วิศวกรหนุ่มวัย 27 จบชีวิตตัวเอง เขียนจดหมายแฉสั่งลา ถูกกดดันให้ทุจริตก่อสร้างถนน

วิศวกรหนุ่มจบชีวิตตัวเอง เขียนจดหมายระบาย ถูกกดดันให้ทุจริตก่อสร้างถนนไม่ได้มาตรฐาน สาปแช่ง ขอให้พวกมันทุกคน ได้รับผลของการที่มันโกง 

กรณีตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เข้าตรวจสอบเหตุ นายภาณุเมศวร์ หรือ เอ๊ะ อายุ 27 ปี ชาวอุดรธานี ทำงานเป็นวิศวกรที่เทศบาลแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดหนองบัวลำภู ขับรถกระบะ 4 ประตู สีขาว ข้ามจังหวัด มาจอดรมควันฆ่าตัวตายริมถนนมะลิวัลย์ อำเภอเมืองขอนแก่น เบื้องต้นญาติเชื่อว่า อาจเกิดจากถูกกดดันในการทำงาน ที่ทำหน้าที่เป็นวิศวกรดูแลการก่อสร้างถนน

จากการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ตายที่อยู่ในรถ พบจดหมายที่เขียนด้วยลายมือ บนกระดาษเอ 4 จำนวน 3 แผ่น อยู่ในกระเป๋าสะพาย มีเนื้อหาแฉระบบการทำงานในเทศบาล ที่กดดันให้ตัวผู้ตายที่เป็นวิศวกรคุมงาน ต้องทุจริตตามน้ำ บังคับให้เรียกรับค่าตรวจรับงานจากผู้รับจ้าง ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ว่า งานก่อสร้างถนนมีสภาพแตกร้าวไม่ได้มาตรฐาน

เริ่มทำงาน 1 มิถุนายน 2565 ถูกกดดันจนตัดสินใจลาออกวันที่ 31 ตุลาคม แต่มีผลในวันที่ 1 ธันวาคม โดยยังมีงานไม่ตรวจรับอีก 3 งาน ก็ยังถูกจี้ให้ทำ จนเครียดนอนไม่หลับเป็นเดือน ขอโทษพ่อแม่และพี่สาว ที่ต้องทำแบบนี้ ผมอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ระบบท้องถิ่นไม่รู้เป็นเฉพาะเทศบาลตำบล...หรือไม่ เป็นอะไรที่แย่มาก ช่างเหมือนเป็นเครื่องมือสำหรับทำเงินให้ผู้บริหาร ที่คอยแต่จะหาเศษหาเลยจากโครงการ กรรมชั่วของพวกเขา เล่ายังไงก็ไม่หมด ขอให้พวกมันทุกคน ได้รับผลของการที่มันโกง ร่างถ้ายังอยู่ดี บริจาคให้กายวิภาคศาสตร์ มข.

ผู้สื่อข่าวไปที่งานศพนายภาณุเมศวร์ ที่บ้านเกิดในจังหวัดอุดรธานี บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า นางปุ อายุ 54 ปี แม่ผู้เสียชีวิต บอกว่า ตอนนี้ทั้งตนและสามียังทำใจไม่ได้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น ตนต้องมาสูญเสียลูกชายคนเดียว ซึ่งเป็นลูกคนสุดท้อง เรียนเก่ง จบวิศวกรโยธาที่ขอนแก่น สอบติดราชการหลายแห่ง แต่เลือกงานที่ท้องถิ่น เพราะอยากอยู่ใกล้บ้าน ลูกชายยังเป็นผ้าขาว ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ไม่เคยทำให้พ่อและแม่เสียใจ เพิ่งเข้ารับราชการไม่นาน ไม่คิดว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้ อยากขอความเป็นธรรมให้ลูกชายด้วย

ก่อนลูกชายจะเสียชีวิต ได้ส่งของมาให้ เป็นเอกสารของรถยนต์ แหวนทองที่ตนซื้อให้เป็นของขวัญ พร้อมจดหมายน้อย บอกว่า แม่ผมขอโทษไปเก็บของกลับบ้านด้วย ยังสงสัยคืออะไร ลูกชายเป็นอะไร โทรไปหาลูกชายก็ไม่รับ ตอนนี้ที่เป็นห่วง คือสามี ที่รักลูกชายคนนี้มาก ได้ยินสามีเปรยๆ ว่า หากเสร็จงานศพลูก ก็จะตามลูกไป