เกษตรกรกัมพูชาจี้ ฮุนเซ็น ลดนำเข้าหมูจากไทย

เกษตรกรกัมพูชาจี้ ฮุนเซ็น ลดนำเข้าหมูจากไทย

เกษตรกรกัมพูชาจี้ ฮุนเซ็น ลดนำเข้าหมูจากไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เกษตรกรเลี้ยงหมูในกัมพูชาจี้ ฮุนเซ็น ลดโควต้านำเข้าหมูจากไทย50% ให้เหลือวันละ 400 ตัว อ้างหมูนำเข้าจากไทยมีมากกดราคาหมูกัมพูชาทรุดฮวบ

หนังสือพิมพ์พนมเปญ โพสต์ รายงานวานนี้ (25ธ.ค.)ว่า บรรดาเกษตรกรในกัมพูชาเรียกร้องให้รัฐบาลภายใต้การนำของสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีลดโควต้าการนำเข้าหมูจากไทย โดยอ้างว่าปริมาณนำเข้าหมูจำนวนมากจากไทยกำลังทำให้ราคาหมูในท้องถิ่นถูกลงและทำให้เกษตรกรจำนวนหลายร้อยคนต้องเลิกอาชีพเลี้ยงหมูขาย

นายเคอร์ติส ฮันด์ลีย์ คณะผู้แทนจากยูเอสเอด ที่รับผิดชอบโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งเอ็มเอสเอ็มอี ในกัมพูชา ได้กล่าวต่อที่ประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ทางการกัมพูชาได้เพิ่มปริมาณนำเข้าหมูจากไทยเพิ่มขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บรรดาผู้นำเข้าสามารถส่งหมูเข้าไปในกัมพูชาได้ในโควต้าวันละ 800 ตัว

"การเพิ่มโควต้าดังกล่าว ทำให้ปริมาณหมูนำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากประมาณ 2,000 ตัวในปี 2550 เป็น 3 แสนตัวในปี 2551 และปีนี้ ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจฟาร์มหมูหลายร้อยแห่งในกัมพูชาต้องปิดกิจการเพราะสู้ปัญหาราคาหมูตกไม่ไหว ขณะที่รายได้ที่บรรดาผู้ประกอบการไทย ได้จากการนำเข้าหมูเหล่านี้ เข้ามาขายในกัมพูชา ประมาณ 35 ล้านดอลลาร์ เท่ากับมูลค่าทางการที่บรรดาเกษตรกรกัมพูชาสูญเสียไป ซึ่งตัวเลขนี้ ยังไม่รวมหมูที่ลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฏหมายจากไทยและเวียดนาม "นายฮันด์ลีย์ กล่าว

ข้อเรียกร้องนี้มีขึ้น หลังจากมีการประชุมเกษตรกรเลี้ยงหมูและผู้ประกอบการทุกคนที่ทำธุรกิจฟาร์มหมูทั่วประเทศ ที่กรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.โดยที่ประชุมได้เรียกร้องให้รัฐบาลลดปริมาณนำเข้าหมูจากไทยลง 50% พร้อมทั้งปรับเพิ่มราคาหมู

อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการสำนักงานผลิตภัณฑ์และสุขภาพสัตว์ของกัมพูชา จะแสดงความวิตกกังวลว่าบรรดาผู้ประกอบการในท้องถิ่นอาจจะไม่สามารถผลิตหมูได้ในปริมาณที่ตลาดต้องการก็ตาม

"ทำไมเราถึงต้องนำเข้าหมูจากไทย ก็เพราะเรารู้ว่าในแต่ละวัน เราเจอปัญหาขาดแคลนหมูตลอด เพราะเราพึ่งพาเกษตรกรหรือผู้ประกอบการในกัมพูชาอย่างเดียว ซึ่งไม่สามารถเพิ่มปริมาณสินค้าได้ตามความต้องการของตลาด และผมเห็นว่า การลดนำเข้าหมูจากไทย เป็นการปิดกั้นการแข่งขัน ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว อาจจะทำให้หมู กลายเป็นสินค้าราคาแพง ที่ผู้บริโภคทั่วไปไม่สามารถหาซื้อได้ นอกจากนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูก็ต้องการขายหมูได้ในราคาสูงๆ ส่วนผู้บริโภคก็ต้องการหมูถูกๆ เพราะฉะนั้น เราต้องนำเข้าหมูจากไทย เพื่อรักษาราคาหมูในตลาดให้มีเสถียรภาพ"ผอ.สำนักงานผลิตภัณฑ์และสุขภาพสัตว์ของกัมพูชา กล่าว

ด้านนายปรัก จันดารา เกษตรกรเลี้ยงหมูในจังหวัดกัมปง สปือ ของกัมพูชา เรียกร้องให้รัฐบาลลดโควต้านำเข้าหมูลงครึ่งหนึ่งเหลือประมาณ 400 ตัวต่อวันโดยให้เหตุผลว่า ราคาหมูในตลาดในทุกวันนี้สูงกว่าต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยรวมในการเลี้ยงหมู

"ถ้ารัฐบาลลดโควต้าเหลือ 400 ตัวต่อวันผมคิดว่าเกษตรกรเลี้ยงหมูจะพอใจ เพราะพวกเขาสามารถขายหมูได้มากขึ้น และเราก็เชื่อมั่นว่าสามารถนำหมูออกสู่ตลาดได้ในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค นายปรัก กล่าว

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชา ระบุว่า ราคาเนื้อหมูค้า ปลีกณ.วันที่ 17 ธ.ค. ในกรุงพนมเปญและรอบๆกรุงพนมเปญอยู่ที่กิโลกรัมละ 15,400 เรียล(3.69 ดอลลาร์)ลดลง 3.75% ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา

นายเข็ม โกศล เกษตรกรชาวกัมพูชา ซึ่งยึดอาชีพเลี้ยงหมูขายในจังหวัดกัมปง จาม มาตั้งแต่ปี 2538 ยอมรับว่าหมูนำเข้าก็เป็นสิ่งจำเป็น แต่เห็นว่ารัฐบาลกัมพูชาจำเป็นต้องปรับระบบโควต้าให้มีความยืดหยุ่น และกำหนดเพดานนำเข้ารายวันหรือรายสัปดาห์เพื่อแก้ปัญหาหมูในตลาดขาดแคลนเป็นการชั่วคราว

"หมูนำเข้าทำให้ราคาหมูในท้องถิ่นถูกลงมาก และเกษตรกรที่มีทุนน้อย ทำธุรกิจฟาร์มหมูแบบครอบครัวก็อยู่ไม่รอด ต้องปิดฟาร์มไป ถ้ารัฐบาลไม่แก้ปัญหานี้ให้เรา ผู้เลี้ยงหมูรายเล็กๆอย่างผมก็เตรียมตัวตายได้ ผมไม่ได้บอกว่า เราไม่ควรระงับการนำเข้าหมูทั้งหมดจากไทย แต่อยากให้รัฐบาลปรับโควต้าใหม่ให้รัดกุมมากกว่านี้ "นายเข็ม กล่าว

ขณะที่นายติง โวที เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูอีกรายในจังหวัดกัมปง จาม เรียกร้องให้รัฐบาลปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษีนำเข้าหมูรายจังหวัด ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาปริมาณหมูในท้องถิ่นและปัญหาความต้องการหมูในตลาดได้ พร้อมทั้งเสนอให้รัฐบาลเข้ามาดูแล การจัดเก็บค่าธรรมเนียมอย่างไม่เป็นทางการแก่บุคคลต่างๆที่นำหมูเข้ามาในกัมพูชาจากจุดผ่านแดนทุกจุด ซึ่งเห็นว่าเป็นช่องโหว่ประการหนึ่งที่ทำให้เกิดการลักลอบนำเข้าหมูอย่างผิดกฏหมายในกัมพูชา จึงอยากให้รัฐบาลปราบปรามเจ้าหน้าที่กัมพูชาที่มีพฤติกรรมเก็บค่าธรรมเนียมเหล่านี้เสีย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook