รอดชีวิตราวปาฏิหาริย์ พ่อเฒ่า 86 วูบติดโคลนในนา ทนหนาวข้ามคืน 18 ชั่วโมง
พ่อเฒ่า 86 ติดโคลนในนา ข้ามคืน 18 ชั่วโมง ญาติๆ ถึงกับโล่งหลังพบตัว เพราะเมื่อคืนอากาศหนาวลมแรง อุณหภูมิประมาณ 18 องศาฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลนาข่า ได้รับแจ้งว่ามีชายชราวูบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ติดอยู่บ่อโคลนนานข้ามคืนในที่นาของตัวเอง เหตุเกิดอยู่ท้ายหมู่บ้าน บ้านถ่อนน้อย ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี รับหลังแจ้งรุดออกไปตรวจสอบ
โดยมีนายอดุลย์ สารีบุตร ผู้ใหญ่บ้าน บ้านดงยวด ม.9 ญาติพี่น้องและชาวบ้าน ช่วยกันนำตัวขึ้นมาจากโคลน นำน้ำมาล้างโคลนออกจากตัว และนำเสื้อกันหนาว ผ้าห่ม มาห่มเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น ก่อนนำตัวส่งรักษาที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ช่วยเหลือเป็นการด่วน
ท่ามกลางความโล่งใจของญาติ เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีอากาศหนาวเย็นและมีลมแรง อุณหภูมิประมาณ 18 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายมากหากอยู่ในสภาพแบบนี้ แม้จะไม่ใช่ผู้สูงอายุก็ตาม เพราะติดอยู่นานกว่า 18 ชั่วโมง
ที่เกิดเหตุเป็นบ่อโคลนตม ห่างจากกระท่อมนาประมาณ 500 เมตร ห่างจากตัวหมู่บ้านประมาณ 4 กิโลเมตร พบร่าง นายคำจันทร์ หรือ ตาจันทร์ อายุ 86 ปี นอนหงาย สวมเสื้อแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้น สีกรมท่า ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ มีเคียวเกี่ยวหญ้าและรองเท้าแตะวางอยู่ริมบ่อโคลน ตามร่างกายตาจันทร์เปื้อนโคลนทั้งตัว คาดว่าจะเกิดจากการดิ้นรนช่วยเหลือตัวเอง
จากการสอบถามญาติทราบว่าออกจากมาตั้งแต่เช้าวันที่ 13 ธ.ค. และญาติพี่น้องออกตามหาตั้งแต่ 09.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. จนมาพบตาจันทร์อยู่ในสภาพดังกล่าว
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นางบัวจันทร์ หรือ มล อายุ 63 ปี ลูกสาวตาจันทร์ ซึ่งเล่าว่า พ่อย้ายไปอยู่กับครอบครัวใหม่ที่บ้านถ่อนน้อย อยู่กับภรรยาคนที่ 3 อายุประมาณ 70 ปี อยู่ด้วยกันเพียง 2 คน แต่ก็มีลูกหลานบ้านนั้นอยู่ดูแลไม่ห่างกันนัก
พ่อยังแข็งแรงดี มักจะปั่นจักรยานมาที่นาของตนเอง เพื่อมาตัดหญ้าไปขาย มาหาปูหาปลา เพื่อไปทำอาหารกิน ช่วงเย็นก็จะกลับบ้านพักผ่อน เมื่อเช้านี้ญาติโทรมาหาบอกว่าตาจันทร์ยังไม่กลับบ้านตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งผิดปกติมาก กลัวว่าจะถูกดักปล้น หรือเป็นลมช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ด้วยอากาศที่หนาวเย็นมาก เกรงว่าจะได้รับอันตราย
"จากนั้นญาติพี่น้องได้พากันออกมาตระเวนหาปูพรมหาในที่นา คิดว่าตาต้องไปเกี่ยวหญ้า เลยไปหาตรงป่าหญ้า และหาบริเวณสระน้ำ เผื่อตาจะลงไปล้างแขนล้างขาแล้วพลัดตกน้ำ ขณะพวกตนกำลังเตรียมอาหารไปส่งพวกญาติและชาวบ้านที่มาช่วยตามหา มีคนวิ่งมาบอกว่าพบตาแล้ว ทุกคนก็วิ่งมารวมกัน
โดยสภาพของคุณตาเต็มไปด้วยโคลน ไม่ค่อยมีแรงที่จะพูดอะไร รู้สึกสงสารตามากเพราะว่าอยู่ในสภาพแบบนี้และอากาศหนาวเย็นแบบนี้ได้อย่างไร ก่อนพาไปกระท่อมนา ล้างเนื้อล้างตัวเอาผ้าขาวม้ามาเช็ด เอาเสื้อผ้ามาให้สวมใส่ และตอนนี้อาการก็ดีขึ้นแล้ว โดยสาเหตุเกิดจากเส้นเลือดในสมองตีบ จึงเป็นลมล้มลง"
ด้าน นายอดุลย์ อายุ 61 ปี ลูกเขยคนเล็ก เล่าว่า เมื่อเช้าเวลาประมาณ 09.00 น. พวกตนออกตามหาคุณตาประมาณ 20 คน โดยปูพรมหา แล้วมีนายเยี่ยมที่ญาติกันไปพบเป็นคนแรก นายเยี่ยมสอบถามคุณตาว่าจำตนได้ไหม ก็บอกชื่อนายเยี่ยมได้ถูกต้อง จึงรีบตะโกนเรียกทุกคนมาช่วย
ตนคิดว่าคุณตาอาจเป็นลมขณะออกไปหาปลาในบ่อโคลนนั้น และติดอยู่ตรงนั้นตั้งแต่ 15.00 น. ของเมื่อวาน หมอบอกกว่าเส้นเลือดในสองตีบ ร่างกายด้านขวาไม่มีความรู้สึก
อยากฝากเตือนลูกหลานที่บ้านมีคนแก่คนชรา อย่าให้ไปนาคนเดียวถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะไม่มีใครช่วยเหลือ ซึ่งตอนนี้คุณตาก็ปลอดภัยแล้ว เมื่อคุณตาออกจากโรงพยาบาลแล้ว ต่อไปจะดูแลอย่างใกล้ชิด หากอยากออกมาที่นาก็จะออกมาด้วยไม่ให้มาคนเดียวอีกแล้ว
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ