แตกตื่น ชายขับกระบะขนน้ำมัน 6 แกลลอน จุดไฟ ก่อนพุ่งชนประตูสำนักงานบังคับคดี
แตกตื่น ชายขับกระบะขนน้ำมัน 6 แกลลอน จุดไฟ ก่อนพุ่งชนประตูสำนักงานบังคับคดี ทำให้เกิดไฟไหม้รถ คาดเจตนาก่อเหตุ
เมื่อเวลา 11.00 น. (23 พ.ย.65) พ.ต.ท.ธนัช นครไธสง สารวัตรเวร สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุรถยนต์กระบะ พุ่งชนประตูเหล็กด้านหน้าสำนักงานบังคับคดีจังหวัดบุรีรัมย์ แล้วตัวรถพุ่งเข้าไปใต้อาคาร เกิดเสียงดังคล้ายระเบิด 2 ครั้งก่อนจะมีเปลวไฟลุกไหม้ภายในตัวรถยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นคนขับ 1 ราย จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะประสานหน่วยกู้ภัยฯ เข้าดับไฟ และให้การช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่ง รพ. เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ดเรนเจอสี่ประตู สีขาว ด้านหน้าอยู่ใต้อาคาร ตัวรถอยู่บริเวณลานปูนด้านหน้าอาคาร กันชนหน้าฝั่งขวาได้รับความเสียหายเนื่องจากพุ่งชนประตูเหล็ก บริเวณเบาะรถด้านหลังคนขับมีไฟลุกไหม้
และพบคนขับทราบชื่อภายหลัง คือ นายมานพ อายุ 58 ปี เป็นชาว อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ติดอยู่ที่เบาะคนขับ สร้างความตื่นตกใจให้กับเจ้าหน้าที่และประชาชนที่มาติดต่อราชการภายในสำนักงานบังคับคดี จากนั้น รปภ. และเจ้าหน้าที่บังคับคดีก็ได้รีบนำถังเคมีดับเพลิงฉีดพ่นดับไฟที่ลุกไหม้รถยนต์หมดไป 6-7 ถัง ขณะเจ้าหน้าที่อีกคนก็ได้รีบช่วยเหลือนำตัวคนขับออกจากรถในสภาพที่หมดสติ คาดว่าน่าจะสูดดมกลิ่นควันเข้าไป ก่อนที่หน่วยกู้ภัยจะนำตัวส่ง รพ.บุรีรัมย์ ล่าสุดอาการยังโคม่า ขณะที่ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับพนักงานสอบสวน
ซึ่งจากการตรวจสอบภายในรถยนต์คันเกิดเหตุ พบขวดเหล้าขาวที่ถูกเปิดดื่มไปแล้ว 1 ขวด ตั้งอยู่ช่องเก็บของข้างคนขับ พร้อมเงินจำนวนหนึ่ง บนเบาะด้านหลังฝั่งคนขับพบผ้าขนหนู 2 ผืน กระเป๋าสำหรับใส่เอกสารสีดำ 1 ใบ ที่วางเท้ายังพบแกลลอนน้ำมัน 2 แกลลอน เปิดใช้แล้ว 1 แกลลอน , พลุไฟ 3 แท่ง ใช้แล้ว 1 แท่ง , ประทัด 1 กล่อง ทั้งนี้ด้านหลังกระบะยังพบแกลลอนบรรจุน้ำมัน 3 แกลลอน เปิดฝาทิ้ง 2 แกลลอน ยังไม่เปิด 1 แกลลอน แต่ยังมีน้ำมันเต็มทุกแกลลอน ส่วนสำนักงานบังคับคดีมีเพียงประตูเหล็กด้านหน้าที่ถูกรถพุ่งชนได้รับความเสียหายเล็กน้อย
สอบถามเจ้าหน้าที่ รปภ.ประจำสำนักงานบังคับคดี เล่าว่า ขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกให้กับคนที่เข้าไปติดต่อราชการตามปกติ ซึ่งจะเปิดประตูเหล็กด้านหน้าให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่พอเดินเข้า-ออก ได้เท่านั้น ไม่อนุญาตให้นำรถเข้าไปจอดด้านใน แต่จู่ๆ รถคันดังกล่าวก็พุ่งชนประตูเหล็กสำนักงานเข้าไปอยู่ใต้อาคาร แล้วเกิดไฟลุกไหม้ภายในรถ สร้างความตื่นตกใจให้กับเจ้าหน้าที่และประชาชนที่มาติดต่อราชการ จากนั้นจึงรีบนำถังดับเพลิงที่อยู่ในสำนักงานมาฉีดดับไฟ และมีเจ้าหน้าที่พากันช่วยคนขับที่ติดภายในรถออกมา แล้วรีบแจ้งหน่วยกู้ภัยมารีบตัวคนเจ็บส่ง รพ.เพราะหมดสติ ส่วนสาเหตุตนเองไม่ทราบ
ด้าน นายสมเกียรติ อายุ 55 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะกำลังนั่งรอพี่สาวอยู่ด้านหน้าสำนักงาน ก็เห็นรถกระบะคันดังกล่าวขับพุ่งชนประตูเหล็กแล้วได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 2 ครั้ง ก่อนเกิดไฟลุกไหม้ที่เบาะด้านหลังคนขับ ก็ตกใจรีบพากันวิ่งออกไปข้างนอกรั้วสำนักงาน เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จากที่เห็นมีทั้งแกลลอนน้ำมันด้านในรถและกระบะท้ายรวมถึงพลุประทัดในรถ ก็คิดว่าน่าจะตั้งใจมาก่อเหตุอะไรสักอย่าง ไม่น่าจะเป็นอุบัติเหตุธรรมดา
จากเหตุการณ์ดังกล่าวเชื่อว่านายมานพ มีเจตนาขับขี่รถยนต์พุ่งชนประตูรั้วของสำนักงานบังคับคดี โดยสาเหตุน่าจะเกิดจากความเครียดจากการถูกบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินของตนและภรรยา จนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะก่อนหน้านี้เคยทำเรื่องร้องขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว น่าจะเป็นเหตุจูงใจที่ตัดสินใจขับรถยนต์บรรทุกแกลลอนน้ำมันและจุดไฟ พุ่งชนประตูรั้วของสำนักงานบังคับคดีจนได้รับความเสียหาย ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้ทำการสอบปากคำผู้บาดเจ็บ และผู้ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง