หนุ่มเป็นงง ครอบครัวอดเที่ยวหาดสวนสน เจอเจ้าที่ไล่ไม่ให้จอดรถ บอกเสียภาษีตั้งร้าน
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์โวยร้านค้าริมหาดสวนสน จ.ระยอง ไล่ไม่ให้จอดรถขณะพาครอบครัวไปเที่ยว หลังโดนไล่ต้องพากันกลับบ้าน เพราะเสียความรู้สึกมาก ถามหน่อย ไล่กันแบบนี้ได้ด้วยหรอ หรือเจ้าที่เขาแรงจริง ถึงปล่อยปละละเลยให้เสื่อมเสียชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยว
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพ ริมหาดสวนสน จ.ระยอง แล้วระบุข้อมูลลงในโพสต์ว่า ที่สวนสนคับไปจอดรถปูเสื่อนั่งทานข้าวแต่กลับโดนไล่ไม่ไห้จอด งงครับทะเลเป็นของใครคับถึงจอดไม่ได้ ร้านเดินมาบอกว่าจอดบังร้าน งงมาก ที่อื่นเหมือนที่นี้รึป่าวคับ
หลังจากโพสต์เผยแพร่ออกไป มีชาวบ้านจำนวนมากพบเจอเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย ยืนยันว่าหาดดังกล่าวเคยมีนักท่องเที่ยวถูกไล่ไม่ให้จอ
ดรถจริงๆ ซึ่งบางคอมเมนต์ได้ระบุว่า อะไรกับคนต่างถิ่น เกิดที่นี่โตที่นี่ยังโดนไล่ , เคยถูกไล่เช่นกันค่ะ เซ็งสุดๆ , จริงๆค่ะเคยโดนค่ะจอดบนถนนแท้ๆ ฯ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สัมภาษณ์ผู้โพสต์ นายพีรพัฒน์ อายุ 40 ปี ให้ข้อมูลว่า
ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้พาครอบครัวไปเที่ยวหาดสวนสน ต.เพ อ.เมืองระยอง หลังจากจอดรถได้พาครอบครัวไปปูเสื้อนั่งทานข้าวกัน จากนั้นมีผู้หญิงอ้วนๆ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านตรงที่ตนเองจอดรถ เดินมาถามว่าจะจอดอีกนานไหม ก็เลยตอบไปว่าจอดกินข้าวแป็บเดียว
หลังจากทานข้าวยังไม่เสร็จเขา ก็เดินมารอบ 2 บอกว่าจอดรถบังหน้าร้าน จะจอดอีกนานไหม ตนเอง เลยตัดสินใจเก็บข้าวของพากันกลับบ้าน โดยในใจลึกๆ เสียความรู้สึกมาก เพราะตนเองก็เกิดที่ระยอง มาเที่ยวที่นี่ตั้งแต่เด็กๆ ไม่คิดไม่ฝันเลยจะมาโดนไล่ที่แบบนี้เสียความรู้สึกมาก
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หาดสวน ต.แกลง จ.ระยอง ไปสอบถามร้านค้าที่เกิดเหตุบริเวณริมหาดสวนสน โดยร้านค้าให้ข้อมูลว่า ไม่อยากให้นักท่องเที่ยวมาจอดรถหน้าร้าน เพราะมันบังหน้าร้าน อยากให้นักท่องเที่ยวไปจอดรถตรงที่ส่วนกลาง ที่ทางเจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ เพราะตรงที่ตั้งร้าน ร้านค้าก็เสียค่าเช่าภาษีถูกต้องเหมือนกัน จึงมีสิทธิ์ใช้พื้นที่หน้าร้านเหมือนกัน
โดยขณะผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ทางร้านค้าที่เกิดเหตุไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ และไม่อนุญาตให้นำคลิปสัมภาษณ์ไปออกสื่อ พร้อมกับถ่ายรูปผู้สื่อข่าวขณะลงพื้นที่ไว้ด้วย
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ถึงการหวงแหนที่จอดรถ จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาจัดการโดยด่วน ก่อนจะทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของ จ.ระยอง เสียหายไปมากกว่านี้