ตัวตึงนครพนม! หญิงวัย 74 ป่วนท่าเทียบเรือ บุกโรงพัก ขับกระบะชนรถตราโล่ท้าทายตำรวจ
หญิงวัย 74 อ้างท่าเทียบเรือไทยลาวสร้างความรำคาญ บุกทำลายทรัพย์สิน ล่าสุดขับกระบะไปโรงพัก พุ่งชนรถตราโล่ของตำรวจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม มีหญิงอายุ 74 ปี หรือชาวบ้านเรียกว่า ยายหล้า และให้ฉายามนุษย์ป้า บ้านพักอยู่ตรงข้ามท่าเทียบเรือไทยลาว ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ออกมาสร้างความปั่นป่วน แสดงอาการคล้ายคนป่วยจิต ด่ากราด เจ้าหน้าที่ ประชาชน นักท่องเที่ยว ที่เดินทางผ่านไปมา อ้างว่าสถานที่ท่าเทียบเรือไทยลาวดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับตนเอง จนเกิดปัญหาทะเลาะวิวาท ด่ากราดบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้า รถเข็น จนต้องยอมย้ายหนีไปขายที่อื่น เพราะเกิดความรำคาญ
โดยเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ยังได้บุกเข้าไปทำลายทรัพย์สิน พังประตู ภายในด่านท่าเทียบเรือไทยลาวเทศบาลเมืองนครพนม จนกระทั่ง นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนครพนม ได้มอบหมายให้ นายสุภวัฒน์ ทุมอาจ นิติกรสำนักงานเทศบาลเมืองนครพนม เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับมนุษย์ป้ารายนี้ ในฐานความผิดบุกรุกทำลายทรัพย์สินทางราชการได้รับความเสียหาย อยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินคดี
ทั้งนี้ เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ก็เคยสร้างความปั่นป่วนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งโรงพัก โดยมนุษย์ป้าอ้างว่าท่าเทียบเรือไทยลาว สร้างความรำคาญ ทำให้ไม่พอใจ จนกระทั่งเกิดสถานการณ์โควิด ด่านท่าเทียบเรือจึงปิดชั่วคราว ทำให้เงียบไประยะหนึ่ง จากนั้น มนุษย์ป้าได้กลับมาก่อเหตุป่วนอีกครั้ง หลังจากด่านท่าเทียบเรือกลับมาเปิดเป็นปกติเมื่อเดือนที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อบ่ายวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ก็ยิ่งป่วนหนัก ยายหล้า ได้ก่อเหตุขับรถยนต์กระบะส่วนตัว ไปที่ สภ.เมืองนครพนม และก่อเหตุขับรถพุ่งชนรถตราโล่ของทางราชการ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ที่จอดไว้หน้าสำนักงาน พร้อมประกาศให้เรียกค่าเสียหายมา โดยอ้างว่าตนมองไม่เห็น ก่อนขับรถออกไปจาก สภ.เมืองนครพนม กลับบ้าน
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน จึงได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.พยุง ศรีโฮง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อเป็นหลักฐาน ดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้าน พ.ต.อ.ณัฏฐวิชฌ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับกรณีดังกล่าว ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย หากมีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ จะมีการสอบสวนเป็นกรณีไป หากเข้าข่ายความผิดจะดำเนินคดีทางกฎหมายทันที ไม่ว่าจะเป็นกรณีบุกรุกทำลายทรัพย์สินทางราชการ หรือกรณีขับรถชนรถยนต์ของทางราชการ จะต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริง พิจารณาตามความผิด
นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้ตำรวจเกี่ยวข้อง สายตรวจ งานป้องกันปราบปราม คอยตรวจสอบดูแลพื้นที่เกิดปัญหา เพื่อควบคุมระงับเหตุ ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวจะต้องมอบหมายให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาดูแล ส่วนทางตำรวจ มีหน้าที่ดำเนินคดีตามกำหมายหากมีการกระทำผิด