พม.ช่วยเคลียร์ ยายวัย 80 หนีลูกสาวนอนกลางถนน ทึ่งซ้ำ ตัดนิ้วทิ้งเพราะเล่นไพ่เสีย

คืบหน้า ยายวัย 80 นอนกลางถนน ฟันหัวตัวเองเลือดอาบเพราะทะเลาะลูกสาว ล่าสุด พม.เข้าช่วย เจอเรื่องทึ่งซ้ำอีก ตัดนิ้วทิ้งเพราะเล่นไพ่เสีย

จากรณี ชาวบ้านเจอยายเฒ่าวัย 80 นอนริมถนน กลัวรถเหยียบ ช่วยกันพามาข้างถนน พบพูดจาวกวน มีอาการคล้ายดื่มสุรามา หนีออกจากบ้าน อาละวาดเอามีดฟันหัวตัวเองจนเลือดอาบ หลังทะเลาะกับลูกสาว กู้ภัยรุดเข้าช่วยนำส่งโรงพยาบาลระยอง และต่อมาลูกสาวจึงไปรับมาพักที่บ้าน เมื่อคืนวันที่ 1 ธ.ค ที่ผ่านมา

ล่าสุด เวลา 14:00 น. วันที่ 2 ธ.ค 65 ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระยอง หรือ พม.เดินทางไปที่บ้านของ นางค่าย ยายวัย 80 ปี ที่ ต.ชากบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ซึ่งอาศัยอยู่กับ ลูกสาว ลูกชาย และเหลน

เมื่อเดินทางไปถึงพบกับ น.ส บัวลอย ลูกสาวนางค่าย บอกว่า นางค่ายได้หายตัวออกไปไหนไม่รู้ ตนออกไปทำงานตั้งแต่เช้า กลับมา 14:00 น. ก็ไม่เจอแม่แล้ว ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามนายแหลม (ลูกชายนางค่าย) บอกว่าตนมีอาชีพกรีดยาง จะกลับมาช่วงเช้าตลอด วันนี้เช้า 8:00 น. กลับมาก็ไม่เจอแม่แล้ว ตนก็ออกไปตามหา จนถึง 9:00 น. ก็ไม่เจอ

ต่อมาเวลา 16:30 น. มีชาวบ้านแจ้งว่า พบนางค่ายเดินอยู่แถวบริเวณที่พบเมื่อวาน คือวัดเขาช่องสลอด ทางเจ้าหน้าที่ พม. จึงรีบเดินทางไปตามหา ระหว่างทางจึงสอบถามชาวบ้านไปเรื่อย จนได้ความว่า มีคนแจ้งตำรวจ ตอนนี้ได้นำตัวยายไปส่งที่ สภ.สำนักทอง เรียบร้อยแล้ว

เมื่อไปถึง สภ.สำนักทอง ก็พบกับนางค่าย ซึ่งยังใส่เสื้อของโรงพยาบาลระยอง หลังจากที่กลับมาเมื่อวาน ทางเจ้าหน้าที่ พม. จึงเข้าสอบถาม ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งนางค่าย ก็พูดจาปกติ ตามที่ผลแพทย์ ยืนยันว่านางค่ายไม่ได้มีอาการทางจิต ตรวจพบแค่แอลกอฮอล์ในเลือดเท่านั้น และสอบถามจนได้ความว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ได้ทะเลาะกับลูกสาวจริงเพราะลูกสาวทะเลาะกับแฟน ตนไม่ชอบที่เป็นแบบนี้ จึงหนีออกมา

นางค่าย เล่าต่อว่า ส่วนเรื่องนิ้วที่ขาดก็เป็นเพราะว่าตนเองชอบเล่นไพ่ดัมมี่ เล่นแล้วเสียเงินตลอด จึงโมโห คิดว่าตัดนิ้วทิ้งคงหมดปัญหาจะได้ไม่ต้องเล่นอีก และยังยอมรับว่ากินเบียร์วันละ 2 กระป๋อง เช้า-เย็น เพราะเครียด เวลาเห็นลูกสาวกับแฟนทะเลาะกัน เวลาตนไปห้ามกลับโดนลูกสาวต่อว่า ก็เกิดน้อยใจ ยืนยันจะไม่กลับไป

ด้าน นายอชิตพล อินทร์ไชย นักสังคมสงเคราะห์ กล่าวว่า แนวทางการแก้ของเคสนี้ ในตอนแรกก็ได้มีการคุยแก้ปัญหาคาใจระหว่างแม่และลูกสาว แต่ไม่เป็นผลเพราะฝ่ายแม่ หรือนางค่าย ยืนยันว่าจะไม่กลับบ้านไปอยู่บ้านเดียวกับลูกสาว ถ้าต้องกลับไปอยู่ ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบเดิมซ้ำๆ อีกซึ่งก็เป็นมาเป็นปีแล้ว จะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังหากไม่ช่วยกันแก้ไข

ซึ่งอาจจะต้องแก้โดยการให้ลูกสาว ย้ายออกมาจากบ้าน ให้เช่าบ้านอยู่อีกหลัง โดยให้นางค่าย อยู่กับลูกชายและเหลน พร้อมมอบเงินช่วยเหลือให้ลูกชาย 3,000 บาทเป็นค่าเช่าบ้าน 2 เดือน และ อีก 3,000 บาทให้กับลูกสาวไปเช่าบ้านอยู่ข้างนอกเพื่อให้นางค่ายยอมอยู่บ้าน ไม่ออกไปเดินหรือนอนกลางถนนอีก พร้อมสนับสนุนหาอาชีพเสริมให้ลูกชาย เพื่อเลี้ยงดูแม่ หรือนางค่าย อีกด้วย

ซึ่งแนวทางการแก้ปัญหานี้ จะใช้เวลาทดลองเป็นเวลา 2 เดือน เพื่อดูว่า นางค่าย จะยอมปฏิบัติตามที่ได้ให้สัญญาไว้กับเจ้าหน้าที่หรือไม่ หากหลังจาก 2 เดือน ไม่เป็นผล ก็จะใช้แนวทาง พา นางค่าย เข้าสถานสงเคราะห์ เป็นแนวทางสุดท้าย