วิญญาณหนุ่มกู้ภัยเฮี้ยน สิงร่างน้องเขยเพื่อนสาวโคโยตี้ ร้องไห้บอก "เขาตีหัวหนู"
เปิดใจ หนุ่มโดนวิญญาณกู้ภัยสิง เผยเห็นคนตายกวักมือเรียก ก่อนอาศัยร่างบอกครอบครัว "เขาตีหัวหนู"
ที่วัดโพธิ์ศรี ตำบลบางปลาม้า อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีพิธีสวดอภิธรรมศพนายอมรเทพ (หรือเจ) อายุ 25 ปีเป็นอาสาสมัครกู้ภัยสมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะขับขี้รถจักรยานยนต์ กลับจากการอำนวยการจราจร กำลังกลับบ้าน ทางญาติได้บำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรมเป็นเวลา 5 คืนและคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย เพื่อนๆจึงได้นำรถยนต์ติดเครื่องเสียงประมาณ 30 คันมาจอดเปิดเพลงที่ลานจอดรถวัด พร้อมกับมีสาวโคโยตี้ มาเต้นสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับชาวบ้านที่มาร่วมฟังพระสวดอภิธรรมเป็นอย่างมาก
จากการสอบถาม นายปราโมทย์ สุภาเพียร รองประธานชมรมเครื่องเสียงรถยนต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่าตนเป็นเพื่อนสนิทกับผู้เสียชีวิต โดยปกติผู้เสียชีวิตจะประกอบอาชีพรับจ้าง ทำนา แต่เป็นคนที่ชอบเสียงเพลง และเป็นคนรักสนุก นิสัยดี มีน้ำใจ ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร ทำให้มีเพื่อนฝูงทั้งในวงการเครื่องเสียงรถยนต์และทั่วไปรัก และผู้ตายก็มีรถเครื่องเสียง เวลาเพื่อนมีงานบวช งานแต่ง งานพิธีต่างๆก็จะนำรถเครื่องเสียงไปช่วยฟรีโดยไม่คิดเงิน กระทั่งเพื่อนมาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตตนรวมทั้งเพื่อนๆ ในวงการเครื่องเสียงรถยนต์และเพื่อนสาวโคโยตี้ ต่างรู้สึกเสียใจ จึงรวมตัวกันนำรถยนต์ติดเครื่องเสียงประมาณ 30 คนจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ และเพื่อนสาวโคโยตี้ อีกหลายคนมาร่วมไว้อาลัย และเปิดเพลงให้โคโยตี้เต้นให้วิญญาณเพื่อนมีความสุขก่อนส่งวิญญาณเพื่อนให้ขึ้นไปเป็นเทวดาบนสวรรค์ต่อไป
ระหว่างที่รถเครื่องเสียงจะทำการแสดงได้เกิดเหตุการณ์ขนลุก เมื่อนายธีรนันท์ อัคธรรม(เบียร์) อายุ 25ปี เป็นน้องเขยของสาวโคโยตี้ เพื่อนผู้เสียชีวิตเดินทางมาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาร่วมงานศพของผู้เสียชีวิต และนั่งอยู่ด้านหลังบูธ ดีเจ จู่ๆก็ถอดพระเครื่องที่คล้องคออยู่พร้อมเครื่องลางของขลังออกให้แฟนสาว ก่อนจะเดินขึ้นไปบนศาลาที่ตั้งศพ แล้วจุดธูปเคารพศพจากนั้นได้นั่งก้มหน้าอยู่ที่หน้าเครื่องตั้งศพ แฟนสาวและป้าและพ่อผู้เสียชีวิตเห็นเข้าก็แปลกใจและก็รู้ได้ทันทีว่าถูกวิญญาณเข้าสิงจึงช่วยกันประคองมานั่งเก้าอี้
ก่อนจะซักถามว่าเป็นอะไร ถามอะไรหน่อยบอกเลยนะนึกดีๆ มองหน้ารู้หรือเปล่า นายธีรนันท์ ยังอยู่ในอาการร้องไห้บอกไม่รู้เขาข้างหลังหนู ป้าถามต่อว่ามาข้างหลังแล้วเขาทำยังไงก่อน นายธีรนันท์บอกเขาตีหัวหนู มากี่คนหนูไม่รู้ ป้าจึงบอกว่าป้าบอกแล้วว่าอย่าไปตรงนั้น ป้าก็โทรตาม นายธีรนันท์ จึงร้องว่าเขาไม่ชอบหน้าหนู ป้าถามว่าเราไปด่าเขาหรือเปล่า นายธีรนันท์ บอกว่าไม่ได้ด่า ป้าถามอีกว่าเขาตีหัวแล้วถีบรถหรือเปล่า นายธีรนันท์บอกว่าไม่รู้ มองไม่เห็นทั้งพ่อและป้า บอกว่าบอกเลยใครทำ แต่นายธีรนันท์ไม่ตอบ จากนั้นวิญญาณของนายอมรเทพ ก็ออกไประหว่างที่มีการซักถามแม่ผู้เสียชีวิตได้ใช้กระดาษทิชู่เช็ดหน้าให้ตลอดเวลา
หลังจากตั้งสติได้แล้วนายธีรนันท์ เล่าว่า ตนไม่เคยรู้จักกับผู้เสียชีวิตมาก่อนแต่รู้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นเพื่อนสนิทกับพี่สาวแฟนของตน และเมื่องานแต่งตน ผู้เสียชีวิตก็เอารถเครื่องเสียงไปช่วยงานโดยไม่คิดเงิน เพราะตอนนั้นแฟนตนก็เป็นสาวโคโยตี้ แต่ปัจจุบันไม่ได้เต้นแล้ว แต่พอรู้ว่าเจเสียชีวิตแฟนก็ชวนมาร่วมงาน ตนจึงเดินทางมาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตนนั่งอยู่ด้านหลังบูธดีเจ และเห็นเจยืนอยู่ตรงหัวบันไดศาลาการเปรียญ มองไปทางโคโยตี้ ก่อนหันมาทางตนแล้วยิ้มให้พร้อมกับกวักมือมาที่ตน และตนก็มาเลยโดยไม่รู้สึกตัว ที่จำได้คือเจบอกว่าวันเผาเขาโคโยตี้ต้องมาเต้นวนเมรก่อน และเขาบอกว่าเขาชอบเจี๊ยบ พี่สาวแฟนตนซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันมาก อย่างไรก็ตาม คนที่เขาชี้พรุ่งนี้ก่อนเผาต้องมาเต้นวนให้เขา
ทางด้านแฟนสาวของนายธีรนันท์ บอกว่าตอนเย็นที่มาถึงได้ชวนสามีขึ้นไปไหว้ศพ แต่สามีไม่ขึ้นบอกไม่รู้จัก ที่มาเพราะมาเฝ้าตน ซึ่งเลิกอาชีพโคโยตี้แล้วแต่คืนนี้จะมาเต้นให้เพื่อนพี่ เพื่อตอบแทนที่ผู้เสียชีวิตเอารถเครื่องเสียงไปช่วยงานแต่ง
ทางด้าน น.ส.มณี ป้าของผู้เสียชีวิต ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนและ น.ส.สมนึก พี่สาวคนโต ได้ช่วยกันเลี้ยงผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นหลานชายคนเล็กมาตั้งแต่ยังแบเบาะ เพราะตน 2 คนไม่มีครอบครัวไม่มีสามีจึงเอาหลานคนนี้มาเลี้ยง หลานชายเป็นคนนิสัยดีมีน้ำใจชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกับใคร เป็นคนชอบเสียงเพลง นิสัยร่าเริง และไม่เกเร เป็นจิตอาสาและเป็นอาสาสมัครกู้ภัยสมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงมาปี เวลาเพื่อนมีงานอะไรก็จะไปช่วยทั้งกำลังคนและเครื่องเสียงรถยนต์ ทำให้มีเพื่อนเยอะและเพื่อนๆ พากันรัก ใช้ให้ทำงานอะไรก็ทำไม่เคยขัด
ตนและครอบครัวญาติพี่น้องรู้สึกเสียใจมาก ตนพยายามห้ามและเตือนให้ระวังตัว เนื่องจากเป็นห่วงเพราะหลานชายอายุ 25 ปีเข้าสู่วัยเบญจเพศ ซึ่งคนที่อายุย่างเข้าวัยเบญจเพส มักจะเกิดเหตุร้ายขึ้น
ทางด้าน นายทรงศักดิ์ อายุ 62 ปี และนางมาลัยวรรณ อายุ 64 ปี พ่อและแม่ผู้เสียชีวิตบอกว่า พูดอะไรไม่ออก ครอบครัวไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ไม่อยากสืบสาวราวเรื่อง อยากให้ลูกไปเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์ คิดเสียว่าเขาหมดอายุขัยแค่นี้ และในวันที่ 3 ธันวาคม เวลา 16.00 น.จะทำพิธีฌาปนกิจ ที่เมรวัดโพธิ์ศรีแห่งนี้
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ