ปรับราคา วันที่สองคนหนีโทลล์เวย์

ปรับราคา วันที่สองคนหนีโทลล์เวย์

ปรับราคา วันที่สองคนหนีโทลล์เวย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถนนวิภาฯติดหนึบ ศาลยกคำร้องขอให้ระงับ!ขึ้นค่าผ่านทาง

ผู้ใช้รถมีทางเลือกอื่น ไม่จำเป็นต้องขึ้นถ้าเห็นว่าแพง ศาลปกครองกลาง ยกคำร้อง ขอให้ระงับขึ้นค่าโทลล์เวย์ ขณะที่บรรยากาศการขึ้นราคาวันแรก ทำให้ถนนวิภาวดีรังสิตเดี้ยง "รองฯภาณุ" คาดรถหนีลงพื้นราบกว่า 2 หมื่นคัน ทำให้ถนนวิภาวดีรถแน่นแต่ยังไร้ปัญหา เนื่องจากโรงเรียนหลายแห่งหยุด ด้าน ผู้การจราจร ระดมจราจรเพิ่มอีก แนะให้ออกจากบ้านเช้าขึ้น ทางด้าน "อภิสิทธิ์" ชี้ช่อง สั่งคมนาคมท้วงโทลล์เวย์ขึ้นราคา บอกมีเรื่องฟ้องร้องอยู่ อาจเข้าข่ายผิดสัญญา ส่วน "โสภณ" รุดตรวจเส้นทางพบไม่มีปัญหา สั่งวิศวกรรื้อแบริเออ เพิ่มพื้นที่จราจร ด้าน ปธ.ดอนเมืองโทลล์เวย์เผย รถหายไป 2.4 หมื่นคัน หรือ 31% แต่รายได้เพิ่ม 10% หรือประมาณ 4 แสนบาท ส่วน ขสมก.จ่อฟันรถร่วม หากขึ้นค่าโดยสารตามโทลล์เวย์

ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 08.40 น.วันที่ 22 ธ.ค. นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุม ครม.ถึง ปัญหาการจราจรบริเวณถนนวิภาวดีฯ หลังจากที่มีการขึ้นราคาค่าผ่านทางดอนเมือง-โทลล์เวย์เป็นวันแรก ว่า เท่าที่ได้รับรายงานการจราจรยังเป็นปกติ คนขึ้นโทลล์เวย์น้อยลง แต่การจราจรในถนนวิภาวดีฯก็ยังอยู่ในสภาพปกติ เพราะเราได้เปิดจุดประชาสัมพันธ์เพื่อ ไม่ให้ใช้ถนนวิภาวดีฯ โดยเราจะพยายามผลักรถไปวิ่งที่วงแหวนตะวันตก และตะวันออก ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเข้าวิภาวดีฯ เพื่อให้การจราจรมีความคล่องตัว ประชาชนก็จะไม่เดือดร้อน ทั้งนี้ทางกระทรวงได้จัดเจ้าหน้าที่ทางหลวงไปช่วยอำนวยความสะดวกด้านการ จราจร 120 คนทุกวัน จนกว่าจะกลับเข้าสู่สภาพปกติ ซึ่งเมื่อคนไม่ขึ้นโทลล์เวย์ ทาง บริษัทโทลล์เวย์ก็ต้องลดค่าผ่านทางลงมาอยู่ดี

เมื่อถามว่าจะมีการหารือกับบริษัทโทลล์เวย์อีกครั้งหรือไม่ นายโสภณ กล่าวว่า การหารือก็คือ การเจรจา และการเจรจาก็นำไปสู่การแก้สัญญา ซึ่งตั้งแต่เราเปิดใช้บริการตามสัญญา มีการแก้สัญญา 2 ครั้ง ต้องต่อสัมปทานไปถึง 20 ปี ทำให้เราเสียประโยชน์ "เราไม่มีนโยบายเจรจาแล้ว เพราะมันเป็นการขึ้นตามสัญญา"

ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อเวลา 14.30 น. เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคแถลงข่าวคัดค้านการปรับขึ้นราคาค่าทางด่วนโทลล์เวย์จาก 55 บาทเป็น 85 บาท ซึ่ง น.ส.สารี อ๋องสมหวัง จากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกล่าวว่า ทางเครือข่ายให้เวลานายกรัฐมนตรี 7 วันหลังจากนี้ ในการยกเลิกการปรับขึ้นราคาค่าทางด่วน โดยนายกรัฐมนตรีจะต้องสั่งการให้กรมทางหลวงยุติการอนุมัติขึ้นราคาในครั้ง นี้ หากเลยกำหนดไปจะไปยื่นฟ้องขอคุ้มครองชั่วคราวจากศาลปกครอง และจะฟ้องคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ที่ดำเนินการเห็นชอบการปรับขึ้นราคาโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน

น.ส.สารี กล่าวต่ออีกว่า การอนุมัติขึ้นราคาค่าทางด่วนโทลล์เวย์นี่ถือว่ารัฐบาลละเลยการคุ้มครองตาม เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในมาตรา 61 และมาตรา 57 วรรค 2 ที่กำหนดให้รัฐบาลต้องฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนที่จะมีการดำเนินการใด ๆ สำหรับข้ออ้างที่รัฐบาลอ้างว่าจำเป็นต้องขึ้นราคา เพราะอาจถูกเอกชนฟ้องร้องได้นั้นถือว่ารัฐบาลรักษาผลประโยชน์ของเอกชน มากกว่าผลประโยชน์ของประชาชน ดังนั้นขอเรียกร้องให้ประชาชนที่ขึ้นทางด่วนโทลล์เวย์ เปิดไฟหน้ารถเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยในการปรับขึ้นราคาครั้งนี้

"ราคาที่เหมาะสมควรจะกำหนดเพียงแค่ 10% ของรายได้ปกติต่อวันของประชาชน ที่จริงในต่างประเทศราคาการใช้ทางด่วนจะถูกลงเรื่อย ๆ หลังจากใช้เป็นเวลานาน แต่ของประเทศไทยกลับแพงไปเรื่อย ๆ แทน ถือว่าแปลกประหลาดอย่างมาก" น.ส.สารี กล่าว

ทางด้าน น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ตัวแทนเครือข่ายผู้บริโภคภาคตะวันตก กล่าว ว่า การที่ นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ให้ประชาชนงดขึ้นทางด่วนโทลล์เวย์ เป็นเวลา 10 วัน ทางบริษัทเอกชนก็จะปรับราคาลงมาเองนั้น ตนรับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง หากคิดได้แค่นี้ก็ควรกลับไปทำงานที่ท่านเคยทำก่อนจะมาเป็นรัฐมนตรีเสียยังดี กว่า รัฐบาลต้องหาให้ได้ว่า ใครเป็นผู้รับผิดชอบในสัญญากับบริษัทเอกชนนี้ ทำไมถึงปล่อยให้มีการทำสัญญาแบบนี้เกิดขึ้น ตนไม่เห็นด้วยในการปรับขึ้นราคาครั้งนี้ และหากรัฐบาลยังไม่มีมาตรการใด ๆ ตนจะเดินทางไปฟ้องทุกศาล และหากยังไม่มีการตอบรับจากรัฐบาล หลังปีใหม่พวกตนก็จะเดินทางไปที่กระทรวงคมนาคมเพื่อพบ นายโสภณ ซารัมย์ รมว. คมนาคม

ทางด้าน พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานจราจร กล่าวภาย หลังเดินทางไปตรวจสภาพการจราจรบริเวณด่านขึ้นทางด่วนโทลล์เวย์ ซึ่งมีการปรับราคาค่าผ่านทางเป็นวันแรก ว่า ถนนวิภาวดีฯ มีรถหนาแน่นเต็มตลอดสาย มีผลกระทบถนนข้างเคียงคือ ถนนแจ้งวัฒนะทั้งสองฝั่ง และถนนงามวงศ์วานทั้งสองฝั่งที่จะเข้าสู่ถนนวิภาวดีฯ มีปัญหารถเข้ามาได้ช้าไปด้วย รวมทั้งถนนพระราม 9 มาใต้ทางด่วนดินแดง ก็ค่อนข้างจะยาว วันนี้เราให้ทาง สน.พญาไท ดินแดง และ บางซื่อ เน้นเอารถออกจากถนนวิภาวดีฯ ให้เร็วที่สุด ทำให้ถนนวิภาวดีฯ วันนี้ยังพอเคลื่อนตัวไปได้ แถวที่เข้าใต้ทางด่วนดินแดง คงระดับอยู่แถวหน้า รร.สุรศักดิ์มนตรีถึง วปอ. วันนี้คาดว่ารถจะเต็มเร็ว แต่หมดช้า

ส่วนบนโทลล์เวย์วันนี้ ไม่ปรากฏ ท้ายแถวที่เคยสะสม 500-600 เมตร เชื่อว่าเป็นผลมาจากคนเลี่ยงไม่ใช้เส้นทางโทลล์เวย์ สำหรับการประชาสัมพันธ์ของโทลล์เวย์ ใช้ป้ายผ้าติดประกาศการขึ้นค่าผ่านทางเอาไว้ ที่หน้าด่านทุกด่าน ซึ่งจะมีช่องทางเปิดให้ออกเฉพาะด่านใหญ่ ๆ เท่านั้น ด่านเล็กจะไม่มี อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหลังจากปีใหม่ไปแล้ว ประชาชนจึงจะเริ่มกลับมาใช้ เนื่องจากมีนักเรียนบางส่วนหยุดสอบกัน บางส่วนก็เลี่ยงเดินทางออกต่างจังหวัดช่วงปีใหม่ พอหลังจาก ปีใหม่ไปแล้ว ในช่วงเช้ามีความจำเป็นเร่งด่วนอาจจะยอมเสียค่าผ่านทางโทลล์เวย์เข้ามาใน เมือง แต่ตอนเย็นอาจจะประหยัดด้วยการหลบไปวิ่งพื้นราบ เพราะไม่ต้องเร่งด่วนเดินทางกลับมาก การหลบเลี่ยงเส้นทางก็จะส่งผลกระทบ ซึ่งจะทำให้ถนนพหลโยธิน และโลคัลโรด จะมีปัญหาสะดุดบ่อย

สำหรับรถที่หนีไม่ใช้โทลล์เวย์ ตลอดวันน่าจะมีประมาณ 2 หมื่นคันได้ อย่างไรก็ตามตำรวจพร้อมปฏิบัติตลอดเส้นทางขา ออกวิภาวดีฯ ดูแลให้การจราจรไม่สะดุด จะเฝ้าไปตลอด โดยมี สน.วิภาวดี รับผิดชอบโดยตรง และมี สน.วิภาวดี, ทุ่งสองห้อง, ดอนเมือง และพหลโยธิน ช่วยดึงรถออกจากถนนวิภาวดีฯ ให้เร็วที่สุด ซึ่งถนนวิภาวดีฯ จะมีปริมาณรถมากกว่าช่วงเย็น เพราะเช้าจะเข้ามาพร้อม ๆ กัน ส่วนช่วงเย็นทยอยออก เริ่มตั้งแต่ 4 โมงเย็น ถึง 2 ทุ่มจึงจะหมด

พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสอาด ผบก. จร. เปิดเผยว่า การจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิต ขาเข้าในช่วงเช้าหนาแน่นจากเดิมมากแต่ยังเคลื่อนตัวได้ โดยรถเริ่มหนาแน่นตั้งแต่เวลา 06.30 น. ทั้งนี้รถส่วนใหญ่ใช้เส้นทางถนนวิภาวดีรังสิตเป็นหลัก มีส่วนน้อยมากที่ขึ้นใช้ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ สังเกตได้จากที่ด่านดอนเมือง ปกติจะมีรถชะลอตัวเข้าด่านเป็นจำนวนมาก แต่วันนี้กลับบางตา มีแต่พวกรถตู้โดยสารที่ขึ้นใช้บริการ ทำให้ถนนที่ตัดถนนวิภาวดีรังสิต อาทิ ถนนงามวงศ์วาน ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนพหลโยธิน มีการจราจรหนาแน่นขึ้นโดยมีท้ายแถวรอเข้าถนนวิภาวดีรังสิตยาวขึ้น ทั้งนี้ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่จราจรกลาง 76 นาย จัดจราจรตลอดเส้นทางถนนวิภาวดีฯ เตรียมรถยก 6 คัน รองรับเหตุรถเสีย พร้อมประสานท้องที่ สน.ดินแดง และพญาไท ให้ช่วยเร่งระบายรถด้านในเมืองเพื่อรับรถจากนอกเมือง จึงทำให้การจราจรเคลื่อนตัวได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามอยากแนะนำประชาชนที่อาศัยอยู่ในย่านรังสิต หากต้องการเดินทางได้สะดวกรวดเร็ว ควรออกจากบ้านเร็วขึ้นจะเดินทางเข้าเมืองได้เร็วกว่าเวลาปกติ ก็จะลดปัญหาจราจรได้ในระดับหนึ่ง

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในการประชุม ครม. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้หยิบยกเรื่องการขึ้นค่าผ่านทางด่วนโทลล์เวย์มาหารือใน ครม. โดยกล่าวว่า จากข้อตกลงข้อที่ 6 ปี 2550 กำหนดไว้ให้ยุติการเรียกร้อง และฟ้องร้องทั้งหลาย แต่ตอนนี้ยังมีเรื่องที่ บริษัท วอเตอร์ บราว ฟ้องรัฐในเรื่องดังกล่าวอยู่ ซึ่งเท่ากับว่าเราไม่จำเป็นต้องให้ขึ้นค่าผ่านทางใช่หรือไม่ จึงขอให้ทางกระทรวงคมนาคมไปทักท้วงในเรื่องนี้ เพราะถือว่าเขาไม่ปฏิบัติตามสัญญาหรือไม่ เนื่องจาก ยังมีเรื่องฟ้องร้องเราอยู่ อย่างน้อยจะได้มีหลักฐานปักเอาไว้ก่อน เผื่อในอนาคตมีการฟ้องร้องศาลปกครองจะได้นำเรื่องนี้มาต่อสู้ได้ ซึ่งถ้าบริษัท วอเตอร์ บราว เป็นส่วนหนึ่งหรือเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย ในบริษัทดอนเมืองโทลล์เวย์ ก็แสดงว่าโทลล์เวย์ทำผิดข้อตกลงปี 50 ที่กำหนดว่าจะยุติการฟ้องร้อง แต่ถ้าบริษัท วอเตอร์ บราว ไม่เป็นส่วนหนึ่งของดอนเมืองโทลล์เวย์ เขาก็ไม่มีสิทธิฟ้องร้องรัฐ ซึ่งไม่ว่าจะออกมาอย่างไร ก็จะเป็นผลดีต่อประเทศเราทั้งนั้น

นางจิตตรา ศรีรุ่งเรือง ผช.ผอ.ฝ่ายรถเอกชนร่วมบริการ ขสมก.เปิดเผยว่า ในส่วนของรถร่วมบริการที่ขึ้นทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ มี 3 สาย ได้แก่ รถโดยสาร สาย 187, 534 และ 504 รวมถึงรถตู้โดยสารจำนวนหนึ่งจะให้เป็นข้ออ้างขอเก็บค่าโดย สารเพิ่มจากเดิมไม่ได้โดยเด็ดขาด ซึ่งขณะนี้ได้มีหนังสือคำสั่งแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบแล้ว ทั้งนี้การปรับขึ้นราคาทุกครั้ง ขสมก. หรือรถร่วมบริการ ไม่สามารถปรับขึ้นเองได้ จะต้องเสนอคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง พิจารณาก่อนทุกครั้ง สำหรับรถเอกชนร่วมบริการ และรถตู้ รายใดฝ่าฝืนจะถอนใบอนุญาตทันที ถ้าผู้ใช้บริการมีข้อสงสัย และมีปัญหาร้องเรียน สามารถโทรฯแจ้งได้ที่หมายเลข 184 เวลา 06.00-21.00 น.

ทางด้าน นายสมบัติ พานิชชีวะ ประธานกรรมการบริหาร บ.ทางยกระดับดอนเมือง จก. ให้สัมภาษณ์ในรายการทีวี ระบุว่า ค่าผ่านทางโทลล์เวย์ในขณะนี้ ถือว่าถูกมาก ๆ และการขึ้นค่าผ่านทางในครั้งนี้ถือว่าเป็นธรรมแล้ว เพราะถ้าเทียบกับทางด่วนแล้ว เราเก็บถูกกว่าด้วยซ้ำในระยะทางเท่ากันทำไมไม่เห็นมีใครบ่น ที่เราขึ้นเป็น 85 บาทจึงถือว่าเป็นธรรม และเป็นราคาที่ประชาชนรับได้ ส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งก็ใช้หนี้ อีกส่วนหนึ่งก็จะคืนให้ผู้ถือหุ้น และเก็บไว้ในอนาคต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองกลาง ได้พิจารณากรณีคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน และขอให้ศาลมีกำหนดมาตรการ หรือวิธีการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการขึ้นราคาค่าทางด่วนโทลล์เวย์ไว้ก่อนจนกว่าศาลจะ มีคำสั่งถึงที่สุด หลังจากศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การปรับขึ้นค่าผ่านทางด่วน เป็นการปรับขึ้นตามข้อตกลงที่กำหนดในสัญญา ระหว่างอธิบดีกรมทางหลวง และบริษัททางยกระดับ ดอนเมือง จำกัด ซึ่งทางอธิบดีกรมทางหลวงไม่อาจใช้ดุลพินิจกำหนดอัตราค่าทางด่วนเป็นอย่าง อื่นได้ อีกทั้งทางด่วนโทลล์เวย์ก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน เท่านั้น หากผู้ถูกฟ้องคดีไม่ประสงค์จะใช้ทางด่วนโทลล์เวย์ ก็สามารถใช้ถนนตามทางปกติได้ ดังนั้น จึงเห็นว่ากรณีดังกล่าวถ้าศาลมิได้กำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองใด ๆ เพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาก็ไม่ทำให้ผู้ถูกฟ้องคดีเกิดความ เสียหายที่ยากแก่การ เยียวยาแก้ไขจึงไม่ใช่กรณีที่ศาลจะมีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครอง ใด ๆ เพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา จึงมีคำสั่งยกคำขอดังกล่าว

ที่กระทรวงคมนาคม เมื่อเวลา 15.30 น. นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. ได้หารือเกี่ยวกับปัญหาการปรับค่าผ่านทางโครงการดอนเมืองโทลล์เวย์ โดยเฉพาะการนำบันทึกข้อตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญา ลงวันที่ 12 ก.ย. 50 ข้อ 6 ที่ระบุว่าผู้รับสัมปทานตกลงจะยกเลิกข้อเรียกร้องการฟ้องร้องคดีต่อศาล และหรือข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการที่เกิดขึ้น หรืออาจเกิด ขึ้นทั้งหมด จะต้องถอนฟ้อง หรือถอนข้อพิพาทให้หมดสิ้นภายใน 30 วัน ไม่เช่นนั้นกรมทางหลวง มีสิทธิยกเลิกข้อตกลงฉบับนี้ได้ ทำให้เห็นว่า ยังมีช่องทางในการต่อสู้ได้ จึงสั่งการให้กรมทางหลวงชี้แจงรายละเอียดเรื่องนี้และตั้ง นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานตรวจสอบการแก้ไขสัญญาที่ผ่านมาให้สรุปผลภายใน 1 เดือน

ด้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องพิจารณาข้อกฎหมายให้รอบคอบ เพราะในข้อตกลงฉบับเดียวกันนี้ ในข้อ 5 กำหนดว่าการปรับค่าผ่านทางซึ่งเอกชน ได้เสนอเป็นตารางการปรับค่าผ่านทางทุก 5 ปี ตั้งแต่ปี 52 ไปถึงปี 57 โดยระบุว่า ผู้รับสัมปทานไม่ต้องขออนุญาตจากกรมทางหลวง แต่ต้องแจ้งให้กรมทางหลวงทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน และมีการประกาศและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบล่วงหน้าเป็นเวลาพอสมควร ซึ่งถือว่าเอกชนได้ดำเนินการตามเงื่อนไขนี้แล้วเช่นกัน

ต่อมาเวลา 17.00 น. นายโสภณ พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม และสื่อมวลชนได้ไปตรวจสอบสภาพการจราจรตลอดแนวเส้นทางของโครงการดอนเมือง โทลล์เวย์ และบริเวณด้านล่างถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นชั่วโมงเร่งด่วนพบว่า การจราจรมีความคล่องตัว ยกเว้นบริเวณจุดที่เป็นทางเข้าออก จึงได้มอบหมายให้วิศวกรของกรมทางหลวงดำเนินการออกแบบ เพื่อหาเปิดช่อง บล็อกคอนกรีต (แบริเออ) มากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับรถที่จะเข้าออกได้มากขึ้น และให้ประสานอาสาสมัครจราจรมาช่วยเหลือ

เมื่อเวลา 18.00 น. นายสมบัติ พา นิชชีวะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมืองฯ กล่าวว่า หลังเริ่มใช้ค่าผ่านทางใหม่เป็นวันแรก พบว่าปริมาณจราจรลดลงประมาณ 31% หรือ 2.4 หมื่นคัน จากเดิมที่มีผู้ใช้บริการวันละประมาณ 8 หมื่นคัน ส่วนรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 10% หรือประมาณ 4 แสนบาท จากเดิมที่มีรายได้วันละประมาณ 4 ล้านบาท แต่คาดว่าในระยะต่อไป ปริมาณจราจรจะกระเตื้องขึ้น เพราะผู้ใช้บริการจะเห็นว่าการใช้โครงการดอนเมืองโทลล์เวย์ จะคุ้มค่าและสะดวกกว่าใช้ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งมีปัญหาจราจรแออัด ส่วนกรณีการฟ้องร้องของบริษัทวอเตอร์บาวด์ ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยให้จ่ายค่าเสียหาย 29 ล้านยูโรนั้น ต้องเข้าใจว่าเป็นการฟ้องร้องในฐานะนักลงทุนจากเยอรมนีที่มาลงทุนในประเทศ ไทย แต่ไม่ได้เป็นการฟ้องร้องในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัทแต่อย่างใด เพราะประเทศไทยมีข้อตกลงกับเยอรมนี จะเห็นได้ว่ามีนักลงทุนจากฝรั่งเศสถือหุ้นในบริษัท แต่ไม่ได้ฟ้องร้องใด ๆ เพราะไทยไม่มีข้อตกลงคุ้มครองนักลงทุนจากฝรั่งเศส

ทางด้าน พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสอาด ผบก.จร. เปิดเผยว่าในช่วงเย็น การจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออกเมือง มีปริมาณรถหนาแน่นกว่าปกติ แต่ไม่แน่นเท่าในช่วงเช้า เนื่องจากรถทยอยกันออก ไม่เร่งเข้าเมืองเหมือนในตอนเช้า ส่วนรถบนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ มีปริมาณรถเบาบาง ถือเป็นสถานการณ์ที่ไม่น่ากังวล อย่างไรก็ตามตนได้เตรียมพร้อมจัดจราจรบนถนนวิภาวดีฯไว้เป็นพิเศษแล้ว ในช่วงวันที่ 29-30 ธ.ค.นี้ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่จะเดินทางออกจาก กรุงเทพฯ อาจเกิดปัญหาการจราจรติดขัดได้

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนทางโทรศัพท์ว่า รถตู้ที่ขึ้นทางโทลล์เวย์ ได้เรียกค่าโดยสารเพิ่ม 5 บาทต่อคน ในขณะที่รถร่วม ขสมก. สาย 538 วิ่งระหว่าง ราชมงคลคลอง 6 ถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ ขึ้นโทลล์เวย์ เก็บค่าโดยสารเพิ่มขึ้นอีกคนละ 1 บาท จาก 20 บาทเป็น 21 บาท โดยให้เหตุผลว่า ต้องเสียค่าโทลล์เวย์เพิ่มนั่นเอง.

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook