จบสวยหลังออกโหนกระแส จ.ส.ต. ซ้อมลูกเมีย สำนึกแล้ว ยอมหย่าพร้อมจ่ายค่าเลี้ยงดู

จบสวยหลังออกโหนกระแส จ.ส.ต. ซ้อมลูกเมีย สำนึกแล้ว ยอมหย่าพร้อมจ่ายค่าเลี้ยงดู

จบสวยหลังออกโหนกระแส จ.ส.ต. ซ้อมลูกเมีย สำนึกแล้ว ยอมหย่าพร้อมจ่ายค่าเลี้ยงดู
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 จ.ส.ต.ซ้อมลูกเมีย สำนึกแล้ว หลังเรื่องแดงเพราะเมียไปออกโหนกระแส ล่าสุดยอมเซ็นใบหย่าพร้อมจ่ายค่าเลี้ยงดู เมียขอบคุณที่ยังสำนึก  

กรณีที่ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พาผู้เสียหายซึ่งเป็นภรรยาของตำรวจยศจ่าสิบตำรวจ สังกัด สภ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ยื่นหนังสือร้องเรียนกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับสามี หลังพบว่ามีพฤติกรรมเสพยาเสพติด และมักถูกทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังเคยพยายามฆ่าด้วยการเอาถุงดำคลุมศีรษะและจุดไฟเผา โดยนำคลิปเสียงมามอบไว้เป็นหลักฐาน  

เช้าวันนี้ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พานางสาวเจี๊ยบ อายุ 44 ปี ผู้เสียหายเข้าพบ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนางจิราพร เชาว์ประยูร ยามาโมโต้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้ง อัยการสิทธิมนุษยชน และ ปลัดอำเภอเมืองเชียงใหม่ ที่เข้าร่วมรับฟังข้อมูล  

นายกัณฐัศว์ บอกว่าที่เดินทางมาในวันนี้จะดำเนินการ 3 ประเด็น คือ ขอให้ดำเนินการเรื่องการหย่า ที่เคยขอหย่ามาหลายครั้ง แต่ฝ่ายสามีไม่ยอม , แจ้งความดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย ที่ก่อนหน้านี้ผู้เสียหายพยายามแจ้งความหลายครั้ง แต่ทางตำรวจบอกว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว และ ปรึกษากับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ในกรณีที่ ผกก.สภ.ฮอด โทรศัพท์เคลียร์กับผู้เสียหายและขอไม่ให้ออกสื่อ ว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ และหลังจากนี้จะนำเรื่องเข้าแจ้งกับจเรตำรวจด้วย นอกจากนี้จะขอให้ พม.เข้ามาประสานงานดูแลสวัสดิภาพผู้เสียหายกับลูก  

ด้าน นางสาวเจี๊ยบ ยืนยันต้องการขอหย่าและขอให้ดำเนินคดีถึงที่สุดกรณีทำร้ายร่างกายเธอกับลูก เพราะสุดจะทนแล้วสำหรับลูกผู้หญิงกับเด็กคนหนึ่ง โดยหลังเกิดเหตุไม่เคยขอโทษหรือพูดคุย มีแต่โทรศัพท์มาข่มขู่ว่าอย่าเอาเรื่องไปร้องเรียนนาย เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ตอนนี้ลูกชายได้รับผลกระทบทางจิตใจมาก ตอนนี้เริ่มมีกอาหารหวากกลัวผู้คน เธอสงสารลูกมาก  

นางสาวเจี๊ยบ เล่าว่า ที่ผ่านมาเคยขึ้นมาเชียงใหม่สองครั้งแต่สามีก็หลบหน้า เคยปล่อยทิ้งไว้ที่แฟลต ปล่อยให้เธอกับลูกที่ไม่มีเงินอยู่กันลำพัง ปล่อยให้ต้องกินน้ำจากท่อประปา ลูกก็ไม่มีข้าวกิน กินแค่มาม่าสามห่อที่เหลืออยู่ในห้องเป็นเวลาห้าวัน   

ส่วนหลังจากนี้ หากมีการขอเจรจาไกล่เกลี่ยก็จะต้องขอดูก่อน แต่ยืนยันว่าไม่อยากได้เงินเพราะผ่านจุดนั้นมาแล้ว แต่เป็นเรื่องของความเป็นธรรมที่ควรจะได้ และหากสามีมาขอคืนดีก็ยืนยันไม่ยอมเด็ดขาด เพราะหกเจ็ดปีที่ผ่านมาก็ต้องทนอยู่เพื่อลูก แต่พอเริ่มทำร้ายลูกก็จะไม่ขอทนอีกต่อไป เพราะสงสารลูกที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้  

พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า จะดูแลให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย หากส่วนอยู่ในส่วนของตำรวจทำได้ก็จะทำทันที ส่วนเรื่องขอหย่าไม่น่าจะมีปัญหาโดยทางฝ่ายปกครองที่จังหวัดเชียงใหม่จะช่วยเหลือดำเนินการ  

ล่าสุด สองสามีภรรยาได้พบหน้าและเจรจาไกล่เกลี่ยต่อหน้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่และอีกหลายหน่วยงานที่มาเป็นคนกลาง ทั้ง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ฝ่ายปกครอง และ อัยการสิทธิมนุษยชน ผลการพูดคุยประมาณ 1 ชั่วโมง ได้ข้อสรุปในทิศทางที่ดีสร้างความสบายใจให้กับทุกฝ่าย

นายกัณฐัศว์ เปิดเผยว่า หลังได้พูดคุยกันทำให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี โดยในเรื่องการหย่าฝ่ายสามียินยอมเซ็นใบหย่าให้ ซึ่งฝ่ายภรรยาก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร แต่ทางฝ่ายสามีก็แสดงความเป็นลูกผู้ชายและขอแสดงความรับผิดชอบด้วยการให้ค่าเลี้ยงดูลูกเดือนละ 5,000 บาท พร้อมกับส่งรถจักรยานยนต์ไปให้ลูกใช้เดินไปเรียนหนังสือ ส่วนเรื่องการทำร้ายร่างกาย ฝ่ายภรรยาบอกว่าหากสามีรับผิดชอบดูแลลูก ก็ไม่ติดใจและยอมจบเรื่องไม่แจ้งความดำเนินคดี พร้อมขอบคุณสามีที่ยังมีสำนึกความเป็นพ่อที่รับผิดชอบลูก และจะไม่กีดกันในการพบกันระหว่างพ่อลูกในอนาคตหลังจากนี้ตราบเท่าที่ยังดูแลลูกอยู่

ในส่วนการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวว่า ยังคงเดินหน้าและอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน โดยตำรวจนายนี้เพิ่งย้ายมาในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บางเรื่องเกิดขึ้นมานาน แล้วต้องใช้เวลาตรวจสอบ แต่ยืนยันว่าตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ มีโครงการตำรวจสีขาว ก่อนหน้านี้มีการตรวจตำรวจทั้งจังหวัดแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ ผลการตรวจตำรวจนายนี้ 3 ครั้งก็ไม่พบสารเสพติด และได้ตรวจสอบกับตำรวจในพื้นที่เชื่อว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมานานพอสมควร ส่วนเข้ารับการบำบัดก่อนหน้านี้ ขอเวลาตรวจสอบข้อมูล เรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบ ตำรวจมีวินัยมีกฎหมายต้องปฏิบัต ส่วนเรื่องอื่นต้องช่วยกันแก้ปัญหาให้ยั่งยืน

ส่วนนางสาวเจี๊ยบ ให้สัมภาษณ์หลังพูดคุยไกล่เกลี่ยว่าการเจรจาเป็นไปตามที่หวังไว้ ขอบคุณกัน จอมพลัง ที่เข้ามาช่วยชีวิตตนเองกับลูกไว้ และขอบคุณทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือทุกอย่างให้ตนเองกับลูกได้มีชีวิตใหม่ และ ขอโทษสังคมที่เคยคิดสั้นพยายามฆ่าตัวตายจนทำให้หลายคนเดือดร้อน ตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้นมาก

ด้าน นางจิราพร เชาว์ประยูร ยามาโมโต้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ บอกว่า ตอนนี้นางสาวเจี๊ยบกับลูกย้ายมาอยู่กับครอบครัวที่จังหวัดสงขลา หลังจากนี้ พมจ.เชียงใหม่ จะประสานงานไปยัง พมจ.สงขลา เข้าเยี่ยมบ้านและให้การช่วยเหลือครอบครัวทั้งทุนการประกอบอาชีพและทุนการศึกษาเด็ก ส่วนเรื่องสภาพจิตใจของเด็ก หลังจากมีข้อตกลงในวันนี้ ทำให้ฝ่ายหญิงเกิดความสบายใจและสร้างความมั่นใจ เมื่อสภาพจิตใจของแม่ดีขึ้นก็จะส่งผลดีต่อลูก แต่อาจต้องใช้เวลาเยียวยาจนกว่าเด็กจะมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook