คืบศพในแท็งก์น้ำ สาวเมียนมาเข้าพบ ตร. เชื่อเป็นญาติที่หายไปเมื่อเดือน มิ.ย.
กรณีพบศพในแท็งก์น้ำขนาด 1,250 ลิตร บนดาดฟ้าอาคารพาณิชย์ ล่าสุด สาวเมียนมาอยู่บ้านห่างจากที่เกิดเหตุ 3-4 หลัง เข้าพบตำรวจ เชื่อผู้เสียชีวิตเป็นญาติของตัวเอง
กรณีพบศพผู้เสียชีวิตอยู่ในแท็งก์น้ำขนาด 1,250 ลิตร บนดาดฟ้า อาคารพาณิชย์ ในซอยรามคำแหง 1 แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้า ล่าสุด วันนี้ (20 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผกก.สน.หัวหมาก เผยว่า ได้เรียกผู้รับเหมามาสอบปากคำแล้ว เบื้องต้นยืนยันว่า ชุดแรกที่มาทำงานเมื่อ 6 เดือนก่อนไม่ได้ทิ้งงาน แต่ทำงานเสร็จเร็ว
โดยมีด้วยกัน 4 คน เป็นคนไทยและชาวไทยใหญ่ สามารถติดตามตัวได้ทั้งหมด คาดว่าจะเข้าให้การได้อย่างช้าที่สุดไม่เกินสัปดาห์หน้า ส่วนผลการชันสูตรเบื้องต้นจากการพูดคุยกับแพทย์อย่างไม่เป็นทางการ ทราบว่าศพไม่มีร่องรอยการแตกหัก หรือบาดแผล
ขณะที่ชิ้นส่วนอื่นๆ ตรวจสอบได้ค่อนข้างลำบาก เพราะเสียชีวิตมาเป็นเวลานาน และศพแช่อยู่ในน้ำจนเริ่มเน่าเปื่อย ต้องรอผลการชันสูตรอย่างเป็นทางการ นำมาพิจารณาร่วมกับผลการตรวจสถานที่เกิดเหตุ จึงจะได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนมากขึ้น
มีรายงานข่าวว่า เมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) นางวุ่น อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมา ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ หลังสงสัยว่าศพที่พบในแท็งก์น้ำ จะเป็นญาติของตัวเอง ที่หายตัวไปตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
นางวุ่น ให้การว่า เหตุที่เกิดเชื่อว่าเป็นญาติของตนเอง เพราะจดจำเสื้อผ้าได้ โดยญาติชื่อว่า นางเงิน อายุ 30 ปี เป็นชาวเมียนมา เข้ามาทำงานในไทยเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ นางเงินจะทำงานเลี้ยงเป็ด และนำไข่เป็ดของนายจ้างในจังหวัดชลบุรีไปกิน
แต่เนื่องจากญาติของตนเองมีอาการทางประสาท มักมีอาการเหม่อลอย และเคยก่อเหตุขโมยไข่เป็ดของนายจ้างกิน แล้วถูกนายจ้างจับได้ จึงถูกขู่ว่าหากทำแบบนี้อีกจะถูกไล่ออก ส่งกลับไปที่ประเทศเมียนมา ทำให้นางเงินเกิดความหวาดกลัว และมักไปหลบซ่อนตัวตามป่า
นางวุ่น ให้การอีกว่า กระทั่งตนเองไปรับตัวมาอยู่ด้วยกันที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ 3-4 หลัง ในเดือน มิ.ย. แต่หลังจากนั้นเพียง 4 วัน นางเงินหายตัวไปอีก หาเท่าไรก็หาไม่เจอ เข้าใจว่าจะไปหลบซ่อนตัวเพราะกลัวถูกจับส่งกลับจึงไม่ได้แจ้งความกับทางตำรวจไว้
ทั้งนี้ ตำรวจจะนัดหมายให้ นางวุ่น ไปเก็บตัวอย่าง DNA นำไปเปรียบเทียบกับศพเพื่อยืนยันว่าใช่ญาติที่สูญหายไปหรือไม่