หนุ่มเพิ่งเริ่มทำงาน 3 เดือน หัวหน้าหลอกจ่ายมื้อหรู 5 หมื่นบาท ยืนยันคำนี้รอดมาได้
หนุ่มออฟฟิศเพิ่งเริ่มทำงาน 3 เดือน หัวหน้าพาเข้าร้านหรู หลอกเลี้ยงข้าว 5 หมื่น ขอบคุณ "ความจน" ช่วยรอดพ้นจากหายนะ
หนุ่มฮ่องกงโพสต์เล่าชีวิตพนักงานเงินเดือน เจอเรื่องไม่คาดฝันหลังจากเพิ่งเข้ามาทำงานบริษัทได้ไม่ถึง 3 เดือน เมื่อหัวหน้างานพาไปร้านสเต็กระดับไฮเอนด์ และเนื่องจากเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ กำลังลาพักร้อน ดังนั้นเขาจึงต้องไปกับหัวหน้างานเพื่อพบปะลูกค้า 4 คน โดยมีการสั่งอาหารมากมายมาบนโต๊ะ พร้อมกับไวน์แดงราคาแพง ก่อนเช็กบิลรวมกว่า 10,000 หยวน (ประมาณ 50,000 บาท)
และเมื่อมื้ออาหารสิ้นสุดลง จู่ๆ หัวหน้างานก็เดินตามเขาไปที่ห้องน้ำ ขอให้เขาจ่ายบิลก่อน แล้วจะเบิกเงินจากบริษัทมาคืนให้ในภายหลัง แต่เขาปฏิเสธทันทีโดยโต้แย้งว่าเขามีเงินสดไม่พอ และบัตรเครดิตมียอดคงเหลือเพียง 10,000 หยวน (ประมาณ 50,000 บาท) แต่หัวหน้างานยังคงไล่ตามเขาและพูดว่า "พออยู่แล้ว! กินอาหารและดื่มไวน์อีกหน่อยยังได้”
เขารับรู้ได้ถึงสถานการณ์ที่ผิดปกติ จึงบอกไปว่าจริงๆ แล้ววงเงินที่เหลืออยู่ในบัตรมีที่ใช่ได้ไม่เท่าไหร่แล้ว แม้จะได้ยินดังนั้นแล้ว แต่หัวหน้างานก็ยังบอกให้ออกไปเบิกเงินสดมา เขาถึงมั่นใจว่าทั้งหมดเป็นกลอุบาย และเขาถูกหลอกมาเพื่อให้จ่ายค่าอาหาร จึงยืนยันไปว่าในบัญชีธนาคารก็ไม่มีเงินเพียงพอสำหรับอาหารมื้อนี้ และนั่นทำให้เขาถูกตำหนิจากหัวหน้า ก่อนที่สุดท้ายหัวหน้าต้องโทรหาเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ แต่ก็ไม่มีใครรับสายเลย
และในระหว่างช่วงเวลาที่น่าอายนี้ ลูกค้าคนหนึ่งก็ได้เข้ามาในห้องน้ำ ถามว่าพวกเรากำลังทำอะไรกันอยู่ พร้อมบอกว่าหัวหน้าของตนได้จ่ายเงินค่าอาหาร และออกไปจากที่นี่แล้วเพราะมีธุระด่วนต่อ ซึ่งเขาสังเกตได้ว่าหัวหน้างานมีท่าทีโล่งใจ แต่ยังคงพูดตอบกลับอีกฝ่ายไปอย่างรักษามารยาทว่า "พวกคุณเป็นลูกค้าของบริษัท จะเป็นฝ่ายจ่ายค่าอาหารได้อย่างไร”
ในวันรุ่งขึ้น เขาบังเอิญพบกับเพื่อนร่วมงานที่ไม่รับโทรศัพท์จากหัวหน้างานเมื่อคืน และเมื่อได้พูดคุยจึงรู้ว่าอีกฝ่ายจงใจไม่รับสาย พร้อมทั้งบอกด้วยว่าจริงๆ แล้วหัวหน้างานเป็นคนมี “หนี้สิน” และเคยยืมเงินเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ “บางคนยังไม่ได้คืน” แม้ว่าบริษัทจะอนุญาตให้พนักงานเบิกค่าอาหารที่เกี่ยวข้องกับการทำงานได้ แต่หัวหน้างานก็มักจะขอให้พวกเขาชำระเงินล่วงหน้า จากนั้นก็ขอเบิกบริษัทในชื่อของตนเอง โดยไม่คืนเงินให้กับเพื่อนร่วมงานที่ออกเงินไปก่อน เขาตกใจมากเมื่อได้ยินสิ่งนี้ และพูดว่า "โชคดีที่บัตรของผมมีวงเงินไม่พอจริงๆ มันช่วยผมให้รอดพ้นจากหายนะ"