นักธุรกิจปลอมตัวจับโป๊ะลูกน้อง พบร่วมมือเด็กปั๊ม "โกงบิลน้ำมัน" แบ่งเงินให้ 10%
นักธุรกิจหนุ่มเตือนภัย พบ "กลโกงบิลน้ำมัน" ปั๊มออกราคาเกินจริง คิดค่าส่วนต่าง 10% หลังจับพิรุธลูกน้อง
วันที่ 15 ธ.ค.65 นายเอก (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี เจ้าของกิจการขนส่งรายหนึ่ง เดินทางมายังโรงพัก สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ก่อนจะเปลี่ยนใจเดินทางกลับหลังเข้าปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงครู่เดียว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับนายเอก จึงเปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนเองได้ปลอมตัวขับรถกระบะเหมือนพนักงานขับรถทั่วไป เข้าไปเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งย่านถนนกาญจนาภิเษก อ.บางบัวทอง จากนั้นตนได้เติมน้ำมันเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท ซึ่งหลังพนักงานของปั้มเดินมาเก็บเงิน ตนจึงได้แกล้งบอกกับพนักงานคนดังกล่าวไปว่า ขอเบิกบิลเพิ่มเป็น 1,200 บาท ได้หรือไม่
จากนั้นพนักงานของปั้มก็บอกว่า เบิกบิลเกินจำนวนได้ แต่ต้องจ่ายเงินให้เด็กปั้ม 10% ของจำนวนเงินที่เบิกเกิน ตนจึงตกลงให้พนักงานออกบิลจำนวน 1,200 บาท มาให้ สักพักพนักงานคนดังกล่าวก็เดินนำบิลค่าน้ำมันมาให้ พร้อมกับเรียกเก็บเงินค่าบิลที่ออกเกินจริงอีก 20 บาท ตนจึงหยิบเงินจ่ายให้ไปเป็นค่าน้ำมัน 1,000 บาทและอีก 20 บาท โดยมีคลิปถ่ายไว้
นายเอก เปิดเผยอีกว่า สาเหตุที่ตนต้องปลอมตัวไปเติมน้ำมันที่ปั้มแห่งนี้ เป็นเพราะต้องเริ่มสงสัยมานานแล้วว่า ทำไมพนักงานขับรถส่งของของทางบริษัทตน จะต้องขับรถไปยูเทิร์นเพื่อย้อนมาเติมน้ำมันที่ปั้มแห่งนี้กันทุกวัน ตนเคยสอบถามถึงเหตุผลไปว่า ทำไมจะต้องเจาะจงขับรถไปเติมน้ำมันที่ปั้มนี้ ซึ่งก็ได้รับคำตอบกลับมาว่าปั้มนี้มีแถมน้ำ บางรายก็บอกว่ากับข้าวในปั้มอร่อย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากถ้าขับรถออกจากบริษัทจะเจอปั้มน้ำมันหน้าปากซอยทันที ซึ่งตนก็เก็บเรื่องนี้เอาไว้ เพราะในช่วงนั้นธุรกิจขนส่งกำลังไปได้ด้วยดี
จนต่อมาเมื่อเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว รถในบริษัทวิ่งรอบลดน้อยลง ตนกลับพบว่ายังคงมีการเบิกบิลน้ำมันอยู่ในอัตราที่สูงอยู่ โดยลดลงมาเพียงนิดเดียวจากช่วงที่เคยมีงานเยอะๆ ทำให้ตนเริ่มสงสัยมากขึ้นและต้องการหาคำตอบ จนกระทั่งเมื่อวานนี้ตนจึงมาทราบความจริงว่า ปั้มน้ำมันแห่งนี้สามารถออกบิลใบเสร็จค่าน้ำมันที่เกินจากจำนวนเติมจริงได้ และลูกน้องก็จะนำบิลน้ำมันที่เกินจริงมาไปเบิกเงินกับทางบริษัทของตนในแต่ละวัน
ซึ่งบริษัทตนมีรถกระบะส่งของ 4 คัน เฉลี่ยรายเดือนแล้วตนจ่ายค่าน้ำมันรถไปเดือนละ 50,000 กว่าบาท ซึ่งถ้านำจำนวนเงินที่พนักงานของตนเบิกค่าน้ำมันเกินจริงคันละ 200 บาทต่อวัน จำนวน 4 คันและนำบิลน้ำมันที่เกินจริงมาเบิกจากตนไปแล้วประมาณ 3 ปี ตนก็สูญเงินค่าส่วนต่างในตรงนี้ไปแล้วประมาณ 7 แสนกว่า จึงได้เดินทางมาปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายเอก เปิดเผยอีกว่า หลังปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ยิ่งทำให้ตนคิดหนักเข้าไปใหญ่ เนื่องจากหากตนแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง กับพนักงานขับรถขนส่งทั้ง 4 คนแล้ว ต้องก็ต้องเสียเวลาในการเดินทางมาให้ปากคำ และยังต้องเสียทีมลูกน้องไปอีกทั้ง 4 คนด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องยากที่จะหาพนักงานคนใหม่มาทำหน้าที่แทน ต้องเสียเวลาฝึกสอนงานใหม่อีก ก็จะส่งผลกระทบกับธุรกิจที่ตนทำอยู่
และหากตนอยากจะได้เงินที่เสียหายไปกลับคืนกลับมาก็ต้องทำเรื่องยื่นฟ้องทางแพ่งให้พนักงานทั้ง 4 คนเป็นผู้จ่ายเงินคืน แต่ทั้งหมดยังทำงานกับบริษัทตนอยู่ ทำให้ตนคิดหนักว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ตนมองว่าความผิดแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือพนักงานของบริษัทตนกับปั้มน้ำมันที่ออกบิลใบเสร็จค่าน้ำมันได้เกินความจริงจากหัวจ่าย เป็นเรื่องที่ปรบมือข้างเดียวคงไม่ดัง
นายเอก กล่าวอีกว่า แม้ในวันนี้ตนจะตัดสินใจว่ายังไม่แจ้งความเอาผิดกับพนักงานในบริษัมตนก็ตาม และตนก็เชื่อว่าทางพนักงานเองก็รู้เรื่องแล้วว่าตนรู้ความจริงทั้งหมด และตนได้สั่งให้พนักงานทุกคนเติมน้ำมันที่ปั้มที่ตนระบุเพราะตนได้คุยกับทางปั้มใหม่แล้ว และตนอยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ลงพื้นที่มาตรวจสอบด้วยว่า การกระทำของปั้มน้ำมันที่ให้พนักงานออกบิลใบเสร็จที่เกินกว่าจำนวนที่เติมจริงแล้วเรียกเก็บเงินส่วนต่างร้อยละ 10 นั้น เป็นเรื่องที่ทางปั้มสามารถทำได้หรือไม่ และเงินส่วนต่างนี้ไปเข้าใคร เข้าข่ายให้ความร่วมมือในทุจริตหรือไม่
ซึ่งตนอยากให้ผู้ประกอบการ เจ้าของบริษัทต่าง ๆ ระมัดระวังกลโกงจากพนักงานในรูปแบบนี้ด้วย เพราะเท่าที่ตนไปสังเกตในปั้มน้ำมันแห่งนี้ พบว่าส่วนใหญ่จะมีรถกระบะ รถขนส่งประเภทต่าง ๆ เข้ามาใช้บริการมากมายแบบผิดสังเกต ตนจึงไม่แน่ใจว่า ที่มีรถมาเติมน้ำมันที่ปั้มน้ำมันแห่งนี้มากกว่าปกติเพราะต้องการมาให้ออกบิลน้ำมันเกินจริงใช่หรือไม่
ทั้งนี้ นายเอกได้นำบิลใบเสร็จค่าน้ำมันจากปั้มดังกล่าว ที่ออกบิลเกินจากจำนวนยอดเติมจริง พร้อมกับภาพและคลิปเหตุการณ์ที่บันทึกไว้ระหว่างเข้าไปเติมน้ำมันที่ปั้มแห่งนี้ เพื่อจับพิรุธมายืนยันกับผู้สื่อข่าวด้วย
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ