บ่าวสาวน้ำตาตก ออร์แกไนซ์จัดงานไม่ตรงปก ชุดเจ้าสาวต้องหาเองตอนตี 2 ก่อนวันแต่ง

บ่าวสาวน้ำตาตก ออแกไนซ์จัดงานไม่ตรงปก ไม่มีป้ายชื่อบ่าวสาว ไม่มีฉาก ซุ้มถ่ายรูป ชุดเจ้าสาวต้องหาเองตอนตี 2 ก่อนวันงาน

(12 พ.ย.65) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากคู่บ่าวสาวรายหนึ่งใน อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ว่าถูกร้านออร์แกไนซ์ ชื่อดังแห่งหนึ่ง ในตำบลหนองชุมพล อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี จัดงานแต่งไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้ หลังซื้อแพ็คเกจที่แพงที่สุด แต่กลับได้ไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ ทั้งการถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง การตรงแต่งสถานที่จัดงาน ชุดเจ้าบ่าว เจ้าสาว ชุดเพื่อนเจ้าสาว ไม่มีป้ายชื่องาน และ ซุ้มสำหรับถ่ายภาพ จนทำให้ครอบครัวเกิดความผิดหวังและอับอายเป็นอย่างมาก และถูกปัดความรับผิดชอบต่อค่าเสียหายที่เกิดขึ้น

โดยเจ้าสาวรายนี้ ได้โพสต์บันทึกเรื่องราวความทรงจำ ครั้งหนึ่งในชีวิตลูกผู้หญิง และ การมีชีวิตคู่ ที่ได้วางแผนการจัดงานอย่างดี แต่สุดท้ายกับ “ความทรงจำสีเทา” ระบุเรื่องราวว่า “6 พฤศจิกายน 65 wedding ผึ้ง&เอก เราสองคน กราบขออภัยที่งานแต่งในครั้งนี้ไม่ราบรื่น สวยงามอย่างที่เราทั้งสอง ตั้งใจไว้ ไม่มีฉากดอกไม้ให้แขกในงานได้ถ่ายภาพ ไม่มีชุดเจ้าสาวสวยๆ แต่งหน้าทำผมตามแบบที่เราคุยงานไว้ ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งส่งไปอัดไม่ทันเพราะภาพมาช้า แม้กระทั่งป้ายชื่อบ่าวสาวติดในงานก็ไม่มี เพราะออแกไนซ์เทงานเรา จึงทำให้พิธีการในงานติดขัดล่าช้าไปบ้าง รู้ตัวว่าโดนเทก็ห้าทุุ่มก่อนวันแต่งงาน อีกไม่กี่ชั่วโมง ก็จะถึงพิธีงานแล้ว เราเสียใจ ร้องไห้ มันเฟล มันตัน มันจุก ตื้อ ไปหมด คิดอะไรไม่ออกเลย พยายามตั้งสติ แต่มันไม่ไหวจริงๆ ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับเรา จิตใจดำดิ่งมากๆ แต่ในความโชคร้าย ยังมีเพื่อนที่แสนดี ที่ออกไปวิ่งหาเช่าชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวให้ตอนตี 2 แก้ปัญหาสารพัด ที่มันรุมประดังเข้ามา ให้ผ่านไปได้ ครั้งหนึ่งในชีวิตของเราสองคน ทุกคน พ่อ-แม่ ทั้งสองฝ่าย เพื่อนๆ ญาติพี่น้อง ช่วยกันเตรียมงาน ตั้งใจมากๆ อยากให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด มันจะเป็นความทรงจำที่ลืมได้ยาก เพราะ มันเกิดขึ้นในงานที่เราควรจะต้องจดจำ สุดท้ายนี้ เราสองคนกราบขออภัยในความผิดพลาด ขาดตกบกพร่องทุกๆ ประการ ที่เกิดขึ้นในงานเมื่อวานนี้ เป็นอย่างสูง” 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบคู่บ่าวคู่นี้ คือ นางสาวศิรินภา อายุ 36 ปี และ นายเอกวิทย์ อายุ 36 ปี ชาว อ.ปากท่อ เจ้าสาวและเจ้าบ่าว ซึ่งได้นำหลักฐาน ข้อความแชต สลิปการจ่ายเงิน และภาพถ่ายจุดต่างๆ ภายในงานแต่ง ซึ่งทางออร์แกไนซ์ได้จัดไม่ตรงปกตามที่ต้องการ มาแสดงต่อผู้สื่อข่าว เพื่อขอความเป็นธรรม และ ฝากเตือนเพื่อเป็นอุทาหรณ์กับคู่บ่าวสาวรายอื่นๆ ที่เตรียมจะจัดงานแต่งเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นเช่นเดียวกับของคู่ของตนเอง และเตรียมเอาผิดร้านดังกล่าว

นางสาวศิรินภา และ นายเอกวิทย์ คู่บ่าวสาว เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ตนทั้งคู่ได้วางแพลนแต่งงานกัน โดยศึกษาและเลือกร้านเวดดิ้งที่คิดว่าดีที่สุด และติดตามผลงานของร้านออแกไนซ์ร้านดังกล่าวมานานแล้ว ชื่นชอบในเรื่องการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งและการจัดสถานที่แต่งงาน ซึ่งเมื่อวันที่ 17 ก.ค.65 ตนได้เข้ามาติดต่อร้านเวดดิ้งดังกล่าว ซึ่งเป็นร้านเวดดิ้งชื่อดังของเมืองเพชรบุรี-ราชบุรี ตั้งอยู่ที่ ต.หนองชุมพล อ.เขาย้อย จ.เพชบุรี และก็ได้เลือกโปรโมชั่นจากทางร้านที่แพงที่สุดของทางร้านเพื่อต้องการให้ได้การบริการในการจัดงานแต่งที่ครบ จนใกล้ถึงวันเวลาที่ตนทั้ง 2 คนจะจัดพิธีแต่งงาน จึงได้เดินทางไปที่ร้านเพื่อพูดคุย ในเรื่องการจัดงานในวันแต่งงาน และเลือกแพคเก็ต 49,999 บาท และขอลดกับทางร้าน จนเหลือราคา 40,000 บาท พร้อมทั้งคอนเฟิร์มวันแต่งงาน คือวันที่ 6 พ.ย.65 ที่ผ่านมา

โดยที่ทางเจ้าสาวและเจ้าบ่าว ได้ออกแบบ โดยธีมงานเป็นชุดขาวเขียว และดูตัวอย่างฉากต่างๆ ที่ทางร้านได้เสนอมา พร้อมทั้งระบุทั้งเรื่องชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวชุดเพื่อนเจ้าสาว การตกแต่งสถานที่และพิธีงานทางศาสนา ซึ่งทางเจ้าของร้านตอบรับและยืนยันสามารถจัดฉากได้ตามที่ต้องการ ซึ่งทางร้านได้บอกว่าชุดเจ้าสาวทางร้านจะสั่งตัดให้ใหม่ ทั้งชุดไทยและชุดราตรี โดยที่ตนเองได้ไปหาแบบชุดและส่งให้กับทางร้านว่าต้องการในลักษณะนี้ ทั้งชุดไทยและชุดราตรี โดยทางร้านจะตัดให้ตามที่ตนเลือกแต่เนื้อผ้าอาจจะไม่ได้เนื่องจากราคาที่เลือกไว้ แต่โดยรวมแล้วต้องเป็นไปตามแบบที่ตนได้เลือกไว้ และทางร้านได้ขอเบิกเงินไปจำนวน 10,000 บาท เพื่อนำไปให้ร้านตัดชุดราตรี 

นางสาวศิรินภา เปิดเผยอีกว่า หลังจากนั้นทางร้านได้มีการนัดให้ตนและเจ้าบ่าว ไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง เพื่อนำภาพมาใช้ในงานแต่ง หลังจากถ่ายเสร็จได้ตกลงนัดวันเพื่อที่จะส่งภาพมาให้เลือก จนกระทั่งใกล้ที่จะถึงวันงานทางร้านก็ไม่ส่งภาพมาให้เลือก ตนก็ได้มีการทวงถามไปแต่ก็ยังไม่ได้ จึงได้ไปหาช่างมาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งสำรองไว้อีก 1 ชุด จนกระทั่งผ่านไป 2 เดือน ทางร้านส่งภาพมาให้เลือกเพื่อที่จะนำไปใช้ในงาน ซึ่งได้เลือกไว้และส่งไปกลับไปให้ทางร้านเพื่อให้ทางช่างภาพได้แต่งภาพ แต่ปรากฏว่าภาพที่ได้มาไม่สวยถูกใจ จึงได้นำไฟล์ภาพมาให้ช่างอีกร้านได้แต่งให้ ซึ่งก็ต้องเสียเงินค่าแต่งภาพอีก

นางสาวศิรินภา เล่าต่อว่า ก่อนถึงวันงาน ได้สอบถามกับทางร้านเรื่องชุดที่ใช้ในวันแต่งงาน ทางร้านก็ให้ตนเองเข้าไปลองชุดได้ ตนก็คิดว่าน่าจะได้ลองทั้งชุดไทยและชุดราตรี แต่เอาเข้าจริงเข้าไปลองได้แต่ชุดไทย ซึ่งชุดไทยก็ไม่ตรงไปตามที่ตกลงกันไว้ ส่วนชุดราตรีทางร้านแจ้งว่าจะถูกส่งมาจากร้านในจังหวัดอุดรธานี จะมาถึงวันที่ 4 พ.ย. ตนก็แจ้งกับทางร้านว่าจะขอเข้ามาลองชุดในวันดังกล่าวทางร้านก็แจ้งว่าได้ จนถึงวันที่ 4 พ.ย. ตนก็ทักไปว่าจะขอเข้าไปลองชุดที่ตกลงไว้ แต่ทางร้านก็แจ้งกลับมาว่า ยังไม่สะดวก ขอเป็นเช้าวันที่ 5 พ.ย. ค่อยเข้ามาลองอีกทีที่ร้าน จนถึงกำหนดตนก็ทักไปอีกว่าจะเข้าไปลองชุด ทางร้านก็แจ้งอีกว่าไม่สะดวกเนื่องจากติดไปจัดงานอีกที่หนึ่ง ส่วนตอนเย็นจะเข้าไปจัดสถานที่ที่ร้านของตนเอง พร้อมทั้งจะเอาชุดมาให้ตนได้ลองที่บ้านทั้งชุดไทยและชุดราตรี ตนก็ถามกลับไปว่าจะแก้ชุดทันไหมถ้าใส่ไม่ได้ ทางร้านก็บอกว่าทันเพราะชุดเป็นไซต์ของเจ้าสาวอยู่แล้ว ตนก็รอตามที่ทางร้านแจ้ง

จนกระทั่งเย็นวันที่ 5 พ.ย.65 ที่ผ่านมา ตนก็ได้โทรไปสอบถามกับทางร้านว่าจะเข้ามาจัดสถานที่เมื่อไหร่ เพราะกลัวจะไม่ทัน แต่ทางร้านก็ยังยืนยันว่าจัดทันเวลาอย่างแน่นอน ตนก็ยังเชื่อใจกับทางร้าน ซึ่งตนก็รอจน 5 ทุ่ม ทางร้านได้เข้ามายังที่บ้านสถานที่จัดงาน โดยเอาชุดไทยมาให้ลอง 1 ชุด ส่วนชุดราตรีไม่มี ซึ่งชุดไทยที่นำมาให้ลองไม่ใช่ชุดเดียวกับที่เข้าไปลองที่ร้าน คนละสีคนละแบบที่ตกลงไว้ โดยตนได้ลองชุดไทยแต่ก็ไม่สามารถใส่ได้เพราะชุดเล็กเกินไป ตนก็สอบถามกับทางร้านว่าจะทำอย่างไร ทางร้านก็จะกลับไปเอาที่ร้านมาให้ แต่เพื่อนอาสาที่จะเข้าไปที่ร้านเพื่อไปเอาชุดที่ตกลงไว้มาให้ลอง แต่เมื่อเพื่อนเดินทางไปที่ร้านกลับไม่พบกับชุดราตรี ชุดไทย หรือ เครื่องประดับชุดก็ไม่มีตามที่ตกลงไว้ เพื่อนๆ เลยช่วยกันไปตามหาร้านใหม่เพื่อขอเช่าชุดเพื่อมาแก้สถานการณ์ จนได้ร้านที่สามารถเช่าได้ โดยตนพร้อมด้วยเพื่อนๆ ได้รีบเดินทางไปที่ร้านทันที เวลาตี 2 และก็ได้ชุดมาใช้ประกอบพิธีทั้ง ชุดไทยและชุดราตรี

ส่วนการจัดสถานที่งานแต่ง นางสาวศิรินภา เจ้าสาวก็บอกว่า ไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้เลย โดยได้จัดงานที่บ้านของทางเจ้าสาว ม.2 ต.บางแก้ว อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ห้องที่ประกอบพิธีสงฆ์ ทำบุญเจริญพุทธมนต์ ตกลงไว้ว่าเป็นธีม ขาวเขียว แต่กลับได้ ขาวทอง ส่วนชุดที่รถน้ำสังข์ ตามแบบจะเนรมิตข้างตัวบ้านเป็นอีก 1 ห้อง ด้วยการจัดด้วยผ้าขาว แต่ถึงเวลาจริง กลับไม่มี ส่วนฉากหลัง ซุ้มดอกไม้น้อยมาก จากแบบเดิมที่ตกลงครั้งแรก ไม่ตรงตามที่ตกลงเอาไว้ ที่สำคัญไม่มีชื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาว ในส่วนของฉากกินเลี้ยง ฉากเดินเข้างาน และ ฉากถ่ายภาพ ไม่มีการประดับตกแต่ง เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานได้ถ่ายภาพกับซุ้มเป็นที่ระลึก ซึ่งมีแต่คนพูดว่าเข้ามาในงานแล้วไม่มีการประดับตกแต่งสถานที่ให้ ได้ถ่ายเลย ซึ่งแขกที่มาร่วมงานก็ยังไม่รู้ว่าตนเกิดปัญหาอะไร มีแต่คนสอบถามว่าไม่มีสถานที่ไว้ให้เป็นที่ระลึกได้เลย 

จนช่วงเช้าวันที่ 7 พ.ย. ทางร้านออแกไนซ์ ทางร้านได้ส่งข้อความมาขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บอกว่าเป็นอุบัติเหตุของงานที่เกิดขึ้น ทางร้านขอโทษและจะขอคืนมัดจำให้ 25,000 บาท ไม่มีการโทรมาขอโทษเพื่อแสดงความจริงใจแต่อย่างไร เหตุการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ตนเสียใจที่สุด โดยเฉพาะครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ ต่างร้องไห้เสียใจ เพราะเกิดความอับอายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แขกประมาณ 600 คน ที่มาร่วมงาน และเดินทางเข้ามาในงานต่างพูดกันว่า ไม่มีการจัดสถานที่อะไรเลย ไม่มีจุดถ่ายภาพหน้างาน และอีกอย่างหนึ่งที่ตนกับเจ้าบ่าวเสียความรู้สึกอย่างมาก ซึ่งทางเพื่อนที่ช่วยกันไปหาร้านเช่าชุดเจ้าสาวมาให้ ได้สอบถามไปยังร้านเวดดิ้งดังกล่าว ว่า จะให้ทางร้านรับผิดชอบในส่วนของค่าเช่าชุด แต่ทางร้านแจ้งว่า ไม่สามารถรับผิดชอบได้ เพราะทางร้านมีชุดแต่บ่าวสาวไม่เลือกใส่เอง และ “ทางร้านก็ยังคงอยู่จัดสถานที่ในงาน ดีไม่ปล่อยให้ทางเจ้าสาวไปฟ้องร้องค่าเสียหายเอาเอง” ทำให้ทั้งเจ้าบ่าว และ เจ้าสาวต่างรู้สึกตกใจและเสียใจเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก เหตุการณ์นี้ไม่น่ามาเกิดที่คู่ของตนเองเลย

นางสาวศิรินภา และ นายเอกวิทย์ คู่บ่าวสาว เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับทางร้านเวดดิ้งดังกล่าวให้ถึงที่สุด ที่ สภ.บ้านแกลม จ.เพชรบุรี 

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านเวดดิ้ง ตั้งอยู่ที่ทางเข้าตำบลหนองชุมพล อ.เข้าย้อย จ.เพชรบุรี พุดคุยกับ นายอาทิตย์ เจ้าของร้าน เล่าว่า ตนยอมรับผิดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความผิดพลาดของทางร้านเอง ที่ทางลูกน้องไม่สามารถเดินทางไปเก็บของที่ติดตั้งจัดงานแต่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ไม่สามารถจัดประดับตกแต่งซุ้มภายในงานได้ ตนยืนยันว่าไม่ได้ทิ้งงาน หรือ เทงานแต่อย่างไร แต่เพียงว่าไม่สามารถจัดงานให้เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ได้ ตนก็ยังคงอยู่ภายในบ้านของทางเจ้าสาว จัดประดับตกแต่งบ้านให้ดูสวยงาม ไม่ได้หลบหนี หรือทิ้งไปไหน ทำให้สามารถดำเนินพิธีจนจบ ตนก็เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน จัดงานมาหลายที่หลายงาน ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้เลย นับเป็นครั้งแรกที่ตนได้เจอเหตุการณ์ดังกล่าว ตนก็บอกกับทางเจ้าสาวว่า เมื่อเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องเดินหน้าไปให้จบงาน ทางร้านยินดีโอนเงินที่เก็บมัดจำล่วงหน้า 25,000 บาท คืนให้กับทางเจ้าสาว และไม่เก็บเงินเพิ่มแต่อย่างไร ทั้งหมดนี้จัดงานให้ฟรีเพื่อเป็นการขอโทษ ทั้งนี้ตนก็พยายามติดต่อทางฝ่ายเจ้าสาวเพื่อขอโทษ และ โอนเงินคืน เนื่องจากทางลูกค้ายังไม่ส่งช่องทางการโอนเงินคืนมาให้ หลังจากนี้ก็จะติดต่อพูดคุยกับทางลูกค้าอีกครั้งว่าจะหาทางออกที่ดีที่สุด