ตร.เร่งคลายปม พบศพหญิงดับปริศนาในตู้แช่ สอบคนในครอบครัว พร้อมเก็บดีเอ็นเอ
สยอง! พบศพแม่ ดับปริศนาในตู้แช่แข็ง หลังลูกชายได้กลิ่นเหม็น จนท.เร่งคลี่คลายคดี
วานนี้(19 พ.ย. 65) ร.ต.อ.สงวน พ่วงพลอย รอง สว.(สอบสวน) สภ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุพบศพผู้เสียชีวิตในตู้แช่แข็งที่ชุมชนวัดปากสระพัฒนา หมู่ที่ 3 ต.วัดโบสถ์ ตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิสุทธิ์ คล้ายแสง ผกก.สภ.วัดโบสถ์ ร.ต.อ.วรุต จี่มุก นวท.สบ 1 กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 แพทย์เวร รพ.วัดโบสถ์ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงอยู่ในตู้แช่ไก่ ภาพศพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็น เนื่องจากตู้ดังกล่าวไม่มีการเสียบปลั๊ก อีกทั้งยังพบมีเทปกาวพันปากและศีรษะของผู้ตาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันนำร่างออกมาจากตู้แช่ ทราบชื่อคือ นางจันทิรา อายุ 58 ปี สวมเสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงขาสั้นสีเทา คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน ตำรวจจึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพส่งให้แพทย์ชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้งที่แผนกนิติเวช รพ.พุทธชินราช
นายอัครพล อายุ 33 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต เล่าว่า แม่มีอาการป่วยทางจิตเวชต้องกินยาอยู่เป็นประจำ และกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช เมื่อก่อนขายไก่ทอดอยู่ภายในหมู่บ้าน แต่พอป่วยก็ให้อยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้ทำงานอะไร มีพ่อและตนเองหาเลี้ยง ก่อนหน้านี้แม่มักจะชอบหนีออกจากบ้านหายตัวไปบ่อยๆ จนล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา
ด้าน นายธีรยุทธ สุวรรณพฤกษ์ อายุ 57 ปี สามีผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ยอมรับมีปากเสียงทะเลาะกับเมียจริง แต่เมียก็ไม่ถึงขั้นโกธรอะไรมาก เพราะยังทำกับข้าวให้กินตามปกติ นอกจากนี้เมียยังเป็นผู้ป่วยจิตเวช เคยกินยานอนหลับเกินขนาดเหมือนจงใจฆ่าตัวตายมาแล้วรอบหนึ่ง และยังชอบหนีออกจากบ้านอยู่บ่อยๆ จนกระทั่งวันนี้ลูกชายมาพบศพแม่อยู่ในตู้แช่ไก่
ขณะที่ พ.ต.อ.วิสุทธิ์ คล้ายแสง ผกก.สภ.วัดโบสถ์ เปิดเผยว่า แนวทางการสืบสวนได้ให้ความสำคัญกับคดีนี้เป็นพิเศษ เพราะยังไม่ทราบชัดเจนว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุใดกันแน่ ยังมีข้อเคลือบแคลงสงสัยในหลายๆ จุด และไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งการฆ่าตัวตายเอง หรือจะเป็นการฆาตกรรมอำพราง พร้อมได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีเก็บหลักฐานสำคัญในที่เกิดเหตุอย่างรอบคอบ รวมถึงจะเชิญบุคคลในครอบครัวขอเก็บดีเอ็นเอใช้เป็นหลักฐาน และเพื่อนบ้านข้างเคียงไปสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียด จึงต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานก่อนเพื่อคลี่คลายคดีนี้ ส่วนศพหลังจากส่งผ่าพิสูจน์ที่นิติเวชแล้วจะให้ญาติๆ รับกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
พ่อกับแม่มีปากเสียงทะเลาะกันแต่ก็ไม่รุนแรงอะไร จนวันที่ 15 พ.ย. แม่หายตัวออกไปจากบ้าน โดยทิ้งจดหมายไว้ถึงพ่อ ระบุข้อความว่า “ขอโทษที่เป็นเมียที่ดีไม่ได้ ต้องให้สามีตามใช้หนี้ให้ จะขอไปกรุงเทพฯ สามีจะได้สบายใจ” นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่แม่ไปกู้ยืมเงินนอกระบบ และถูกแก๊งเงินกู้โทรขู่โทรตามทวงหนี้จนทำให้เกิดความเครียดสะสม กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมาขณะที่ตนกำลังจะไปทำงานได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากตู้แช่ไก่ จึงเปิดออกดูก็ต้องตกใจสุดขีด เพราะพบศพของแม่สภาพขึ้นอืดเสียชีวิตอยู่ มีเทปกาวปิดปากและพันรอบศีรษะอีกด้วย