เพจดังแฉ ผู้ประมูลทะเบียนรถ 45 ล้าน เป็นเจ้าของเว็บพนัน ตำรวจจ่อสอบเส้นทางการเงิน
เพจดังแฉ ผู้ประมูลป้ายทะเบียนรถ 45 ล้าน เป็นเจ้าของเว็บพนัน เคยเป็นผู้ต้องหาคดีพนันออนไลน์ ตำรวจจ่อสอบเส้นทางการเงิน
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายใหม่ต้องรอด นำหลักฐานการประมูลป้ายทะเบียนรถยนต์เลขสวย ของกรมการขนส่งทางบก หลังจากพบว่ามีผู้เข้าร่วมประมูลจำนวนมาก และชนะการประมูลหมายเลข 9 กก 9999 กรุงเทพมหานคร ด้วยราคาสูงกว่า 45 ล้านบาท
นายเอกภพ กล่าวว่า อยากให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ที่เข้าร่วมประมูลทุกรายที่พบว่ามีการนำเงินจำนวนมากมาร่วมประมูลว่าเงินเหล่านี้มีที่มาอย่างไร เพราะผู้ที่ร่วมประมูลมีอดีตผู้ต้องหาคดีพนันออนไลน์มาร่วมประมูลด้วย
ซึ่งอดีตผู้ต้องหาคนนี้เคยถูกจับเมื่อปี 2563 แต่เมื่อตำรวจส่งฟ้องต่ออัยการ อัยการกลับสั่งไม่ฟ้องคดี จึงอยากให้อัยการสูงสุดมาชี้แจงด้วยว่าเหตุใดถึงสั่งไม่ฟ้องในคดีดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนคลายข้อสงสัย
นายเอกภพ ยังระบุว่า ทางทีมงานยังได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน รวมถึงหลักฐานถึงกลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อาจมีการช่วยเหลือทำให้อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี ซึ่งยังไม่ขอเปิดเผย อยากให้ทางอัยการชี้แจงกับประชาชนก่อน
ส่วนกรมการขนส่งทางบก ที่เปิดให้ประมูลป้ายทะเบียน ควรตรวจสอบผู้ร่วมประมูลก่อนด้วยว่า เงินที่นำมาประมูลเป็นเงินที่ผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะมิเช่นนั้น กรมการขนส่งทางบกก็จะกลายเป็นแหล่งฟอกเงินของกลุ่มขบวนการกระทำผิดกฎหมายได้
ขณะที่พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในคดีของนายแทนไท ณรงค์กูล อดีตผู้ต้องหาคดีพนันออนไลน์ที่เคยถูกตำรวจสน.พญาไท ดำเนินคดีเมื่อปี 2563 ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานสั่งฟ้องผู้ต้องหาไปแล้ว แต่เมื่อส่งไปที่อัยการกลับมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง และส่งความเห็นมายังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น ซึ่งก็ได้มีความเห็นแย้งกลับไปยังอัยการสูงสุด แต่อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเช่นกัน ทำให้คดีถึงที่สุดไป
อย่างไรก็ตาม ในคดีนี้ตำรวจได้ร่วมกับสำนักงาน ปปง. ร่วมกันยึดทรัพย์ของเครือข่ายนี้ได้ทรัพย์สินไปกว่า 176 ล้านบาท ส่วนการที่นายแทนไท ได้ไปประมูลป้ายทะเบียนเป็นเงินกว่า 45 ล้านบาทนั้น ทางตำรวจจะใช้โอกาสนี้ในการสืบสวนเส้นทางการเงินว่าเงินดังกล่าวมีที่มาอย่างไร รวมทั้งจะตรวจสอบว่ายังมีการข้องเกี่ยวกับการทำธุรกิจผิดกฎหมายด้วยหรือไม่