ชาวบ้านเผยเห็นเด็กสาวๆ ขี่ จยย. มาหา "เสี่ย ป." แทบทุกวัน ยังคิดว่าเป็นลูกสาว
คนในชุมชนตกใจเห็นตำรวจบุกคุมตัว "เสี่ย ป." ในบ้านพัก เพิ่งมารู้เมื่อคืนว่าเด็กสาว 2-3 คนที่มาหาแทบทุกวัน ไม่ใช่ลูกสาวอย่างที่คิด
จากกรณีคืนวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ตำรวจจังหวัดอุดรธานี บุกค้นบ้าน "เสี่ย ป." อายุ 55 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลังได้รับแจ้งจากผู้ปกครองเด็กสาววัย 14-16 ปี ว่าเสี่ย ป. ชักชวนเด็กสาวมาถ่ายภาพและคลิปเปลือย และมีการร่วมหลับนอนกับเด็กสาว และถ่ายภาพและคลิปวิดีโอไว้ โดยจ่ายเงินครั้งละ 600-1,000 บาท โดยมีเด็กตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก
ล่าสุด วันนี้ (27 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของเสี่ย ป. ซึ่งอยู่ บ.จั่น ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี ที่ถูกปิดเงียบ มีเพียงรถจักรยานยนต์ของเสี่ย ป. และของเด็กสาว รวม 5 คัน จอดอยู่ในรั้วบริเวณหน้าบ้าน
หลังถูกตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำหมายค้นศาลจังหวัดอุดรธานี เข้าตรวจค้นหาหลักฐานวัตถุพยาน เช่น กล้องถ่ายรูป คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค เมมโมรี่การ์ดบันทึกภาพ โทรศัพท์มือถือ และยังพบเด็กหญิงสาววัย 15 ปี จำนวน 2 คน อยู่ในห้องพักภายในบ้าน
เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ครอบครองสื่อลามก และพรากผู้เยาว์” ก่อนควบคุมตัวเสี่ย ป. เข้าห้องควบคุม สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อทำการสอบสวนปากคำ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
จากการสอบถาม นางสาวป๊อบ (ขอสงวนชื่อนามสกุลจริง) อายุ 26 ปี คนในชุมชนบ้านจั่น เปิดเผยว่า เดิมที่ตนเป็นชาว จ.ชัยภูมิ แต่สามีพาเดินทางมาทำงานรับเหมาต่อเติมบ้านในพื้นที่ จ.อุดรธานี มาเช่าบ้านอยู่ในชุมชนบ้านจั่นได้ประมาณ 1 ปี เห็นมีเด็กสาวอย่างน้อย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์แวะเวียนมาหาเสี่ย ป. อยู่เป็นประจำแทบทุกวัน ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน วันละ 2-3 ครั้งต่อวัน
โดยเสี่ย ป. ตั้งแต่มาอยู่ในชุมชนแห่งนี้ราว 2-3 ปี ก็ไม่เคยออกมาพบปะเพื่อนบ้านเลย เป็นคนเงียบๆ ชอบเก็บตัวอยู่ในบ้าน จะเห็นก็เพียงออกมาทิ้งขยะช่วงกลางดึกและช่วงเช้ามืด และจะเห็นขับรถออกเข้าบ้านและกลับเข้าบ้านเท่านั้น และไม่เคยพูดคุยกับแกเลย โดยไม่คิดว่าแกจะเป็นคนแบบนี้ และเป็นคนอยู่ใกล้กันด้วย
"รู้สึกตกใจมากที่เห็นตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาควบคุมตัวเสี่ย ป.ในบ้านพัก และรู้สึกเศร้าสลดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชุมชนหรือในสังคมบ้านเรา อยากฝากถึงผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานให้ดี อย่าให้ออกมาจากบ้านมาเที่ยวในเวลากลางคืน หรือไปกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักก็จะเป็นการดี"
ด้าน นางตุ๊ก (ขอสงวนชื่อนามสกุลจริง) อายุ 55 ปี เปิดเผยว่า เดิมทีตนเป็นชาว จ.หนองคาย และย้ายมาเช่าบ้านอยู่ที่นี่ได้ 5 เดือน ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา เห็นตำรวจมาจอดรถที่หน้าบ้านก็รู้สึกตกใจ พอทราบว่ามาค้นบ้านเสี่ย ป. หาหลักฐานที่เสี่ย ป. ไปกระทำกับเด็กสาวแบบนี้ ตนก็รู้สึกสลดหดหู่ใจมากกว่าตกใจ
ตั้งแต่มาอยู่ในชุมชนแห่งนี้ได้ 5 เดือน ไม่เคยคิดเลยว่าแกจะเป็นคนแบบนี้ และกล้าทำเรื่องแบบนี้ เพราะแกเป็นคนดูดีมีฐานะ ที่ผ่านมาเห็นเด็กผู้หญิงมาหาแทบทุกวัน วันละ2-3 ครั้ง ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนกันมา 2-3 คน ตอนแรกคิดว่าเป็นลูกสาว แล้วมีเพื่อนๆ มาหากัน
"ทีแรกคิดว่าเป็นลูกสาวแก และเพิ่งมารู้เมื่อคืนที่ผ่านมาว่าเด็กสาวทั้งหมดที่มาหาแกไม่ใช่อย่างที่คิดไว้ แต่ก็แปลกใจอยู่ว่าทำไมเด็กสาวถึงมาหาแกแทบทุกวัน ส่วนเสี่ย ป.เห็นเพียงเดินมาทิ้งขยะที่หน้าปากซอย และเห็นขับรถเข้าออกบ้าน โดยไม่เคยได้พูดคุยกันเลย"
ทั้งนี้ อยากฝากถึงผู้ปกครองให้ดูแลลกหลานให้ดี ให้เวลากับลูก อบรมสั่งสอนตักเตือนในสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ อย่าใช้อารมณ์ดุด่าเด็กจนเกินไป ให้ใช้เหตุและผลพูดคุยกับเขาจะดีกว่า
เพราะบางทีดุด่ามากยิ่งทำให้เด็กไปเกินเลย จนบางทีเขาอาจจะรู้สึกขาดความอบอุ่น จนทำให้ไม่กล้าพูดกับผู้ปกครอง เพราะกลัวถูกดุด่า และไปปรึกษากับวัยเดียวกันหรือกับคนอื่น จึงต้องควรใส่ใจลูกหลานในเรื่องนี้