ป้ายฮือฮา "เทพไท เสนพงศ์" สวัสดีปีใหม่จากในเรือนจำ หลังติดคุกคดีทุจริตเลือกตั้ง
ฮือฮา เทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส. ขึ้นป้ายสวัสดีปีใหม่ ใส่กราฟิกห้องขัง หลังถูกจำคุกคดีทุจริตเลือกตั้ง
เฟซบุ๊ก พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ แชร์ภาพป้ายขนาดใหญ่ เป็นภาพของ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ สวมใส่เสื้อยืดสีดำ พร้อมใส่กราฟิกภาพห้องขัง และข้อความบนป้ายระบุ "สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๖ รู้จักแล้วจะรักเอง เทพไท เสนพงศ์" โดยนายพงศ์สินธุ์ ระบุข้อความว่า
"วันนี้ เริ่มต้นเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปีแล้ว กำลังจะเข้าสู่ช่วงปีใหม่ เป็นธรรมเนียม หรือประเพณีปฎิบัติของนักการเมือง ที่ต้องขึ้นป้ายสวัสดีปีใหม่ กับพี่น้องประชาชน ในเขตเลือกตั้งสำหรับปีใหม่นี้ก็เช่นกัน คุณเทพไท เสนพงศ์ ซึ่งเป็นนักการเมืองอาชีพคนหนึ่ง แม้ว่าจะถูกจองจำอยู่ในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชก็ตาม ก็ยังคงส่งความรัก ความคิดถึง มายังพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช อย่างเสมอต้น เสมอปลาย เหมือนเดิม"
นอกจากนี้ยังมีปฏิทินที่ทำออกมาแจกจ่าย เป็นภาพเดียวกันคือนายเทพไท ยืนยิ้มอยู่หลังกรงเหล็ก พร้อมบทกลอนที่เขียนว่า
อยู่ในคุก แม้ทุกข์ใจ ก็ไม่หวั่น
ยังมุ่งมั่น รับใช้ ไม่หน่ายหนี
ออกจากคุก พร้อมทำ ในทันที
เพื่อ "นครศรีธรรมราช" ทุกชาติไป
ขอขอบคุณทุกความห่วงใย และทุกกำลังใจของทุกท่าน
เทพไท เสนพงศ์ รู้จักแล้วจะรักเอง
เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช
สำหรับ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ปัจจุบันถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำนครศรีธรรมราช โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ 174/2562 หมายเลขแดงที่ 485/2563 มีนายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช น้องชายนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช จำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พี่ชายนายมาโนช จำเลยที่ 2 คดีกระทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557
โดยศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกนายมาโนช เสนพงศ์ จำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ จำเลยที่ 2 คนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และตัดสิทธิทางการเมืองคนละ 10 ปี
คดีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์โกงการเลือกตั้ง จุดเริ่มต้นมาจากการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557 มีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นระหว่างนายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช น้องชายนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กับนายมาโนช เสนพงศ์ น้องชายนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ผลการเลือกตั้งปรากฏว่านายมาโนช คว้าชัยชนะ ต่อมานายพิชัยเข้าร้องเรียนกับ กกต.ว่า นายมาโนชและนายเทพไท ทำผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง มีการจัดเลี้ยงหัวคะแนนที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครศรีธรรมราชเมื่อปี 2556 หลังสอบสวนพิจารณาแล้ว กกต.มีคำสั่งให้ใบแดงนายมาโนช พร้อมทั้งเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีนายมาโนชและนายเทพไท แต่ภายหลังคดีล่าช้าในชั้นสอบสวนจนถึงชั้นอัยการ นายพิชัย บุณยเกียรติ ในฐานะผู้เสียหายโดยตรงตัดสินใจยื่นฟ้องคดีต่อศาลด้วยตัวเอง
กระทั่งวันที่ 28 ส.ค.63 ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดจริง พิพากษาจำคุกนายมาโนช เสนพงศ์ จำเลยที่ 1 และนายเทพไทเสนพงศ์ จำเลยที่ 2 คนละ 3 ปี แต่ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุกคนละ 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา และตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี จำเลยทั้งสองยื่นขอประกันตัวและยื่นอุทธรณ์สู้คดี ต่อมาเมื่อวันที่ 11 พ.ค.64 ศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลยทั้ง 2 คน เป็นเวลา 2 ปี และตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี หลังคำพิพากษา จำเลยทั้งสองได้รับการประกันตัวระหว่างรอฎีกา โดยวางหลักทรัพย์คนละ 1.5 ล้านบาท และยื่นสู้คดีชั้นฎีกา กระทั่งศาลฎีกามีคำพิพากษายืนดังกล่าว