“สุรเชษฐ์” โต้รฟม. ยันส่วนต่าง 68,000 ล้านสายสีส้มมีจริง
“สุรเชษฐ์” โต้ รฟม. ยันส่วนต่าง 68,000 ล้านสายสีส้มมีจริง เงินเข้ากระเป๋าใครไม่รู้แต่ทำประเทศเสียหาย เตรียมร่างคำร้องยื่นศาลปกครอง
นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ รฟม. ชี้แจงว่าการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม “โปร่งใส-ตรวจสอบได้” และบอกว่าส่วนต่าง 68,000 ล้านบาทไม่มีจริง ว่า คำชี้แจงของ รฟม. ฟังไม่ขึ้น เพราะ รฟม. ไม่เปิดให้ BTS เข้ามาแข่งขันประมูลทำให้ราคาที่ประชาชนต้องจ่ายแพงกว่าความเป็นจริง หาก รฟม. “โปร่งใส-ตรวจสอบได้”จริง เหตุใดจึงไม่กล้ามาตอบคำถามต่อหน้าคณะอนุกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งได้มีการเรียกมาชี้แจงถึง 2 ครั้ง แต่ รฟม. เลือกตอบแบบเลี่ยงคำถาม โดยชี้แแจงแบบต่างคนต่างพูดผ่านสื่อ มองว่าควรกล้าเผชิญหน้ากับตัวแทนของประชาชนและคู่กรณี
ทั้งนี้ จากการสอบข้อมูลในชั้นกรรมาธิการทำให้ได้รู้ข้อเท็จจริง ว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่อเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย ส่วนต่าง 68,000 ล้านบาทมีอยู่จริง โดยการประมูลครั้งแรกผิดปกติ มีการเปลี่ยนเกณฑ์การประมูลกลางอากาศ หากไม่มีการเล่นตุกติก BTS ขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐ ประมาณ 10,000 ล้านบาท ด้วยความที่มีการเล่นตุกติก จึงมีหลายคดีคาราคาซังอยู่ในศาล แต่ รฟม.เลือกที่จะล้มประมูลแล้วเริ่มใหม่รอบ 2 ที่ BTS ถูกกีดกันทำให้ไม่มีการแข่งขันที่แท้จริง
ซึ่งประเด็นนี้ไม่ต้องอ้างข้อเทคนิคอะไร เพราะเห็นกันอยู่ว่าผู้ประกอบการรถไฟฟ้ารายใหญ่ในไทยมีเพียง 2 ราย คือ BTS และ BEM ทั้ง 2 รายควรเข้าแข่งขันได้ เมื่อไม่มีการแข่งขันที่แท้จริง รัฐก็ต้องจ่ายแพงกว่าที่ควรจะเป็น โดย BEM (ผู้ชนะรอบใหม่) ขอเงินภาษีของประชาชนไปอุดหนุนมากถึง 78,000 ล้านบาท ส่วนต่าง 68,000 ล้านบาทจึงมีอยู่จริง แต่เป็น “ความจริงนอกสำนวน”
นายสุรเชษฐ์ ระบุว่า ส่วนต่าง 68,000 ล้านบาทนี้จะไปลงกระเป๋าใคร ตกไปที่พรรคใดบ้างตนเองไม่รู้ แต่หากปล่อยให้รัฐบาลนี้รีบเซ็นไปก่อนเลือกตั้ง ประเทศจะเสียหายมาก พรรคก้าวไกลจึงกำลังเตรียมคำร้องเพื่อยื่นฟ้องศาลปกครอง และขอให้ประชาชนเห็นความฉ้อฉลของรัฐบาลนี้ในการหากินกับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้ม