โซเชียลลือเด็กชาย ม.3 ตกอาคารเรียน ถูกฆาตกรรม? ตำรวจงัดคลิปโต้ เด็กขึ้นตึกคนเดียว

โซเชียลลือเด็กชาย ม.3 ตกอาคารเรียน ถูกฆาตกรรม? ตำรวจงัดคลิปโต้ เด็กขึ้นตึกคนเดียว

โซเชียลลือเด็กชาย ม.3 ตกอาคารเรียน ถูกฆาตกรรม? ตำรวจงัดคลิปโต้ เด็กขึ้นตึกคนเดียว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โซเชียลลือเด็กชาย ม.3 โรงเรียนดังโคราช ตกอาคารเรียน อาจถูกฆาตกรรม ตำรวจงัดคลิปโต้เด็กเดินขึ้นตึกเพียงลำพัง

จากกรณีเด็กนักเรียนชาย โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ตกลงมาจากอาคารเรียนเสียชีวิต  บริเวณด้านหลังอาคารเรียนเฉลิมพระเกียรติ 9 ชั้น เมื่อเวลาประมาณ 20.40 น. วานนี้ (10 พฤศจิกายน 2565) 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา หลังรับแจ้งเกิด ได้รีบมาตรวจสอบ พบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นนักเรียนชายอายุ 14 ปี อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โดยพบกระเป๋านักเรียนของเด็กผู้เสียชีวิต ถูกวางทิ้งไว้อยู่บริเวณชั้น 5 และพบรองเท้าของเด็กผู้เสียชีวิตถอดทิ้งไว้อยู่บริเวณ ชั้น 6 ของอาคารเรียน ซึ่งอาจารย์ เจ้าหน้าที่ของโรงเรียน และตำรวจ ได้กันพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปใกล้ที่เกิดเหตุ ท่ามกลางความโศกเศร้าของพ่อแม่และครอบครัว ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด

ทั้งนี้ จากกระแสโซเชียลในเพจต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีบุคคลทั่วไปเข้าไปแสดงความคิดเห็นว่าเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตอาจจะถูกฆาตกรรมหรือทำให้จากตึกจนเสียชีวิตนั้น ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปสังเกตอาคารที่เกิดเหตุและระเบียงชั้น 6 ของอาคารเรียนที่คาดว่าจะเป็นจุดที่นักเรียนตกลงมา ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบริเวณอาคารเรียนที่เกิดเหตุ พบว่าพบก่อนเกิดเหตุพบนักเรียนที่เสียชีวิตเดินขึ้นอาคารเรียนดังกล่าวเพียงลำพัง ซึ่งเป็นการยืนยันว่าการเสียชีวิตของนักเรียนในครั้งนี้ไม่น่าจะมีบุคคลอื่นมาเกี่ยวข้องหรือถูกฆาตกรรมตามที่มีการออกมาแสดงความคิดเห็นและแชร์ข่าวดังกล่าว

ทางด้านผู้บริหารของโรงเรียนที่เกิดเหตุ นำโดยผู้อำนวยการโรงเรียน และคณะได้เดินทางไปเป็นประธานรดน้ำศพและสวดอภิธรรมเด็กที่เสียชีวิต ที่วัดมาบตะโกเอน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พร้อมกันนี้ทางโรงเรียนได้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพทุกอย่าง และทางโรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงถึงสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ พร้อมวางมาตรการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นอีกโดยเพิ่มความถี่ในการดูแลสอดส่องพฤติกรรมของนักเรียนภายในโรงเรียนอย่างเข้มข้น พร้อมจะเชิญนักจิตวิทยา สหวิชาชีพ มาอบรมให้ความรู้แก่ครูที่ปรึกษา และเด็กนักเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า โดยจะให้ครูที่ปรึกษา และครูประจำชั้นช่วยคัดกรองนักเรียนกลุ่มเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า

นอกจากจากนี้จะเพิ่มความถี่ในการออกเยี่ยมบ้านของนักเรียนเพื่อติดตามช่วยเหลือนักเรียนหากพบว่านักเรียนคนใดมีปัญหาในเรียนหรือการใช้ชีวิตก็จะเร่งหาทางป้องกันและแก้ต่อไป.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook