โชเฟอร์แน่นะวิ! หนุ่มอึ้ง คนขับแท็กซี่แต่งตัวเซอร์ เสื้อผ้าขาดวิ่น กลิ่นสารระเหยคลุ้ง

โชเฟอร์แน่นะวิ! หนุ่มอึ้ง คนขับแท็กซี่แต่งตัวเซอร์ เสื้อผ้าขาดวิ่น กลิ่นสารระเหยคลุ้ง

โชเฟอร์แน่นะวิ! หนุ่มอึ้ง คนขับแท็กซี่แต่งตัวเซอร์ เสื้อผ้าขาดวิ่น กลิ่นสารระเหยคลุ้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โชเฟอร์แน่นะวิ! หนุ่มอึ้ง คนขับแท็กซี่แต่งตัวอย่างเซอร์ เสื้อผ้าขาดวิ่น กลิ่นสารระเหยคลุ้ง คาดจัดหนักมาเต็มคาราเบล 

จากกรณี ผู้ใช้ TikTok ชื่อ @oh_reanroohstory ได้โพสต์คลิปวbดีโอ ความยาว 1 นาที 13 วินาที เกี่ยวกับโชเฟอร์รถแท็กซี่รายหนึ่ง ที่สภาพการแต่งกายไม่สุภาพ เสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ย แถมเปิดเพลงเสียงดัง และมีอาการคล้ายคนมึนเมาสารระเหย พร้อมลงข้อความว่า

"ความเหี้_ของชีวิตวันนี้ (โมโหจริง) แต่ก็ทำไรไม่ได้กลัวตาย (จะรีบแค่ไหนคุณเช็กคนขับก่อน โดยเฉพาะผู้หญิง) วันนี้เวลาตี 5.30 โดยประมาณ (ถนนสุขสวัสดิ์) โบกแท็กซี่เพราะต้องรีบไปถ่ายงานแต่เช้าก็ถามปกติว่าไป ... คนก็พยักหน้าและนี่ก็ไม่ได้สนใจเรื่องการแต่งกายใด ๆ เพราะว่าเป็นคนง่าย ๆ ไม่ซีเรียส !!!"

"คนขับจริง ๆ ใช่ไหมฮัลโหลล กลิ่นกาวหรือทินเนอร์อึบมากไม่แน่ใจ ล็อกกระจกด้วย ไปไม่ถึงไหน มิเตอร์ 37 บาท ให้ 100 บาท ให้ทอน 60 บาท รวยซะด้วยมีแบงค์ 20 ใบเดียว เส้นสุขสวัสดิ์ ตี 5 เพลงแม่งเอาฉิบหาย"

ล่าสุด (23 พ.ย.65) เมื่อเวลา 20.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ นายพลเดช หรือ โอ อายุ 25 ปี โดยเล่าว่า เหตุการณ์เกิดเมื่อเช้ามืด ของวันที่ 13 พฤศจิกายน วันนั้นมีไปถ่ายงานแต่เช้าแล้วด้วยความที่เราเร่งรีบ ในวันนั้นขึ้นรถ 3 คัน แต่ว่าคันแรกลุงเขาใจดีเราเรียกแล้วเขาก็รีบมารับบอกว่ากลัวเราจะเสียความรู้สึก เขาเลยรับเราขึ้นมาแล้วบอกว่าเดี๋ยวลุงขอเติมก๊าซก่อน แต่เรารีบเลยบอกว่าไม่สามารถรอได้ ลุงเขาก็บอกว่าโอเคเดี๋ยวถ้างั้นลงที่หน้าปั๊ม แถวการไฟฟ้านครหลวง ลุงไม่คิดตังค์ ทีนี้ก็มาเจอเจ้าตัวปัญหานี้แหละ จู่ๆ เขาก็ขับมาเหมือนจะเข้าปั๊ม เป็นรถอัลติสสีเหลือง สภาพสวยงามไม่ดูแย่เลย ตอนแรกเหมือนปิดว่างเพื่อที่จะเข้าปั๊ม แต่จู่ๆ เปิดไฟว่าง เขาไหลมาหาเรา เราก็โบก พอโบกปุ๊บเราก็ถามเขาว่าไปวัดแหลม อ.พระสมุทรเจดีย์ ไหม ซึ่งมันอยู่ไกลจากตรงตึกนั้นมาก เขาบอกเขาไป

รถมีกลิ่นสารระเหย แต่โชเฟอร์กดล็อกไม่ให้ลดกระจกลง

ด้วยความที่เรา หนึ่งก็รีบ สองมันเช้ามืดรถจะไม่ค่อยมี เราก็ขึ้น พอขึ้นไปเสร็จปุ๊บ ตอนแรกเราคิดว่ามันเป็นกลิ่นปกติของรถ แต่นั่งไปแป๊บเดียว กลิ่นมันแรงมาก เราก็ลดกระจกลง แต่เหมือนไม่มีสติ ก็ค่อนข้างที่จะเมา เขาก็ถามผมว่าไอ้ที่จะไปเนี่ยตรงไปใช่ไหม ถามอยู่ประมาณ 3 รอบ ผมก็เริ่มมีอารมณ์แล้ว บอกว่าพี่รู้ทางหรือเปล่า ถ้าพี่ไม่รู้ทางก็บอกผมเดี๋ยวผมบอกให้ พี่ตรงไปเลย อะไรอย่างนี้ แล้วทีนี้ไอ้รอบที่ 4 ด้วยความที่ก่อนหน้านี้ผมไม่โอเคกับกลิ่น คือกลิ่นมันแรงมากเหมือนกลิ่นสารระเหย ผมเลยลดกระจกลง แล้วเหมือนรอบ 4 เขาหันมาเห็นผม เขาก็เหมือนไม่พอใจหันกลับไปแล้วเอากระจกขึ้น ผมก็นั่งรถต่อไปอีกพักนึง แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้วกลิ่นมันหนักมาก ผมจะลดกระจกลง ทีนี้ลดกระจกไม่ได้ เหมือนเขาล็อกกระจก เขาไม่ให้ผมลดลง

จริงๆ ก่อนที่ผมจะตั้งกล้องถ่ายมันมีช็อตนึงที่เขาหันมาถามผมน้ำลายคือเยิ้มแล้ว ทีนี้โอเคคือพอเราจะลดกระจก มันก็ลดลงไม่ได้ แล้วเขาก็เร่งเครื่อง พร้อมกับเปิดเพลงตามที่ได้ยินในคลิป คือแบบสนุกของเขาเลย ผมยังนั่งคิดเลยผมเป็นผู้ชายผมยังตกใจเลยว่าแบบจะลงยังไงดี ก็เลยตัดสินใจบอกพี่ครับผมขอลงข้างหน้าแล้วกัน เขาก็หันมาถามผมนะว่าแบบทำไม ผมก็บอกว่ากลิ่นมันแรงเกิน ไม่สามารถที่จะนั่งต่อไปได้ ผมเองก็แสบคอแล้ว เขาก็ให้ผมลง

นับเงินทอนวนไป นับแล้วหยุด แล้วก็นับต่อ

เขาก็หันมาถามผมว่า เฮ้ยน้องแล้วมิตเตอร์ที่พี่กดอะจะทำไง ผมก็จ่ายเขาไปร้อยนึง แล้วทีนี้ไอ้ตอนที่ผมจะยื่นเงินให้เขา ผมก็บอกว่าพี่มัน 37 บาท ซึ่งขึ้นมาประมาณ 1 กิโลเอง ผมก็บอกว่าพี่ทอน 60 บาทครับ เรารู้แล้วแหละว่าเขาไม่มีสติ เราก็ย้ำเขาไป เขาก็หาแบงก์ แต่เขามีแบงก์ยี่สิบใบเดียว ที่เหลือก็คือมีแต่แบงก์ร้อย แบงก์ห้าร้อย แบงก์พัน เขาก็หาจะมาทอน หยิบกล่องเหรียญมาจะนับเหรียญให้ สักพักนึงเขาก็เหมือนไม่นับ แล้วก็ปล่อย แล้วก็หันไปเหมือนแบบนับวน ผมก็เลยบอกว่าพี่ถ้างั้นผมเอาแค่นั้นแหละ เอาแค่ยี่สิบบาท

เพิ่งเห็นเสื้อผ้าคนขับ สุดเซอร์ เสื้อขาดวิ่น กางเกงเจเจ

ผมขอย้อนกลับไปไอ้ตอนที่เขาหาเงิน เขาเปิดไฟ จังหวะนั้นอย่างที่เห็นในคลิป ผมก็เพิ่งจะเห็นว่าเขาเสื้อขาดลุ่ย กางเกงเจเจ เพิ่งจะมาเห็นตอนที่ผมขอเงินทอน เพราะตอนขึ้นด้วยความที่ผมเป็นผู้ชายและผมก็รีบ ก็เลยไม่ได้สังเกตอะไร เรื่องก็ประมาณนี้ แล้วแบบตัวผมเองก็เริ่มหงุดหงิดแล้ว เขาสติไม่ครบถ้วน สภาพแบบคือไม่พร้อมให้บริการเลย ตัวผมเองยังตกใจ แล้วก็มีอาการแบบเมาสารระเหยด้วยเพราะที่ผมได้กลิ่นมาไม่กาวก็ทินเนอร์ประมาณนี้ ไม่ใช่กลิ่นที่มาจากนอกรถ และเขาเจตนาคือล็อกกระจก ผมก็เลยรู้สึกไม่ไหวแล้ว ขนาดผมไปถึงงานลูกค้าแล้ว ผมยังนั่งแสบคอ

สิ่งที่อยากจะฝากเพื่อเป็นอุทาหรณ์ เพราะว่าผมเองก็ได้บทเรียนตรงนี้ว่า โอเคก่อนที่เราจะขึ้น อย่างน้อยที่สุดเลยเราต้องเช็กคนขับว่าพร้อมให้บริการไหม อย่างน้อยก็เป็นส่วนหนึ่งในการที่คุณปลอดภัยแล้ว ในส่วนที่สองถ้าเป็นไปได้เราลองสังเกตในรถจะมีปุ่ม SOS ตรงนี้อาจจะสามารถช่วยผู้โดยสารได้ระดับนึง ผมเองผมเป็นผู้ชายต้องบอกเลยว่าผมยังหวั่นเลย แล้วลองคิดดูว่าถ้าสมมุติวันนั้นเป็นผู้หญิง แล้วเขาจะทำอะไรก็ได้ แล้วสิ่งนึงที่ผมเป็นห่วงก็คือคนไม่มีสติ พอเวลาเกิดเรื่องอะไรมีปัญหาขึ้นมา คนไม่มีสติก็คือได้รับโทษในระดับนึงแค่นั้น กล้าการันตีเลยว่าวันนั้นไม่ใช่กลิ่นเหล้า คือกลิ่นคือแบบดมมาเต็มที่ สูบมาเต็มที่เลย กลิ่นประมาณสารระเหย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook