นักแม่นปืนทีมชาติ ถูกพ่อบุญธรรมยิง 5 นัด เสียชีวิต หลังทวงคืนสมบัติที่ให้ลูกคืนไม่ได้
นักแม่นปืนทีมชาติ ถูกพ่อบุญธรรมรัวยิง 5 นัด เสียชีวิต หลังทวงคืนสมบัติที่ให้ลูกคืนไม่ได้ ล่าสุดครอบครัวผวา ผู้ก่อเหตุได้ประกันตัว
วันที่ 10 พ.ย.65 พ.ต.อ.เอนก บุตรอินทร์ ผกก.สภ.พานทอง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตภายในบ้าน หมู่ 5 ต.หนองหงษ์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ต่อมา นายทองย้อย อายุ 78 ปี พ่อบุญธรรม ผู้ก่อเหตุได้มามอบตัวที่ สภ.พานทอง พร้อมอาวุธปืนโคลท์ ขนาด .45 ทางตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายทองย้อยไปสอบสวนและทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันทีและได้ส่งตัวฟ้องศาลทันที
ส่วน นายมงคล อายุ 46 ปี ลูกบุญธรรม ที่ถูกยิงจำนวน 5 นัด ขาซ้าย 2 นัด ท้อง 2 นัด แขนซ้าย 1 นัด ทำให้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส และได้เสียชีวิตในเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน ต่อมานายทองย้อย พ่อบุญธรรม ก็ได้รับการประกันตัวเมื่อวันที่ 10 พ.ย.65 ช่วงเวลา 13.00 น.และได้กลับบ้านไป
คืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหมู่ 5 ต.หนองหงษ์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้พบ นายไพโรจน์ อายุ 40 ปี พี่ชายภรรยาผู้เสียชีวิตได้พาผู้สื่อข่าวไปชี้ยังจุดที่เกิดเหตุเป็นออฟฟิศห้องทำงานของผู้เสียชีวิต จากการตรวจสอบพบร่องรอยของลูกกระสุนปืนจำนวน 4 รู บริเวณฐานหิ้งพระของผู้เสียชีวิต จากการสอบถามนายไพโรจน์ ได้เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้นั่งทำงานตรวจเอกสารที่จัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าที่โต๊ะตามปกติ จากนั้นนายทองย้อยผู้ก่อเหตุได้ถืออาวุธปืนมายืนที่ประตูข้างห้องทำงานที่สามารถเปิดหากันได้พอเปิดประตูจะมีเสียงของก่อเหตุได้ร้องบอกผู้เสียชีวิตว่า "ไอ้ใช้ มึงตาย"
จากนั้นก็ลงมือกระหน่ำยิงนายมงคล ผู้เสียชีวิต รัวจำนวน 5 นัด หลังจากที่ยิงเสร็จก็ได้เดินออกมานั่งหลบข้างรถยนต์ของตัวเอง ในตอนนั้นมีแม่บ้านเข้ามาเห็นคนเจ็บล้มฟุบลงใต้โต๊ะทำงานและมีเลือดนองที่พื้น จึงได้เรียกคนงานที่กำลังทำงานกันอยู่ว่านายมงคลถูกยิงให้รีบเอารถมารับไปส่งโรงพยาบาลแล้วมีคนงานช่วยกันพยุงขึ้นรถพาไปโรงพยาบาลทันที
หลังจากที่นายทองย้อยผู้ก่อเหตุได้มีการรับการประกันตัว ทำให้ภรรยาของผู้เสียชีวิตรวมทั้งครอบครัวเกิดการหวาดกลัว เพราะนายทองย้อยผู้ก่อเหตุเคยได้พูดเชิงข่มขู่กับทางผู้เสียชีวิตและภรรยาของผู้เสียชีวิตไว้ว่า "ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็อย่าอยู่ร่วมโลกกันเลย" ทำให้ทางภรรยาของผู้เสียชีวิตและครอบครัวก็เกิดหวาดกลัวและไม่ปลอดต่อต่อชีวิต หวั่นจะมาก่อเหตุซ้ำ เพราะคนก่อเหตุชอบกินเหล้าแล้วอาละวาดประจำ ซึ่งผู้ตายเป็นนักกีฬายิงปืนฝีมือชั้นครูมีชื่อเสียงระดับประเทศและมีดีกรีติดทีมชาติไทยอีกด้วย
ส่วนปมเหตุเหตุนั้นเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน ทางนายทองย้อยผู้ก่อเหตุได้มอบทรัพย์สินรวมทั้งกิจการให้นายมงคลผู้เสียชีวิตเป็นคนดูแล จากนั้นนายทองย้อยก็ได้แยกไปทำกิจการเป็นของตัวเองต่างหากในเขตรั้วเดียวกัน และเมื่อ 2 ปี หลังช่วงวิกฤติโควิตระบาดหนักนายทองย้อยได้มาคุยและได้ทวงถามเรื่องทรัพย์สินที่เคยให้นายมงคล และขอคืนเพื่อจะมาทำเองทั้งหมด แต่นายมงคลได้กู้เงินมาลงทุนไปเยอะและได้เป็นหนี้จึงยังไม่ได้คืนให้เพราะต้องทำธุรกิจเพื่อเอาเงินใช้หนี้และคืนทุนก่อน แต่ทางนายทองย้อยผู้ก่อเหตุไม่ยอมก็มีการทวงถามกันมาเรื่อยๆ และยิ่งเวลานายทองย้อยได้กินเหล้าเมาก็จะอาละวาดและหาเรื่องผู้เสียชีวิตและภรรยาตลอดมา จนมาถึงวันที่เกิดเหตุจึงอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยากให้ดำเนินการกับนายทองย้องให้ถึงที่สุดอย่างตรงไปตรงมาและขอความยุติธรรมให้กับนายมงคลผู้เสียชีวิตด้วย