โรโบร็อค หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะคว้ายอดขายอันดับ 1 ของโลกในรุ่นไฮเอนด์

จากข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่โดย Euromonitor ยอดขายปลีกของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะมีมูลค่ามากกว่า 15 ล้านเครื่องในปี 2021 ซึ่งสะท้อนภาพการเติบโตถึง 20% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียเเปซิฟิกที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 44.2% ของยอดขายทั้งหมด ทำให้เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของสินค้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ โดยหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะในรุ่นไฮเอนด์จะมีราคาประมาณ 500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 19,000 บาท ที่ได้ส่งมอบประสิทธิภาพเหนือชั้นในด้านของระบบปฏิบัติการอันชาญฉลาดและประสิทธิภาพในการทำความสะอาดเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นธรรมดา และนี่คือ บทสัมภาษณ์ของ Joan Hu ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

1. โรโบร็อคเพิ่งประกาศขยายตลาดมาที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา อะไรคือปัจจัยที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในเวลาแค่ 2 ปี

พวกเราภาคภูมิใจที่สามารถมอบเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะแก่ผู้บริโภค เมื่อพูดถึงเรื่องนวัตกรรมของสมาร์ตโฟนหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสมาร์ตโฟนผู้บริโภคก็มักจะมีตัวเลือกมากมาย แต่ในพื้นที่ของเครื่องมืออัจฉริยะภายในบ้านการเติบโตของตลาดกลับเป็นตรงกันข้าม ดังนั้นสิ่งนี้จึงถือเป็นโอกาสของโรโบร็อคที่จะเข้ามาอุดช่องว่างนี้เพื่อมอบเทคโนโลยีที่มีเป้าหมายเพื่อให้ความสะดวกสบายที่แท้จริงแก่ผู้ใช้งาน ดังนั้นในครึ่งแรกของปี 2022 โรโบร็อคจึงเพิ่มงบให้ฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์มากถึง 13.74% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา คิดเป็นเงินประมาณ 226 ล้านหยวน หรือ 31.6 ล้านเหรียญสหรัฐ 

2. โรโบร็อคทำอย่างไรจนสามารถครองตลาดหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะไฮเอนด์ในเวลาอันสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาของการระบาดใน 2 ปีที่ผ่านมา

เพื่อมอบสภาพแวดล้อมของบ้านที่ทันสมัยโดยเฉพาะในยุคที่โลกหมุนเร็วขึ้น เทรนด์ของผู้บริโภคคือต้องการหาหุ่นยนต์เพื่อทำงานบ้านแทนพวกเขา เพื่อที่จะได้มีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่นที่ที่สำคัญกว่าหรืออยู่กับคนที่รักได้มากขึ้น และเทรนด์ดังกล่าวก็กลายมาเป็นที่ต้องการของคนกลุ่มใหญ่ในช่วงที่มีการระบาดของโรคเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ผู้คนมากมายใช้เวลาอยู่บ้านนานขึ้นและต้องทำงานที่บ้าน ภาระของการทำงานบ้าน เช่น การทำความสะอาดเริ่มไม่แน่นอนและสร้างความตึงเครียดระหว่างครอบครัวที่จำเป็นจะต้องอาศัยอยู่ร่วมกันในบ้าน

ด้วยความต้องการของตลาด และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปโรโบร็อคจึงกลายมาเป็นผู้นำของผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะที่ผู้บริโภคต่างยอมรับ เพราะสามารถมอบนวัตกรรมที่พรีเมียมล้ำสมัย และใช้งานง่ายที่ทำให้บ้านของผู้ใช้งานสะอาดขึ้นโดยที่ไม่ต้องเปลืองแรงในการทำความสะอาด สิ่งนี้จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้โรโบร็อคสามารถครองตลาดสินค้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะในเวลาอันสั้น

3. กลยุทธ์ใดบ้างที่ทำให้โรโบร็อคเติบโตในตลาด

โรโบร็อคทำธุรกิจกับแพลตฟอร์มซื้อสินค้าออนไลน์ของจีนได้แก่ Tmall.com และ JD.com อย่างใกล้ชิดเพื่อที่จะเปิดตัวสินค้าของเราในแคมเปญ Super Brand Day สิ่งนี้เป็นกลยุทธ์เดียวกับการบุกตลาดหลักๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ที่พวกเราก็ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Shopee และ Lazada เพื่อที่จะทำให้สินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงของเราเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้บริโภคโดยตั้งเป้าหมายที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคทั่วโลก

มากไปกว่านั้นพวกเราทุ่มความตั้งใจไปที่การทำการตลาดให้ใกล้ชิดกับผู้บริโภคในระดับภูมิภาค เช่น การทำคอนเทนต์ให้โดนใจผู้บริโภคในตลาดนั้นๆ โดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ในการบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ให้ไปถึงพวกเขา

4. สินค้าระดับไฮเอนด์ของโรโบร็อคแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร

ในเดือนมีนาคม 2022 โรโบร็อคได้ออกหุ่นยนต์ดูดฝุ่นระดับไฮเอนด์รุ่นใหม่ในซีรีส์ G10S และ S7 MaxV ที่ยกระดับระบบปฏิบัติการ RR mason 9.0 ที่ทำให้หุ่นยนต์สามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางและวางแผนการทำความสะอาดได้แม่นยำขึ้น และในหุ่นยนต์รุ่นใหม่ยังมี VibraRise® ครั้งแรกของอุตสาหกรรมที่ใช้การสั่นสะเทือนของคลื่นเสียงในการขัดพื้น 3,000 ครั้งต่อนาที รวมถึงการผสานเทคโนโลยีการล้างม็อบอัตโนมัติ การต้านแบคทีเรียอัตโนมัติ การเติมถังอัตโนมัติ การเก็บฝุ่นอัตโนมัติ แท่นล้างอัตโนมัติอีกด้วย ด้วยเทคโนโลยีในระดับนี้ หุ่นยนต์รุ่นใหม่ของเราจึงสามารถทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมอบประสบการณ์การทำความสะอาดพื้นอัตโนมัติที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้งาน

และเพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานแก่ผู้บริโภค พวกเรายังได้จับมือกับผู้นำของอุตสาหกรรม เช่น INEOS Styrolution และ Novodur® ที่มีความชำนาญในการผลิตพลาสติก ABS จึงทำให้เราสามารถผลิตหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะที่สามารถปัดกวาด ถูพื้น และขัดพื้นได้ในเครื่องเดียว

5. อะไรที่เป็นแรงบันดาลใจและเป้าหมายของโรโบร็อคในการทำตลาด

นอกจากที่ต้องการขยายความสนใจของแบรนด์ในช่องทางออนไลน์แล้ว เรายังหวังว่าจะสามารถมอบบริการที่ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ ให้แก่ลูกค้าของเรา โดยในอนาคตอันใกล้นี้เราตั้งเป้าว่าจะเปิดแฟลกชิปสโตร์ซึ่งจะทำให้ได้ใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น และสามารถมอบบริการหลังการขายให้กับลูกค้าเพื่อให้ประสบการณ์การซื้อสินค้าที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นโดยในระหว่างนี้ทุกท่านสามารถตั้งหน้าตั้งตารอกับกิจกรรมต่างๆ ที่จะจัดขึ้นร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ ของเราใกล้บ้านคุณ

[Advertorial]