็นหมายเลขโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินอีกด้วย ซึ่งผู้เสียชีวิตก็เป็นเจ้าหน้าที่กู้ชีพอยู่อีกด้วย หรืออาจจะเป็นความตั้งใจของผู้เสียชีวิตก็เป็นได้ เพราะทราบว่าผู้เสียชีวิตมีความรักในอาชีพนี้เป็นอย่างมาก จึงทำให้หมายเลขดังกล่าวตรงกันและสอดคล้องกันเป็นอย่างดี