พ่อปลุกลูกชาย 5 ขวบ ขึ้นมาตี ถ่ายคลิปส่งแม่ อ้างเด็กก้าวร้าว เพราะเมียเก่าเลี้ยงตามใจ
จากกรณีที่มีเพจดังชื่อ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2 ได้โพสต์ข้อความว่า มีคลิปจาก tiktok แต่ผิดมาตรฐาน รายละเอียดตามภาพ ใครพอรู้มีข้อมูลเพิ่มเติมบ้าง ฝากเจ้าหน้าที่ที่บางแสนถ้าสามารถติดตามได้ช่วยดูหน่อย โดยในคลิปมีข้อความว่า
(ตัวตึงบางแสน) ตีเด็กอย่างกับหมา อย่าอ้างว่าเด็กต้องถูกสั่งสอนมึงตีขนาดนี้มันไม่ได้เรียกว่าสอนแล้ว ตีขู่เอาเงินจากแม่น้อง หลักฐานครบมาก อยากช่วยแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง พึ่งมานั่งดูคลิปทั้งหมด มันหลับไปแล้วก็ไปตีมันให้ตื่น พอมันตื่นก็ตีให้หลับประสาทแดกมากใครอยากเห็นหน้าคราตาเตี๋ยวบอกพิกัดและหน้าเลี้ยหู้ให้ดูได้ค่ะฝากสังคมลงโทษไอ้เปรตนี่
พร้อมกับคลิปวิดีโอ พ่อกำลังตบตีลูกและด่าเสียงดังจนเด็กร้องให้เสียงดังและมีการบังคับไม่ให้ร้อง และบังคับให้นอนจนชาวเน็ตต่างพากันวิจารณ์พ่อเด็กทำเกินกว่าเหตุ ถึงจะเป็นพ่อก็ไม่ควรตีลูกขนาดนี้
โดยทราบต่อมาว่า คนที่นำคลิปดังกล่าวมาเผยแพร่ เป็นแฟนเก่าของพ่อเด็ก ที่ทนพฤติกรรมไม่ไหวจนต้องเลิกรากันไป แล้วมาพบคลิปดังกล่าวอยู่ในมือถือตนเอง เนื่องจากพ่อเด็กนำไปถ่ายเพื่อส่งให้อดีตเมีย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังชายหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้พบกับ นายเต๋า อายุ 28 ปี พ่อเด็กมีอาชีพดูแลล็อกเตียงขายอาหารริมชายหาดบางแสน เล่าว่าตนกับแม่เด็กอยู่กินกันมานานมีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 4 ขวบ และตนกับแม่เด็กก็เพิ่งเลิกกันไปไม่นานและคลิปนั้นตนส่งไปตั้งนานแล้ว เพื่อให้แม่ของลูกดูว่าตนตีลูกนั้นเพราะรักตีสั่งสอนเท่านั้น เพราะลูกมีอาการก้าวร้าวและชอบตีพ่อ ตนจึงตีเพื่อสั่งสอนเท่านั้น ตามประสาพ่อสั่งสอนลูกไม่ให้ก้าวร้าวและตีพ่ออีก หลังจากที่แม่เด็กได้เอาคลิปไปเผยแพร่ทำให้ตนได้รับความเสียหาย และถูกประณาม ตนก็จะแจ้งความเอาเรื่องกับแม่เด็กด้วย
ทางด้านนางสาวดวงพร อายุ 26 ปี แม่ค้าขายอาหารตามสั่งตามชายหาดบางแสนได้เปิดเผยว่า ตนเห็นพ่อเด็กก็รักเด็กดีอาจจะตีลูกเพราะสั่งสอนหรือเปล่า แต่ตอนพามาเล่นที่ทำงานด้วย ก็ไม่เห็นจะด่าหรือดุลูกเลย ส่วนที่บ้านตนก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไงกัน
ทางด้าน น.ส.นพมาศ อายุ 51 ปีแม่ค้าขายอาหารตามสั่งชายหาดบางแสนที่อยู่ติดกันก็ได้เปิดเผยว่า คนอื่นจะมองว่าพ่อเด็กเป็นคนไม่ดีหรือเปล่า ตนก็ไม่รู้แต่เรื่องในครอบครัวเขา เราก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงตีลูกได้ขนาดนั้น แต่ยังไงเขาก็เป็นพ่อลูกกันอยู่แล้ว ซึ่งทางตำรวจจะได้เรียกพ่อเด็กมาสอบสวน และจะได้ประสานมูลนิธิเด็กและ พม.ลงมาดูแลเรื่องสภาพจิตใจของเด็กเพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป